GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "The Last of Us Part II"
ข่าวลือ: โหมด Multiplayer ของเกม The Last of Us Part II อาจเปิดให้เล่นแบบ F2P?!
สำหรับแฟนๆ ของโหมด Multiplayer อันยอดเยี่ยมของเกม The Last of Us ภาคแรกหรือ 'Factions' น่าจะผิดหวังไม่น้อยที่เกม Part II ไม่ได้มีโหมดนี้ออกมาให้เล่นอีกครั้ง และแม้ว่าผู้พัฒนา Naughty Dog จะเคยยืนยันแล้วว่าโหมด Factions จะกลับมาอีกครั้งในฐานะเกมแยกของตัวเองในอนาคต แต่ก็ยังไม่เคยมีข่าวคราวความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับเกมออกมาเลยจนถึงบัดนี้ เมื่อข้อมูลจากประกาศรับสมัครงานของค่าย Naughty Dog บ่งชี้ว่าเกม Multiplayer ที่ว่านี้อาจจะเปิดให้บริการแบบ Free-to-play?!สำหรับตำแหน่งที่กำลังพูดถึงคือตำแหน่ง 'นักออกแบบระบบการเงินและเศรษฐกิจในเกม' (Senior Monetization / Economy Designer) ซึ่งมีหน้าที่ในการออกแบบโมเดลการเก็บเงินของเกม รวมไปถึงออกแบบระบบการซื้อขายภายใน 'เกม Multiplayer เต็มตัวเกมแรกของ Naughty Dog' ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าคือเกม 'Factions' แต่เกมดังกล่าวก็เป็นเกม Multiplayer เกมเดียวที่ค่ายเคยยืนยันว่าพัฒนาอยู่ จึงเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นเกมนี้ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเกมอาจจะใช้ระบบ 'Free-to-play' (เล่นฟรี) มาจากความรับผิดชอบข้อหนึ่งในประกาศรับสมัครงาน ที่ระบุว่าผู้รับตำแหน่งจะมีหน้าที่ในการออกแบบระบบ 'Monetization' (การทำเงิน) สำหรับเกม ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถซื้อไอเทมได้ด้วย 'ค่าเงินที่หาได้จากการเล่นเกม และการซื้อด้วยเงินจริง' ซึ่งฟังดูเหมือนโมเดลธุรกิจของเกม Free-to-play มากกว่าเกมราคาเต็ม นอกจากนี้ ผู้สมัครตำแหน่งดังกล่าวยังต้องมีความเข้าใจใน 'จิตวิทยาของผู้เล่น' รวมไปถึง 'เข้าใจแนวทางการเล่าเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Naughty Dog' อีกด้วยต้องยอมรับว่าแม้ PlayStation จะประสบความสำเร็จมากๆ ในส่วนของเกม Singleplayer ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เกม Multiplayer เต็มรูปแบบของค่ายกลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักเมื่อเทียบกับเกมเล่นคนเดียวทั้งหลาย ซึ่งเกม The Last of Us Part II Multiplayer นี้จะประสบความสำเร็จได้เท่ากับภาคแรกหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ จ้าแหล่งข่าว: Dexerto
06 Jan 2022
The Last Of Us Part II มีภาพ GIF ให้ทุกคนได้เอาไปใช้กันแล้ว !!
หนึ่งในการสื่อสารบางครั้งเชื่อว่าหลายๆ คนอยากเพียงส่งภาพบางอย่างให้อีกฝั่งรับรูปถึงความรู้สึกในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมไม่น้อยในปัจจุบัน และถือว่าเป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจ และเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย และถ้าหากคุณชื่นชอบเกมอย่าง The Last Of Us แล้วหล่ะก็ทางผู้พัฒนาแจกภาพ GIF ให้แฟนๆ ได้ใช้แล้วหล่ะ ซึ่งภาพ GIF ดังกล่าวถูกปล่อยออกมาโดย Naughty Dog ทีมพัฒนาตัวเกม The Last Of Us มาจนถึงภาคปัจจุบันโดยคอลเลกชั่นรูปจากภาพดังกล่าวจะเป็น GIF ของ The Last Of Us Part II ที่ทางผู้พัฒนาปล่อยออกมาเพิ่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่หลากหลายคนต่างชื่นชอบในตัวเกม via GIPHY ตัวไฟล์ GIF มีให้ใช้กันมากมายคุณสามารถเลือกเอาภาพเหล่านั้นไปใช้ตอบคอมเม้นในโซเชียลได้ตามความต้องการ ถือเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ที่น่ารักไม่น้อยเลยหล่ะ Credit: Gameinformer
29 Sep 2020
รวมข่าวคราวและเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากงาน The Last of Us Day 2020
สำหรับแฟนๆ ของซีรี่ส์ The Last of Us นั้น วันที่ 26 กันยายนของทุกปีถือเป็นวันพิเศษ เพราะตรงกับวัน "The Last of Us Day" (เปลี่ยนชื่อจาก Outbreak Day ซึ่งหมายถึงวันที่ไวรัส Cordyceps เริ่มแพร่) ซึ่งเปรียบเสมือนวันที่เหล่าเกมเมอร์จะร่วมกันเฉลิมฉลองซีรี่ส์แอคชั่นชื่อดังของผู้พัฒนาค่าย Naughty Dog สำหรับงาน "The Last of Us Day 2020" ครั้งล่าสุดนี้ แม้จะยังเร็วไปที่จะคาดหวังข่าวคราวของเกมภาคต่อ แต่ก็ยังมีข่าวคราวและเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับซีรี่ส์ออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันอยู่พอสมควร โดยเราได้รวบรวมเอาข้อมูลทั้งหมดในงานมาสรุปให้แบบง่ายๆ แล้วตรงนี้ จะมีอะไรบ้าง ไปดู! ภาพปกเกมโดย Yoji Shinkawa (Kojima Productions) สำหรับเซอร์ไพรส์ชิ้นแรก เป็นผลงานภาพวาดปกเกมโดยคุณ Yoji Shinkawa ผู้ซึ่งเคยเป็น Lead Character Designer (หัวหน้าทีมออกแบบตัวละคร) ของซีรี่ส์ Metal Gear นั่นเอง! แน่นอนว่าโปสเตอร์ก็ทำออกมาในสไตล์ของปกเกม Metal Gear Solid ภาคคลาสสิค ดูแปลกใหม่สวยงามสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถโหลดภาพนี้มาใช้เป็นพื้นหลังของคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ตามลิงค์ด้านล่าง: PC Mobile เผชิญโลกอันโหดร้ายในรูปแบบบอร์ดเกม! สำหรับเกมเมอร์สายบอร์ดเกมทั้งหลาย ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ประกาศในงานว่ากำลังจะมี The Last of Us ฉบับเกมกระดานมาให้เล่นกันแล้ว! โดยบอร์ดเกมดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาร่วมกับบริษัทผลิตบอร์ดเกม CMON ผู้ซึ่งเคยพัฒนาบอร์ดเกม Bloodborne: The Board Game และ God of War: The Card Game มาก่อนนั่นเอง ในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากไปกว่านี้ เพราะเกมยังอยู่ในกระบวนการพัฒนาขั้นต้นเท่านั้น แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอแน่นอน! รับบทสาวล่ำอย่างมั่นใจ ด้วยไกด์ Cosplay Guide ทางการจากผู้พัฒนา! เมื่อปีที่แล้ว ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ก็ได้แสดงการสนับสนุนแฟนเกมสายคอสเพลย์ด้วยการปล่อย Cosplay Guide สำหรับตัวละคร Ellie ออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละคร เพื่อให้สามารถใช้อ้างอิงสำหรับคนที่ต้องการแต่งตัวเป็น Ellie นั่นเอง ในปีนี้ ทางผู้พัฒนาก็ยังคงสนับสนุนวงการคอสเพลย์ตามเคย ด้วยการปล่อย Cosplay Guide สำหรับตัวละคร Abby ออกมาบ้าง (สามารถโหลดฟรีได้ ที่นี่) ให้ทุกคนสามารถคอสเพลย์เป็น Abby ได้อย่างสมจริงที่สุดไปเลยจ้า หุ่นฟิกเกอร์ Joel และ Ellie จาก The Last of Us / The Last of Us Part II เกมเมอร์สายนักสะสมห้ามพลาด กับหุ่นฟิกเกอร์ตัวละคร Joel และ Ellie งานละเอียดจากบริษัท Gaming Heads โดยจะผลิตออกมาสองชนิดหลักๆ ด้วยกันคือหุ่น Ellie (The Last of Us Part II) และหุ่น Joel & Ellie (The Last of Us) สำหรับหุ่น Ellie (The Last of Us Part II) จะวางจำหน่ายสามชุดด้วยกัน ชุดพื้นฐานจะเป็น Ellie ที่ถือมีด ในขณะที่ชุดพิเศษ Stealth Edition จะมาพร้อมกับชิ้นส่วนแขน มือ และธนูให้สามารถตกแต่งหุ่นได้ ส่วนชุดพิเศษสุด Hunter Edition จะมาพร้อมกับของแถมทั้งหมดจาก Stealth Edition แต่ตัวหุ่นฟิกเกอร์จะได้รับการทำสีสูตรพิเศษต่างจากชุดอื่นๆ ฟิกเกอร์ทั้งสามชุดผลิตจำนวนจำกัด และสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วทางเว็บไซต์ Gaming Heads โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ชุดละ $499 (ราวๆ 15,000 บาท) นอกจากหุ่น Ellie ด้านบน ยังมีชุดหุ่นฟิกเกอร์ Joel & Ellie (The Last of Us) ขนาด 1/9 ด้วย โดยแม้จะไม่มีชิ้นส่วนให้สับเปลี่ยนได้เหมือนชุดด้านบน แต่ทั้งหุ่น Joel และ Ellie ในชุดจะมาพร้อมกับฐานวางเฉพาะตัว ที่สามารถถอดเป็นหุ่นแยกกันสองตัว หรือจะต่อกันเป็นฉากเดียวก็ได้ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ทางเว็บ Mamegyorai ในราคา $350 (ราวๆ 12,000 บาท) และจะทำการจัดส่งในช่วงเดือนมีนาคม 2021 แจกฟรี! ธีม PS4 ใหม่ล่าสุดจากเกม อีกหนึ่งของแถมสุดพิเศษจากงานก็คือธีม PS4 อันใหม่ล่าสุดจากเกม The Last of Us Part II ซึ่งเป็นฉากเรือบนชายหาดที่ผู้เล่นจะได้เห็นเมื่อเล่นเนื้อเรื่องของเกมจบนั่นเอง โดยผู้พัฒนากล่าวว่าพวกเขาอยากให้ธีมนี้เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจให้กับผู้เล่น ให้พวกเขาหวนคิดถึงการเดินทางของ Ellie และข้อคิดมากมายที่ได้รับระหว่างทาง โดยผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าไปโหลดธีมนี้ได้ฟรีๆ ทางร้านค้า PS Store สัมผัสจุดเริ่มต้นของการเดินทาง: ลดราคาเกม The Last of Us Remastered / DLC Left Behind เพื่อให้เกมเมอร์ที่อาจจะยังไม่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกได้มีโอกาสสัมผัสซีรี่ส์เกมในตำนานนี้ ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ประกาศลดราคาเกม The Last of Us Remastered รวมไปถึง DLC Left Behind ทางร้านค้า PS Store แล้ว โดยจะได้ลดราคาลงถึง 50% ตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จากเกม สามารถพบกับสินค้าจาก The Last of Us ในราคาพิเศษได้ทางร้านค้าออนไลน์ PlayStation Gear Store ประกวดแชะภาพเกม The Last of Us Part II ลุ้นรับของรางวัลแบบ Limited Edition ไม่ต้องบอกก็น่าจะเห็นๆ กันอยู่แล้วว่าเกม The Last of Us Part II มีกราฟิกสวยงามมาก ทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนสามารถแชะภาพอันสวยงามด้วย Photo Mode ของเกมเต็มไปหมด สำหรับคนที่มีภาพสวยๆ จากเกม The Last of Us Part II อยู่ สามารถเข้าร่วมงานประกวด The Last of Us Part II Photo Mode Contest* ซึ่งให้ทุกคนอัพโหลดภาพถ่ายจากเกมเข้าไปที่เว็บ NaughtyDog.com/ugc โดยผู้พัฒนาจะทำการเลือกภาพในดวงใจสัปดาห์ละ 1 ภาพตลอดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเจ้าของภาพที่ได้รับเลือกจะได้รับของรางวัลสุดพิเศษสองชิ้น คือจอย The Last of Us Part II Limited Edition DualShock 4 และหุ่นฟิกเกอร์ Ellie ชุดพื้นฐานจาก Gaming Heads ด้วย *เปิดให้เฉพาะผู้ที่อยู่ในประเทษ USA และแคนาดาเท่านั้น ผู้กำกับแย้ม อาจมีของใหม่มาโชว์เร็วๆ นี้! แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ประกาศในงานซะทีเดียว แต่ก็เป็นข้อมูลน่าตื่นเต้นที่เปิดเผยออกมาหลังงานจบ เมื่อผู้กำกับ Neil Druckmann ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เพื่อขอบคุณเหล่าแฟนๆ ที่สนับสนุนเกมมาตลอด ก่อนจะทิ้งคำใบ้เล็กๆ เอาไว้ถึง "อีกเรื่องหนึ่ง" ที่เขารับประกันว่าคุ้มค่าการรอคอยแน่นอน! Thank you to all the wonderful fans for an incredible #TheLastofUsDay ! Your positivity and love is incredibly inspiring. Oh... and about that other thing... be patient. It’ll be worth it. ❤️ — Dr. Uckmann (@Neil_Druckmann) September 27, 2020 ทั้งนี้ คงได้แต่เดากันไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งที่คุณ Neil บอกให้อดใจรอคืออะไรกันแน่ อาจจะเป็นเกม The Last of Us Part II เวอร์ชั่น PS5 หรืออาจจะเป็นส่วนเสริม Multiplayer ที่เคยบอกว่าจะออกตามมาทีหลังก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือแฟนซีรี่ส์ The Last of Us ยังมีอะไรให้รอติดตามกันในอนาคตอันใกล้แน่นอน! Credit: IGN
28 Sep 2020
ว่าด้วยเรื่องของ เกม และ การเมือง : มิติใหม่ หรือเชื้อไฟที่ไม่ควรยุ่ง?
เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ปราชญ์ชาวกรีกอย่าง อริสโตเติล ได้กล่าวถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาไว้ข้อหนึ่งว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ อันหมายถึง มนุษย์จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ได้ ก็ต่อเมื่อรวมตัวกันเป็นสังคม เป็นเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ นั่นทำให้กฎระเบียบ ความคิด และความเชื่อ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำกับควบคุม และคำว่า ‘การเมือง’ ของอริสโตเติล จึงไม่ใช่แค่ระบอบใดระบอบหนึ่ง แต่ครอบคลุมถึงการกระทำและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในสังคม ภายใต้กติกาและเงื่อนไขเดียวกัน     มาในปัจจุบัน สังคมทวีความหลากหลายในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น และสื่อบันเทิงอย่างวิดีโอเกม ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญภายในครัวเรือน และมีพลังมากพอในการที่จะฉายภาพแห่งจินตนาการต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง และนั่น ก่อให้เกิดคำถามหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ว่าโดยธรรมชาติของวิดีโอเกมนั้น ควรหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่นานมานี้ กับประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างมากในชิ้นงานล่าสุดของ Naughty Dog อย่าง The Last of Us Part II ที่ก่อให้เกิดกระแสต่างๆ ทั้งทางบวกและทางลบอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้     บทความชิ้นนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำว่าคุณผู้อ่านควรจะคิดเห็นอย่างไร มากไปกว่าความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อนิยามของคำว่า ‘การเมือง’ ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในชิ้นงานวิดีโอเกมยุคปัจจุบัน ว่ามันเป็นไปในลักษณะใด และจะช่วยให้แวดวงได้ก้าวเดินอย่างมีวุฒิภาวะอย่างไรในอนาคตภายภาคหน้า     จุดเริ่มต้นของวิดีโอเกมกับ ‘การเมือง’     ถ้าหากจะนับวิวัฒนาการของวิดีโอเกมตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แล้วนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีบริบทอื่นใดที่สลับซับซ้อน เป็นเพียงความสนุกเนื้อๆ ด้วยกฎและกติกาอย่างง่ายๆ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้หลายความคิดและจินตนาการไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างที่ใจคิด     แต่เมื่อก้าวล่วงเข้ามาถึงทศวรรษที่ 90 การพัฒนาวิดีโอเกมอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านภาพ เสียง เนื้อหา ทำให้การรังสรรค์ชิ้นงานต่างๆ เริ่มทวีความหลากหลาย และนั่น ทำให้มันฉายภาพที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงขึ้นมากกว่าจุดเริ่มต้นของมัน และ ‘การเมือง’ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแวดวงในเวลานั้น     แน่นอนว่าการเมืองที่ว่า คือความห่วงกังวลที่มีต่อ ‘ความรุนแรง’ ที่เกิดขึ้นในชิ้นงานวิดีโอเกม ไม่ว่าจะด้วยผลงานอย่าง Doom ในปี 1993 หรือ Mortal Kombat ในปีเดียวกัน ความสมจริงที่กลายสภาพมาเป็นความรุนแรง ก่อให้เกิดความกังขาและความกังวลในระดับการเมืองเป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น (เช่น เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Columbine Highschool ในปี 1999) และเป็นก้าวสำคัญ ที่แวดวงวิดีโอเกม ที่เคยแยกขาดออกจากกัน ได้รวมตัวกันภายใต้ธงของ Entertainment Software Association (ESA) ในปี 1994 เพื่อให้อุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้มีปากมีเสียงในพื้นที่ทางสังคมมากขึ้น (และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดเรทเกมด้วยระบบ ESRB จนถึงการจัดมหกรรม Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ขึ้นมาในภายหลัง)     และมันคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ‘การเมือง’ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมวิดีโอเกมอย่างไม่อาจแยกขาดนับจากเวลานั้นเป็นต้นมา และมักจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือความพยายามของวุฒิสมาชิก Jack Thompson ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับค่ายอย่าง Rockstar North และซีรีส์ Grand Theft Auto หรือ GTA ที่พยายามจะผลักดันให้เกิดกฎหมายการควบคุมขึ้นมาอย่างจริงจัง (แต่แน่นอนว่า ผลการวิจัย และอุตสาหกรรมวิดีโอเกมที่เติบโตขึ้นเป็นระดับหลักพันล้าน ก็ทำให้การตีฆ้องร้องป่าวของท่านวุฒิสมาชิกต้องเงียบหายและร้างลาจากเวทีไปโดยปริยาย)     ความซับซ้อนที่ทวีมากยิ่งขึ้น     แต่แม้ว่า ‘การเมือง’ จะสอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิดีโอเกม (ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะฐานคิดของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่รวมถึงค่านิยมทางสังคมต่างๆ ที่เคลื่อนตัวไปในปัจจุบัน) แต่ดูเหมือนว่า ‘การเมือง’ จะยังเป็นของแสลงสำหรับกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย หลายต่อหลายครั้ง พวกเขามักออกตัวปฏิเสธกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าผลงานต่างๆ นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือขั้วความคิดข้างใดข้างหนึ่งเป็นสำคัญ     แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?     ภายใต้ความซับซ้อนของชิ้นงานวิดีโอเกมหนึ่งๆ ที่ผ่านการพัฒนาด้านความสมจริงจนถึงขีดสุด เราคงไม่อาจมองข้ามได้เลยว่า ภาพที่ปรากฏ ระบบที่มี กติกาที่กำหนด ต่างซุกซ่อนนัยยะทางการเมืองเอาไว้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยเกมแนวสงครามอย่างซีรีส์ Call of Duty ก็ดี ซีรีส์ผจญภัยข้ามโลกข้ามยุคอย่าง Assassin’s Creed ก็ดี ซีรีส์แฮ็คเกอร์ผจญภัย Watchdogs เกม JRPG อย่าง Persona 5 ไปจนถึงเกมแนว Shooter-Looter ชื่อดังอย่างซีรีส์ Tom Clancy’s The Division เหล่านี้ ต่างมี ‘ข้อความ’ ที่ชวนให้เราฉุกใจคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ภายใต้ความเป็นไปได้ทาง ‘การเมือง’ ด้วยกันแทบทั้งสิ้น เรารับบทเป็นทหารสัมพันธมิตรในสงครามโลก เราสู้เพื่ออุดมการณ์บางอย่าง หรือใบอนุญาตสั่งฆ่าในยามที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ ‘การเมือง’ แล้ว จะเรียกว่าอะไร     เหล่านี้ ยังไม่นับเกมอินดี้อีกหลายต่อหลายชิ้นงาน ที่ไม่ปิดบังนัยยะทาง ‘การเมือง’ ของตนเอง เกมอย่าง Paper, Please หรือ Riot : Civil Unrest ก็ถูกสร้างขึ้นโดยผู้พัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องและความเชื่อทางการเมืองของตนเองอย่างเหนียวแน่น (โดยเฉพาะ Riot : Civil Unrest ที่ผู้พัฒนาไปเดินขบวนประท้วงและลิ้มรสแก๊สน้ำตาติดขอบสนามมาแล้ว…) และยิ่งแวดวงวิดีโอเกมเติบโตขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ความสลับซับซ้อนและความสามารถในการสร้างเรื่องราวผสมผสานกับความสมจริงทางภาพ เสียง และการเล่น ก็ยิ่งทำให้มันเข้าใกล้กับ ‘การเมือง’ มากยิ่งขึ้น     แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปโดยธรรมชาติของมัน ถ้าหากวิดีโอเกมคือเครื่องมือหนึ่งทาง ‘การเมือง’ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว อะไรคือปัญหาที่เรากำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้? อะไรที่ทำให้การเมืองเป็นของ ‘แสลง’ สำหรับทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย?     บางที มันอาจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายกว่าที่เราคิดเอาไว้มากก็เป็นได้     อะไรคือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ ‘การเมือง’ มาเกี่ยวข้องกับ ‘วิดีโอเกม’     จากหัวข้อที่แล้ว ที่กล่าวว่า ทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย มักจะหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยตรง และออกตัวกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วย ‘ความสนุก’ เป็นที่ตั้งนั้น บางที ปัญหาที่ทำให้การเมืองเป็นของแสลงสำหรับแวดวงวิดีโอเกม ก็อาจจะอยู่ที่คำว่า ‘ความสนุก’ ที่ว่านั้นก็เป็นได้     ไม่ได้หมายความว่าวิดีโอเกมควรจะเป็นอุปกรณ์โฆษณาชวนเชื่อหรือเผยแพร่ Propaganda อย่างตรงไปตรงมา แต่การปฏิเสธถึงความเกี่ยวพันของ ‘การเมือง’ ที่มีในชิ้นงานวิดีโอเกม มันเป็นความลักลั่นที่เริ่มจะเผยตัวให้เห็นมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ เพราะในทางหนึ่ง วิดีโอเกมเดินหน้าไปสู่ขอบเขตของความสมจริง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันก็วางตัวเองให้ออกห่างจากผลลัพธ์ของการนำเสนอจากความสมจริงนั้นๆ     ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็อาจจะหนีไม่พ้นซีรีส์อย่าง Call of Duty และซีรีส์ Grand Theft Auto ที่ที่มันได้นำเสนอประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์สงครามสุดสมจริง หรือการยั่วล้อวัฒนธรรมยุคโมเดิร์นอย่างเจ็บแสบ และนั่นทำให้ประโยคที่บอกว่าวิดีโอเกมไม่เกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ นั้น ฟังดูไม่มีน้ำหนักมากขึ้นไปทุกทีๆ เพราะแค่สองตัวอย่าง มันก็อิงแอบอยู่กับการเมืองไปแล้วโดยนัย     หรืออย่างในกรณีที่เป็นปัญหาล่าสุดอย่าง The Last of Us Part II ที่ถูกกลุ่มนักเล่นบางส่วนต่อต้านอย่างรุนแรงจากการสอดแทรกประเด็นทางความเชื่อที่แตกต่างจากชิ้นงานวิดีโอเกมอื่นอย่างสุดสเปคตรัม (จนถึงขั้นมีข้อความและจดหมายขู่ฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชนิดที่เท่าเทียมและทั่วถึง) มันก็คือผลลัพธ์จากการวางตำแหน่งของวิดีโอเกมเอาไว้ว่า จะต้องดำเนินไปเพื่อความ ‘สนุก’ เป็นที่ตั้ง ออกให้ห่างจากการแตะประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุด และต้องมีรูปแบบและแนวทางที่ผู้เล่นคุ้นเคย แบ่งชัดเจนขาวดำ จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าเศร้าใจอย่างในปัจจุบันขณะ ณ ตอนนี้     แต่เราต้องอย่าลืมว่า วิดีโอเกมนั้น เป็นสื่อความบันเทิงที่มีอายุถึงสี่ทศวรรษ และอัตราการเติบโตของมันก็ทวีมากยิ่งกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จะเทียบได้ ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องถึงจุดที่มันจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ ในฐานะที่มันเป็นสื่อที่จำลองและสะท้อนโลกแห่งความเป็นไปได้ของความเป็น ‘มนุษย์’ อย่างถึงที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ     มันอาจจะถึงเวลาที่เราต้องทบทวนท่าทีที่เรามีต่อวิดีโอเกมครั้งใหญ่ ที่ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องเดินทางมาถึง     ก้าวต่อไปของวิดีโอเกม เมื่อ ‘การเมือง’ อยู่ใกล้กว่าที่เราคิด     อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น บทความชิ้นนี้ของผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะชี้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด แต่เป็นการฉายภาพของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งวิดีโอเกม ที่ที่ความเป็น ‘การเมือง’ อาจจะไม่ใช่สิ่งไกลตัว และเมื่อถึงเวลา มันจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสื่อบันเทิงที่เรารักชิ้นนี้อย่างช่วยไม่ได้     ‘คุณพูดถึงการเมืองในชิ้นงานได้ แต่ไม่ใช่การสั่งสอนชี้นำ’ Mike Pondsmith ผู้สร้างซีรีส์ Cyberpunk 2020 และโปรดิวเซอร์ร่วมของ Cyberpunk 2077 กล่าวเมื่อถูกถามถึงการมีส่วนร่วมของการเมืองในชิ้นงานวิดีโอเกม นั่นก็เป็นสิ่งที่เข้าใจกันได้ เพราะถ้าการเมืองเป็นเรื่อง ‘ละเอียดอ่อน’ แล้ว คงไม่มีใครชื่นชอบ ที่จะถูกชี้หน้าแล้วบอกว่าความคิดและความเชื่อของตนเองนั้นผิด ไม่ถูกต้อง     แต่ผู้เขียนขออนุญาตเสริมในจุดนี้สักนิดหนึ่งว่า บางที มันอาจจะไม่เสียหาย ถ้าชิ้นงานวิดีโอเกม จะนำเสนอแนวคิดทางการเมืองและความเชื่อของทีมสร้าง (เช่นที่เกิดขึ้นกับ The Last of Us Part II) มันเป็นสิทธิ์ที่ทีมพัฒนาจะสามารถพึงกระทำได้ และเราในฐานะผู้เล่น ก็มีสิทธิ์อีกเช่นกัน ที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ไปจนถึงอาจจะไม่ชื่นชอบสารที่สื่อออกมา (และดูเหมือนว่า ทีมพัฒนาจะคิดไปไกล และลึกกว่าที่เราคาดเอาไว้มากนัก)     แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า วิดีโอเกมคือความหลากหลาย และมันสมควรที่จะเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ และไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนหลบหลีกคำว่า ‘การเมือง’ ทั้งที่มันเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการสร้างมานับสิบกว่าปี และต้องมีพื้นที่ให้กับการส่งเสียงทางความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างเสรี  (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่แนวคิดและอุดมการณ์ต่างๆ เช่นความเท่าเทียมทางเพศ, LGBTQ+ และความโปร่งใสในกระบวนการทำงานเริ่มมีบทบาทและส่งเสียงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมากขึ้นทุกขณะ)     สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเห็น (แม้มันจะยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าที่จะไปถึง) คือการถกเถียงพูดคุยกันอย่าง Constructive ว่าชอบ หรือไม่ชอบ เพราะเหตุใด ไม่มีการชี้หน้าด่าทอ ใครที่ชอบก็ออกมาบอกว่าชอบเพราะอะไร ใครที่ไม่ชอบ ก็โต้แย้งว่าไม่ชอบที่ตรงไหน ต่อยอดไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ (แน่นอน เหตุการณ์ที่ทีมงาน Gamespot ด่า Angry Joe ที่ให้คะแนน The Last of Us Part II ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ เป็นพวกเหยียดเพศนั้นก็จัดว่าเป็นอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เลยแม้แต่น้อย…)     และผู้พัฒนา สมควรที่จะสร้างสรรค์ชิ้นงานได้โดยปราศจากความกลัว ให้โลกของวิดีโอเกมมีความหลากหลาย ไม่แตกต่างอะไรกับแวดวงภาพยนตร์ ที่มีทั้งชิ้นงานป็อบคอร์น Blockbuster จนถึงงานระดับเชิงศิลป์สุดโต่ง ความหลากหลายเหล่านี้ จะทำให้แวดวงวิดีโอเกมเติบโต และมีงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจออกมาอีกมากมายในอนาคต มันอาจจะถึงเวลาแล้ว ที่มันจะต้องก้าวต่อไป เรียนรู้จากมัน อันนำไปสู่การเติบโตทางความคิดที่เปิดกว้างของตัวผู้เล่นในอีกทางหนึ่งด้วย     ดังที่อริสโตเติลกล่าวเอาไว้ ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ และผลลัพธ์ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คน ผ่านสื่ออย่างวิดีโอเกมนั้น ก็ยากที่จะออกห่างจาก ‘การเมือง’ ไปได้ในอนาคต เราอาจจะสมควรที่จะต้องติดอาวุธทางความคิด พร้อมรับกับวุฒิภาวะที่มากขึ้น เพื่อให้แวดวงวิดีโอเกมก้าวต่อไป และถ้าการเมืองเป็นเหมือน ‘ไฟ’ ที่พร้อมสร้างอันตรายได้ในทางหนึ่งแล้วนั้น… ‘มันก็มีคุณประโยชน์ที่จะนำพาไปสู่การพัฒนาต่อยอด ถ้าหากใช้มันได้อย่างถูกวิธี และมีแนวทางที่เหมาะสมชัดเจนในการเข้าหามันเช่นนั้นเอง…’
24 Jul 2020
Naughty Dog กำลังจ้างคนเพื่อทำเกมใหม่ของ PS5
หลังจากที่ Naughty Dog ได้วางจำหน่าย The Last of Us Part II ที่ใช้เวลาพัฒนานานหลายปี พวกเขาก็ได้หยุดพักก่อนที่จะทำโปรเจคต่อไป ถึงยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นเกมอะไรแต่ที่แน่ๆ มันจะเป็นเกมของ PS5 ครับ เมื่อไม่นานมานี้หน้าเว็บรับสมัครงานของ Naughty Dog ได้ประกาศรับหลายตำแหน่ง และในรายละเอียดของตำแหน่ง Tools Programmer มีการกล่าวถึงการทำงานว่า "วิเคราะห์กราฟิกรุ่นต่อไปของเรา" ในขณะเดียวกันรายละเอียดของตำแหน่ง Melee / Gameplay Animator นั้นค่อนข้างชัดเจนในเรื่องของการวางแผนที่จะพัฒนาโปรเจคใหม่ Naughty Dog กำลังมองหาอนิเมเตอร์ที่มีความสามารถเพื่อช่วยพวกเขาสร้างเกมที่น่าสนใจสำหรับโปรเจคในอนาคต ซึ่งหน้าที่ของตำแหน่งนี้อาจรวมถึงการช่วยกำหนดรูปแบบการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หรือต้นแบบของศัตรูต่างๆ และทาง Creative Director ของ The Last of Us Part II และคุณ Neil Druckmann รองประธานของ Naughty Dog กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเกมต่อไปของพวกเขาอาจจะเป็นแฟรนไชส์ใหม่ หรือ The Last of Us Part 3 ก็ได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันพวกเขาจะยังไม่มีความคิดว่าจะใช้วิธีไหนในการนำเสนอเนื้อเรื่องต่อไปดี ซึ่งมันก็น่าตื่นเต้นทั้งสองแบบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ใหม่หรือว่าเป็น The Last of Us Part 3 แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังต้องติดตามต่อไปว่าโปรเจคใหม่ของพวกเขานั้นจะเป็นเกมอะไรแน่ Credit: Gamingbolt
10 Jul 2020
ผู้กำกับ Neil Druckmann เปิดหมดเปลือกกับธีมและตอนจบของเกม The Last of Us Part II
***บทความนี้จะสปอยเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II เยอะมาก รวมถึงตอนจบด้วย*** เกม The Last of Us Part II อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกมยอดเยี่ยมที่มีคนเกลียดมากที่สุดเกมหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านเนื้อเรื่องของเกม ที่ทำลายความคาดหวังของผู้เล่นหลายๆ คนไปอย่างเลือดเย็น หรือประเด็นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา หรือกระทั่งเพศสภาพของตัวละคร ที่หลายคนมองว่าเป็นการผลักใสประเด็นทางการเมืองของผู้พัฒนาใส่ผู้เล่น จนเกิดเป็นการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่ที่ข้อมูลเนื้อเรื่องหลุดออกมาก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย จนถึงปัจจุบันที่เกมวางจำหน่ายไปแล้วเกือบ 3 สัปดาห์ด้วยกัน ในช่วงก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย (แต่หลังจากที่ข้อมูลด้านเนื้อเรื่องหลุดออกมาแล้ว) ทางเว็บไซต์ Eurogamer ได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์คุณ Neil Druckmann ผู้กำกับและผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II เกี่ยวกับสิ่งที่เกมต้องการจะสื่อผ่านเนื้อเรื่อง ไปจนถึงประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับตัวละครใหม่ๆ อย่างแอ๊บบี้และเลฟ ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก เราจึงอยากจะแปลบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจ้า! ในช่วงครึ่งหลังของเกม (ที่คุณรับบทเป็นแอ๊บบี้) มันน่าเศร้ามากที่คุณได้พบกับผู้คนและสุนัขที่คุณฆ่าตายไปก่อนหน้านี้ในฐานะเอลลี่ และมันทำให้ผมรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ ผมรู้สึกผิดต่อพวกเขา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผมไม่ค่อยพบในวิดีโอเกมเท่าไหร่ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย ND: คุณพูดถึงประเด็นเรื่องความละอายและความรู้สึกผิด ทั้งสองอย่างนี่มันช่างเป็นอะไรที่มีความเป็นเกมสูงเนอะว่าไหม เพราะเกมเท่านั้นที่ให้ผู้เล่นได้ลงมือกระทำอะไรซักอย่างด้วยการตัดสินใจของตัวเอง และทำให้พวกเขาได้เห็นผลของการกระทำนั้นๆ และสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อตัวละครอื่นๆ เอาเข้าจริง ในการโฆษณาเกม เรามักจะบอกว่าเกม Part II นี้มันเกี่ยวกับความแค้นและความเกลียดชัง ซึ่งมันไม่จริงเลย เกมนี้เป็นเกมเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจ เกี่ยวกับการให้อภัยต่างหาก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถสร้างความรู้สึกเกลียดชังสุดขีดในใจของผู้เล่นได้ เพื่อให้พวกเขาอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นกลุ่มคนเหล่านั้นต้องชดใช้ต่อการกระทำ และมันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ตอนนี้ คุณเห็นวิธีที่พวกเขาพูดถึงข้อมูลหลุด วิธีที่พวกเขาพูดจาและกระทำต่อแอ๊บบี้ราวกับเธอไม่ใช่มนุษย์ มันน่ากลัวมาก แต่มันก็คือธรรมชาติของมนุษย์ ที่เราทุกคนล้วนเคยกระทำ เราเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราได้เห็นบทสัมภาษณ์ของคนที่สูญเสียคนรักหรือบุตรให้กับความรุนแรง พวกเขามักจะพูดทำนองว่า ถ้าชั้นจับไอ้คนกระทำมาอยู่ตรงหน้าได้ ชั้นคงถลกหนังมันทั้งเป็น และผมเชื่อพวกเขานะ ผมเชื่อว่าในสถานการณ์ที่ถูกต้อง มนุษย์ธรรมดาอย่างเราล้วนกระทำอะไรแบบนั้นได้ทุกคน ซึ่งสิ่งที่เราอยากจะทดลองในเกมนี้ก็คือ เราจะสามารถนำพาผู้เล่นไปอยู่ในจุดนั้น ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และทำให้พวกเขาต้องหยุดคิดและสำรวจจิตใจของตัวเองได้อย่างไร และบางทีมันอาจจะทำให้เมื่อมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นนอกเกม คุณอาจจะมีสติและความเห็นอกเห็นใจมากพอที่จะหยุดและตั้งคำถามกับตัวเองถึงมุมมองที่ต่างจากคุณ ฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างเอลลี่และแอ๊บบี้มันช่างให้ความรู้สึกกระเสือกกระสนและว่างเปล่าเหลือเกิน เหมือนว่ามันไม่สามารถมีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะได้เลย ผมรู้สึกโกรธเอลลี่มาก และผมก็พร้อมจะเกลียดแอ๊บบี้มาตั้งแต่ต้นเกม แต่ในจุดนั้นมุมมองของผมมันพลิกกลับด้านไปหมดเลย คุณพยายามจะสื่อว่าเอลลี่คือตัวร้ายอยู่ใช่ไหมในฉากนั้น ND: สำหรับผม การจำกัดความตัวละครว่าเป็น "ตัวดี" หรือ "ตัวร้าย" มันเป็นการตัดสินตัวละครมากไปหน่อย สิ่งที่เราต้องการจะสื่อมากกว่าก็คือ นี่คือกลุ่มคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ ที่เลือกทางเลือกที่ไม่ถูกต้อง และแสดงให้เห็นผลของทางเลือกเหล่านั้น ก่อนที่จะตั้งคำถามว่า "มันคุ้มค่าสำหรับคุณแล้วใช่ไหม" การเดินทางของเอลลี่มันคือการออกตามหาอะไรก็ตามเพื่ออุดรูในใจที่การตายของโจเอลทิ้งเอาไว้ และความเชื่อของเธอที่ว่า ชั้นอาจจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าได้เห็นคนพวกนี้ต้องเจ็บปวดเหมือนกับโจเอล มันเลยทำให้การฆ่าทุกครั้งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งกัดกร่อนความเป็นมนุษย์ของเธอลงเรื่อยๆ มันเป็นความพยายามที่สูญเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เราอ้างอิงจากการสัมภาษณ์บุคคลในโลกจริง บางคนเป็นลูกหลานหรือพ่อแม่ของเหยื่อการฆาตกรรม ที่ได้นั่งดูคนที่ฆ่าคนรักของพวกเขาถูกประหารชีวิตต่อหน้า พวกเขาทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องการไม่ใช่การแก้แค้น แต่ต้องการให้คนที่เขารักกลับมาต่างหาก และการฆ่าคนที่พรากพวกเขาไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในขณะเดียวกัน การเดินทางของแอ๊บบี้มันคือการพยายามลบล้างความรู้สึกผิดของตัวเอง เธอได้ทุ่มเวลา 5 ปีไปกับการตามล่าตัวโจเอล เธอเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นอาวุธ เพราะเธอจินตนาการไปเองว่าโจเอลเปรียบเสมือนปีศาจในใจเธอ ถ้าคุณสังเกติดีๆ ในฉากที่โจเอลโดนยิงขา เพื่อนๆ ของแอ๊บบี้ยังมีท่าทีเกรงๆ เขาอยู่ด้วยซ้ำ และการตายของโจเอลก็เป็นอะไรที่น่าสมเพชมาก มันไม่ได้น่าพอใจหรือ "สมเกียรติ์" แต่อย่างใด มันแค่น่าเศร้าเท่านั้นเอง และเนื้อเรื่องของเธอมันก็คือการที่เธอพยายามจะหาทางไถ่บาปให้ตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือเด็กสองคนจากกลุ่มที่เป็นศัตรูของเธอมาตลอด และภารกิจนั้นเองที่ทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี กลับไปสู่ประเด็นที่คุณยกมา เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั่น ผมคงได้แต่หวัง แม้ว่าจะรู้ว่าผู้เล่นจะตีความตอนจบไปหลากหลายทางก็ตาม แต่เราหวังว่าคุณจะรู้สึกเห็นใจตัวละครทั้งเอลลี่และแอ๊บบี้ เอลลี่ในตอนจบของเกม อาจจะถือว่าอยู่ในจุดเดียวกับแอ๊บบี้ในตอนต้นของเกม ที่เข้าใจแล้วว่าการต่อสู้นี้มันช่างไร้ค่าและน่าสมเพชเหลือเกิน แอ๊บบี้ไม่ใช่คนเดียวกับแอ๊บบี้ที่ฆ่าโจเอลอีกต่อไป แต่เธอคือมนุษย์คนหนึ่งที่ผ่านประสบการณ์อันหฤโหดมาแล้ว และได้ปลดเปลื้องความรู้สึกผิดของตัวเองไปแล้ว และผู้เล่นก็เข้าใจว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นมันช่างไม่มีความหมาย เพราะได้เห็นเรื่องราวของตัวละครทั้งสองคนมาแล้ว ตัวละครเลฟเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก เพราะเขาดูเหมือนจะเป็น "ผู้บริสุทธิ์" คนเดียวในเหตุการณ์ทั้งหมด พวกคุณได้ปรึกษาหรือพูดคุยกับกลุ่มคนข้ามเพศหรือ LGBTQ ถึงวิธีการนำเสนอตัวละครตัวนี้บ้างหรือไม่ ND: ใช่ครับ เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาด้านศาสนามาเลยนะ เพราะเราตั้งใจว่าเราจะสร้างศาสนาหรือชุดความเชื่อหนึ่งขึ้นมาจริงๆ ฉะนั้นเราก็อยากจะพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งจิตใจของใคร คือทีมงานทุกคนเข้าใจตรงกันว่า การจะสร้างศิลปะที่ท้าทายผู้รับมากขนาดนี้ขึ้นมาซักชิ้นหนึ่ง มันย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนที่รู้สึกไม่ชอบ แต่ถ้าเราจะทำอะไรที่มันจะไปกระทบใจใคร อย่างน้อยก็ขอทำในวิธีที่มันไตร่ตรองมาแล้ว เพื่อไม่ให้ประเด็นเหล่านี้มากำหนดเนื้อเรื่อง แต่เพื่อให้เสริมเนื้อเรื่องแทน เรามีสมาชิกในทีมพัฒนาหลายคนที่เป็นบุคคลข้ามเพศ และเราก็ได้ปรึกษากับพวกเขาตลอดการพัฒนา เราอ่านหนังสือและรับฟังบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้มากมาย เราได้เชิญที่ปรึกษาเข้ามาเพื่อช่วยอธิบายประเด็นต่างๆ ให้เราเข้าใจ และเมื่อเราทำความเข้าใจประเด็นเหล่านั้นแล้ว เราก็ต้องพยายามลืมมันไป และสร้างตัวละครให้เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งในโลกนั้น เราไม่ได้อยากจะสร้างความหลากหลายไปอย่างนั้นเอง เราไม่ได้ใส่ตัวละครข้ามเพศเข้าไปแค่เพื่อให้มีตัวละครข้ามเพศในเรื่อง แต่เรารู้สึกว่ามันมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถพูดถึงใด้ในบริบทของศาสนา มันคือการนำเสนอตัวละครตัวหนึ่งที่ถูกล่าโดยกลุ่มคนที่เชื่อศาสนาเดียวกับเขา แถมตัวเองก็ยังเชื่อในศาสนานั้นซะเอง แค่ตีความเนื้อหาของความเชื่อนั้นไปในทิศทางที่ต่างกับคนอื่น และนั่นแหละคือประโยชน์ของความหลากหลาย คือมุมมองที่เพิ่มขึ้น ให้เราได้มองเนื้อเรื่องในมุมที่ใหม่กว่าเดิม คุณคาดหวังให้ผู้เล่นได้อะไรจากตัวละครแอ๊บบี้มากที่สุด ND: อย่างที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ผมต้องการคือให้ผู้เล่นรู้สึกเกลียดชังเธอแบบเข้าใส้ เกลียดจนอยากจะจับเธอมาทรมานอย่างโหดร้ายไปเลย ในตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น อายุประมาณเท่าเอลลี่ในเกมนี่แหละ ผมได้ดูข่าวเรื่องหนึ่ง ซึ่งแสดงภาพคนผิวดำที่ถูกจับแขวนคอจนตาย และมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของผมมาก ทั้งความรุนแรงที่ได้เห็น และเสียงร้องแห่งความยินดีที่ออกมาจากผู้คนที่กระทำความรุนแรงนั้น มันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงมากๆ และในหัวของผมตอนนั้น ผมคิดจริงๆ ว่าผมอยากจะฆ่าไอ้คนพวกนั้นให้หมด ถ้าผมสามารถกดปุ่มปุ่มหนึ่ง ที่ทำให้คนพวกนี้ตายไปพร้อมๆ กัน ผมคงกดไปแล้ว ถ้ามีคนในกลุ่มนั้นถูกจับมัดติดกับเก้าอี้อยู่ตรงหน้า ผมเชื่อว่าผมคงจับพวกเขาทรมานจนตายไปแล้ว มันคือสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ ในตอนนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป พอผมมองย้อนกลับไปที่ความคิดของตัวเองในขณะนั้น แน่นอนว่ามันเป็นความคิดที่เลวร้ายมาก ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เติบโตมาในสังคมธรรมดาๆ ตลอดชีวิตของผมมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นถึงขั้นลงไม้ลงมือแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นสมัยที่อยู่โรงเรียน แต่ผมก็ยังสามารถมีความคิดที่ชั่วร้ายแบบนั้นได้ แค่จากการนั่งดูคนอื่นกระทำอะไรบางอย่าง แล้วลองคิดต่อไปว่า ถ้ามันเป็นคนที่ผมรักล่ะ ขนาดคนถูกกระทำเป็นคนแปลกหน้าผมยังรู้สึกได้ขนาดนั้น ผมไม่ได้รู้จักใครในสถานการณ์นั้นเป็นการส่วนตัวเลยซักนิด ทั้งคนที่กระทำและถูกกระทำ มันเลยกลายเป็นข้อถกเถียงทางปรัชญาในหัวของผม ที่ผมเถียงกับตัวเองมาหลายปีแล้ว จนวันหนึ่งผมตัดสินใจว่าอยากจะสร้างความรู้สึกแบบเดียวกันนั้นในวิดีโอเกม และเราก็มีตัวละครอันเป็นที่รักมากๆ อยู่แล้ว ที่หลายคนดูจะรักเสมือนเป็นคนในครอบครัวตัวเองเลย นั่นก็คือโจเอล และถ้าตัดสินจากปฏิกิริยาของคนต่อข้อมูลที่หลุดออกมา ดูเหมือนว่าเราก็ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นได้จริงๆ ความท้าทายมันอยู่ตรงที่ว่า ถ้าคนไม่สามารถเห็นใจหรือเข้าใจตัวละครแอ๊บบี้ได้ ก็ถือว่าเนื้อเรื่องของเกมมันล้มเหลวไปแล้ว ถ้าคุณเล่นเกมจนจบ และยังรู้สึกอยากแก้แค้นเธอหรือไม่สามารถเข้าใจเธอได้ เกมทั้งหมดก็จะพังทลายลง และนั่นคือสิ่งที่ทีมพัฒนาให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือการทำให้แอ๊บบี้เป็นตัวละครที่...อาจจะไม่ใช่ "คนดี" ซะทีเดียว เพราะนั่นเป็นหลุมพรางที่นักเขียนบทหลายคนมักจะติดกับ คือเมื่อเรามีโจทย์ว่าอยากให้คนชอบแอ๊บบี้ให้ได้ งั้นทำให้เธอเป็นคนสมบูรณ์แบบไปเลยละกัน แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้เกิดการเห็นอกเห็นใจกันอย่างแท้จริง เพราะความเห็นอกเห็นใจมันเกิดก็เมื่อคนเราทำผิดพลาด และพยายามจะแก้ไขความผิดนั้นๆ แม้จะทำไม่สำเร็จทุกครั้งก็ตาม สรุปสั้นๆ ก็คือผมหวังว่าผู้เล่นจะสามารถมองเห็นเธอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความซับซ้อนไม่ต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ ในโลกจริง ระหว่างที่เล่นเกมนี้ คุณรู้สึกขึ้นมาจริงๆ ว่าอยากจะเข่นฆ่าผู้คนเหล่านั้น แต่เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง คุณก็ค้นพบว่าการฆ่าคนอย่างเลือดเย็นมันยากกว่าที่คุณคิดไว้มาก แต่มันก็ควรจะยากอยู่แล้วใช่ไหม ND: ผมไม่รู้ว่าคุณเคยดูหนังเรื่อง Saving Private Ryan หรือเปล่า แต่มันเป็นหนังที่มีอิทธิพลต่อผมมาก เพราะมันเป็นหนังที่สนุกมากๆ คุณได้ติดตามการเดินทางของกลุ่มตัวละคร ที่ล้วนมีความน่าดึงดูดและน่าสนใจมาก แต่ภาพยนตร์ก็มีความน่ากลัว มีความท้าทายคนดูพอสมควร เพราะมันเป็นหนังที่พยายามเล่นกับความคาดหวังของคนดูว่า "หนังแอคชั่น" มันควรเป็นอย่างไร หนังนำเหตุการณ์ที่เรามักเห็นในหนังแอคชั่นมาไว้ในสถานการณ์ที่อิงความเป็นจริง ซึ่งมันทำให้คุณมองเห็น "ความบิดเบี้ยว" ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น และนั่นก็คือความหวังของเรา เราไม่ได้ทำให้เกมมันรุนแรงมากๆ เพียงเพื่อสร้างความรู้สึกสะอิดสะเอียนให้คนเล่นจนเขาปิดเกมหนีไปเลย แต่เราหวังว่าเนื้อเรื่องของเกมจะเป็นแรงขับที่เพียงพอให้คุณเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ เพราะ TLoU2 เป็นเกมที่ออกแบบมาให้คุณรู้สึกถึงน้ำหนักของการกระทำในแบบที่ต่างจากเกมแอคชั่นอื่นๆ ความท้าทายของการทำอะไรใหม่ๆ สำหรับเรา คือการที่คุณไม่รู้ว่าคนจะคิดอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนั้น และคุณก็ได้เห็นผลของความเสี่ยงนั้นอยู่ตอนนี้เลย ผมคิดว่าวิดีโอเกมที่ผ่านมา อาจจะทำให้ผู้เล่นมีความคาดหวังบางอย่างต่อเกมภาคต่อ เช่นคาดหวังว่าจะได้เล่นเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง หรือคาดหวังว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปแบบหนึ่ง และทีมงานของเราอยากจะท้าทายความคิดนั้นมากๆ ถ้าให้นึกตอนนี้อาจจะนึกไม่ออก แต่ผมเชื่อว่ามันต้องมีตัวอย่างของเกมที่ฆ่าตัวเอกทิ้งในภาคต่อ ซึ่งมันสำคัญต่อเรามากที่จะไม่ให้โจเอลตายอย่างวีรบุรุษ แต่ต้องตายอย่างโหดเหี้ยม ศพไม่สวยอย่างแน่นอน ตอนที่เราเขียนบทฉากนั้น มันมีผลกระทบต่อจิตใจของพวกเราทุกคน เราเลยมั่นใจว่ามันต้องกระทบจิตใจผู้เล่นด้วยแน่นอน ผมเข้าใจได้นะถ้าแฟนของเกมภาคแรกจะเกลียดสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคนี้ แต่ถ้าคุณได้ลองเข้าไปสัมผัสเกมจริงๆ ผมเชื่อว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าโจเอลก็ยังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าตากันจริงๆ แต่จิตวิญญาณของโจเอลก็ยังแทรกอยู่ในทุกอณูของเกม ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเอลลี่ และคุณก็ได้เห็นในฉากย้อนอดีตทั้งหลายในเกม และในฉากท้ายเรื่อง ที่เอลลี่ได้ครุ่นคิดถึงการให้อภัยจริงๆ และในบทสนทนาสุดท้ายระหว่างพวกเขาทั้งสอง ที่เธอรู้สึกว่าเขาทำผิดต่อเธออย่างร้ายแรงจนเธอพร้อมจะตัดขาดกับเขาไปเลย แต่สุดท้ายเธอก็สามารถวางมือลงจนได้ ซึ่งผมมองว่านั่นแหละคือแก่นของความเป็นมนุษย์ในตัวเอลลี่ ที่ยังงดงามอยู่ แม้ว่าเธอจะต้องตัดสินใจทำสิ่งที่โหดร้ายมากมายก็ตาม Troy Baker (นักแสดงบทโจเอล) และ Ashley Johnson (นักแสดงบทเอลลี่) คิดอย่างไรกับเรื่องราวของตัวละครของพวกเขาในเกมนี้ ND: เอ่อ...ฮ่าๆ (หัวเราะ) ตอนที่ผมเล่าเนื้อเรื่องให้ Ashley ฟังครั้งแรก มันคือหลังจากที่ผมเล่าเรื่อง DLC Left Behind ของภาคแรกให้เธอฟังพอดี ตอนนั้นพวกเรานั่งคุยกันอยู่ในร้านอาหาร และเธอก็ชอบบทนั้นมากๆ และหลังจากนั้นช่วงที่เรากำลังจะเริ่มถ่ายทำเกมกัน ผมก็บอกเธอว่า เออ ผมมีไอเดียอีกแบบในหัวว่าเกมภาคต่อจะเป็นอย่างไร ซึ่ง Ashley ร้องไห้แบบสะอึกสะอื้นเลยทีเดียวเมื่อได้ฟังเรื่องที่ผมวาดไว้ในหัว แต่เธอก็คิดว่ามันยอดมากๆ เช่นกัน ในส่วนของ Troy ผมว่า... คือต้องเข้าใจว่าบทที่พวกเขาได้รับมันท้าทายสำหรับพวกเขามากๆ ผมเห็นที่คนพูดๆ กันในเน็ตว่าพวกเรา (ทีมพัฒนา) กำลังไม่ให้เกียรติ์ตัวละครของโจเอล ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่า ไอ้ห่าเอ๊ย มันไม่มีใครรักตัวละครพวกนี้มากกว่าพวกเรา (ทีมพัฒนา) อีกแล้วโว้ย ยกเว้นแค่ Troy คนเดียว ไม่มีใครรักโจเอลมากเท่า Troy Baker อีกแล้ว Credit: Eurogamer
09 Jul 2020
The Last of Us Part II กับ 18 ความลับ Easter Egg ที่คุณไม่ควรพลาด
The Last of Us Part II เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมระดับ AAA ที่ดีแทบจะทุกอย่างและที่สำคัญค่ายพัฒนาอย่าง Naughty Dog นี่ก็ขยันมากๆ ครับนอกจากจะทำทุกอย่างออกมาดีแล้วยังใส่สิ่งต่างๆ ไว้เซอร์ไพรส์แฟนๆ หรือที่เราเรียกกันว่า " ไข่อีสเตอร์ " ไว้เยอะมากๆ ครับ วันนี้ผมจะพาผู้อ่านทุกคนมาดูกับไข่อีสเตอร์ที่แฟนๆ ในภาคแรกอาจจะร้องว้าวกันไปเลยครับจะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ. 1.กระต่าย ไข่อีสเตอร์อันแรกนั้นอาจจะทำให้มีเศร้ากันบ้างนะครับนั่นคือ เจ้ากระต่ายน้อยที่โผล่ออกมาให้เห็นนอกหน้าต่างในช่วงแรกๆ ที่เราได้บังคับตัวละครอย่าง Ellie ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเรากลับไปในช่วงหน้าหนาวของ The Last of Us ภาคแรก. 2.เครื่อง PS3 ที่มีเกมคุ้นหน้าคุ้นตา ทุกคนคงไม่ลืมกันนะครับว่าตัวเกมถูกเซ็ตให้อยู่ในช่วงเวลาวันที่ 26 กันยายน 2016 ซึ่งเท่ากับว่าในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่อง PS4 และในบ้านพักของ Ellie เราจะได้พบกับเครื่องเกม PS3 พร้อมแผ่นเกมอย่าง Jak and Daxter และ Uncharted 2  ซึ่งเราจะสามารถพบเครื่อง PS3 และแผ่นเกมกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ในเกมได้อีกหลายๆ ที่นะครับ. *ใครที่สงสัยว่า Jak and Daxter และ Uncharted เกี่ยวอะไรด้วยก็ขอบอกตรงนี้นะครับทุกเกมที่ถูกกล่าวถึงเกือบทั้งหมดล้วนมี Naughty Dog เป็นผู้พัฒนาทั้งสิ้นครับ 3.ตุ๊กตายีราฟ ในช่วงที่ผู้เล่นพา Ellie ไปลาดตะเวนกับ Dina เราจะได้ไปถึงโซนสำหรับเด็กและพบกับตุ๊กตายีราฟ ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนและตัวละครอย่าง Ellie ต้องระลึกนึกย้อนไปในสมัยช่วงเวลาภาคแรก และการย้อนวันวานที่ชวนให้คิดถึงนั้นทำให้ Ellie ถึงขนาดที่ต้องหยิบสมุดบันทึกของเธอมาเขียนเรื่องราวลงไปเลยทีเดียว. 4.หนังสือการ์ตูน Savage Starlight ในช่วงค้นหาสาย String ผู้เล่นจะต้องเดินไปทั่วๆ รีสอร์ทซึ่งจะได้พบกับหนังสือการ์ตูน Savage Starlight ให้เรากดอ่านได้ด้วยครับ ผมหวังว่าหลายๆ คนคงจะจำกันได้นะครับว่าในภาคแรกนั้น จะมีช่วงหนึ่งที่ Ellie กับ Joel คุยกันถึงหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ว่าเล่มต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างและแล้วใน The Last of Us Part II เธอก็ได้พบกับหนังสือที่เธอเคยหวังจะได้อ่านต่อในตอนเด็กๆ 5.รูปถ่ายของ Sarah เมื่อเดินทางไปยังบ้านของ Joel เราจะสามารถค้นหารูปเก่าๆ ของเขากับ Sarah ลูกสาวของเขาที่เสียชีวิตไปในภาคแรกได้ครับ และสิ่งที่สื่อได้ชัดเจนเลยก็คือ Joel นั้นรักและห่วงใยในตัวของ Ellie เหมือนความรักที่เขามีให้กับลูกสาวเช่นกัน. 6.นาฬิกาและปืนของ Joel อีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่ควรพลากกันเลยครับนั่นคือ สิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนตัวแทนของ Joel อย่างนาฬิกาและปืนของเขา และมันคุ้มค่าที่เราจะได้เห็นฉากที่ Ellie เตรียมของและนำเจ้าของสองสิ่งนี้ไปด้วย มันให้ความรู้สึกอบอุ่นและชวนย้อนวันวานสำหรับแฟนๆ ในภาคแรกอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ. 7.เครื่องสแกนผู้ติดเชื้อ ในช่วงที่ได้สำรวจย่าน Downtown Seattle เราจะสามารถเข้าไปยังจุดตรวจคัดกรองของพวกทหารได้ครับ ซึ่งตรงนั้นเราจะได้พบกับเครื่องสแกนหาผู้ติดเชื้อของ FEDRA รุ่นเก่าวางอยู่บนชั้น ในตอนนั้น Ellie จะพูดขึ้นมา่วาเธอไม่ได้เห็นเครื่องนี้มาซักพักใหญ่ๆ แล้ว ในการสนทนานั้นทำให้เราได้รู้ว่าองค์กรต่างๆ รวมถึงรัฐบาลด้วยได้ล่มสลายลงไปหมดแล้ว. 8.โปสเตอร์เพลง อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปเมื่ออยู่ในย่าน Downtown Seattle นั่นคือ ร้ายขายเพลงครับ เมื่อเข้าไปเราจะได้เห็นโปสเตอร์ของวง Lightning Bolt และ  Pearl Jam ในอัลบั้มช่วงปี 2013 ซึ่งมีเพลงที่ Joel และ Ellie เคยเล่นนั้นคือเพลง " If I ever Were to Lose You " มันเป็นเพลงที่มีจริงๆ ในโลกนี้ครับ แต่ในโลกของเกมนั้นโปสเตอร์บอกไว้ว่าจะออกมาจำหน่ายเร็วๆ นี้ในวันที่ 15 ตุลาคม 2013 แต่ดันไปเกิดเหตุการณ์ระบาดของเชื้อในวันที่ 26 กันยายน 2013 เสียก่อนเพลงก็เลยไม่ทันได้ออกครับ. 9.รหัสประตูคลาสสิกของเกม Deus Ex ย่าน Downtown Seattle นั้นยังมีไข่อีสเตอร์อีกนะครับ นั้นคือ รหัสของตู้เซฟที่ใช้รหัส 0451 ตัวเลขนี้เรียกได้ว่าเป็นรหัสสำหรับเปิดประตูในเกม Desus Ex และยังเป็นรหัสที่เกมอื่นๆ ก็นำไปทำเป็นไข่อีสเตอร์ตามๆ กันด้วยครับ เช่น System Shock 1 และ 2 หรือ Thief. 10.รูปปั้นฮาโลวีนที่หลอนมาก อีกหนึ่งไข่อีสเตอร์ในย่าน Downtown Seattle เช่นเคยครับเมื่อเราเข้าไปในร้านขายของเล่นที่มีพวกของสำหรับงานฮาโลวีนด้วยน้้นเราจะได้เห็นหุ่นผีที่เคยไปอยู่ในภาค DLC อย่าง The Last Of Us: Left Behind ที่เล่าเรื่องราวของ Ellie ที่พบว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกัน. 11.Warhammer 40,000 รู้หรือไม่ครับว่าค่ายพัฒนาอย่าง Naughty Dog นั้นพวกเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกมอย่าง Warhammer 40,000 หรือ 40K ดังนั้นเราจะได้เห็นหุ่นโมเดลของ Warhammer 40K หลายๆ รูปแบบและแม้แต่บอร์ดเกมก็มีให้เห็นเช่นกัน! 12.ไม้พาเลท ในภาค 2 ช่วงที่ Ellie ข้ามแม่น้ำนั้นผู้เล่นจะได้รู้ว่าเธอสามารถว่ายน้ำได้แล้ว และระหว่างนั้นเธอก็พบกับพาเลทเก่าๆ อันหนึ่งซึ่งเธอถาม Joel ว่าจะให้ขึ้นไปนั่งบนนั้นไหม? มันทำให้เธอและผู้เล่นส่วนใหญ่จะนึกย้อนไปในตอนภาคแรกที่เธอยังเด็กอยู่และให้ Joel อุ้มขึ้นพาเลทพาเธอข้ามน้ำไป. 13.เกม Hotline Miami ในช่วงที่เราเล่นเป็น Ellie และแทรกซึมเข้าไปในฐานของพวก WLF เราจะได้เจอกับการ์ดที่กำลังเล่นเครื่อง PS Vita อยู่ซึ่งเกมนั้นเป็นเกม Hotline Miami ( เกมยิงมุมสูง วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2012 ) ตอนแรกจะได้ยินแค่เสียงเพลง แต่เมื่อเราจัดการกับการ์ดเสร็จแล้ว เราจะได้เห็นชัดเจนว่านั่นคือเกม Hotline Miami. 14.เกม Jak and Daxter Collection  ในระหว่างที่เรากำลังแฝงตัวสำรวจฐาน WLF นอกจากจะเห็นเกมจากหัวข้อด้านบนแล้ว เราจะพบคนอื่นในฐานเล่น PS Vita เช่นกัน แต่เกมที่เล่นดูเหมือนจะเป็นเกม Jak and Daxter: The Precursor Legacy ระดับ Lava Tube ในขณะที่คุณกำลังสำรวจฐาน WLF คุณจะพบคนอื่นกำลังเล่น PS VIta ครั้งนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นระดับ Lava Tube ของ Jak and Daxter: The Precursor Legacy 15.หุ่นยนต์ของ Sam ใน The Last of Us ภาคแรกเราจะได้เจอเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า Sam ครับซึ่งเขาปรากฏออกมาพร้อมกับหุ่นยนต์ของเล่นตัวเล็กๆ ของเขาและในภาค 2 เราสามารถพบมันได้อีกครั้งในห้องของ Ellie ในบทที่ 2 : Waking Up. 16.เครื่องเกม Arcade เมื่อเราเล่นไปจนถึงฉากที่กำลังเดินทางด้วยเรือ เราจะได้พบกับเครื่องเกมอาร์เคดที่มีลายตู้เป็นตัวละครหลัก คือ Angel Knives ( หนึ่งในตัวละครในเกมตู้นี้ ) ซึ่งเครื่องนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในภาคแรกและยังไปโผล่อีกที่ในภาค DLC ด้วยครับ. 17.เครื่อง Arcade Jak X Combat Racing ในสถานที่เดียวกับหัวข้อด้านบนครับ ที่เราจะสามารถเจอกับตู้เกมแข่งรถอย่างเกม Jak X Combat Racing เครื่องนี้ปรากฏครั้งแรกในภาค DLC อย่าง Left Behind แต่ใน The Last of Us Part II นี้เราสามารถเข้าไปเล่นหรือเข้าไปนั่งเฉยๆ ได้เช่นกัน. 18.ของที่ระลึกแปลก ๆ เมื่อเราสำรวจอยู่ในถนน China Town นั้นอาจจะพบพวกของที่ระลึกแปลกๆ ในที่ต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมีคนพบว่ามันคือ Precursor Orb ของสะสมจากเกม Jak and Daxter ซึ่งของสิ่งนี้ชอบไปปรากฏอยู่ในเกมอื่นๆ ของผู้พัฒนาอย่าง Naughty Dog แต่เจ้าไข่ประหลาดชิ้นนี้ถือว่าปรากฏออกมาครั้งแรกในซีรี่ส์ The Last of Us ครับ ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.powerpyx.com/the-last-of-us-2-easter-eggs/    และ https://www.gamesradar.com/uk/the-last-of-us-2-easter-eggs/?fbclid=IwAR0Zk9Hy7ZIpKKlPIp_B36fes0CkMHN0VhnQVbgH3TDMDGLO2BY7ApjJ9S8
08 Jul 2020
The Last of Us Part II วิธีการหาเหรียญสะสมทั้งหมดในเกม
The Last of Us Part II นอกจากจะมีอาวุธและไอเทมให้เราตามเก็บกันเยอะมากแล้ว ยังมีอีกสิ่งเล็กๆ ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามหรือหาไม่เจอด้วยนะครับนั่นคือของสะสมอย่าง "เหรียญ" นั่นเอง วันนี้ผมจะมาบอกจุดบอกตำแหน่งที่ตั้งของเหรียญอย่างหมดเปลือกเลยครับ มาดูกันว่ามีตรงไหนที่ผู้อ่านเดินผ่านและมองข้ามไปหลายรอบกันแล้วบ้าง ลุย! 1.Tracking Lesson  1 เหรียญ 1.1.Virginia - ตรงนี้ให้เราไปทางหน้าต่างห้องน้ำที่บริเวณสวนสัตว์ แล้วเดินไปยังถังขยะด้านนอกก็จะเจอเหรียญตั้งอยู่บนขอบเลยครับ. 2.The Stadium 4 เหรียญ 2.1.Alaska - เมื่อเล่นเป็น Abby ช่วงที่เราออกจากอพาร์ทเมนท์พร้อมกับ Manny หลังจากตัดมาจากฉากเก็บของ ให้เรามองไปทางซ้ายมือบนพื้นก็จะเจอทันทีเลยครับ.   2.2.Maine - ช่วงที่กำลังลงไปยัง The Dog Pen จะมีเหรียญวางอยู่ตรงเก้าอี้ยาวขวามือข้างๆ โต๊ะกินข้าว.   2.3.New Jersey - หลังจากลงมาแล้วและกำลังเข้าไปภายในตัวฐาน เราจะเจอเหรียญอยู่ทางขวาหลังโต๊ะของผู้หญิงที่โบกมือทักทาย ( มองต่ำๆ ไว้นะครับและสังเกตดีๆ เพราะทางเข้าอาจจะมืดนิดนึง )   2.4.Vermont - หลังจากซ้อมยิงปืนกับ Manny เสร็จแล้วให้เราไปอีกห้องนึง แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปยังล็อคเกอร์ที่อยู่ในสุดจะเจอเหรียญวางอยู่ครับ. 3.On Foot 4 เหรียญ 3.1.Kentucky - หลังจากถูกกลุ่ม Seraphite ซุ่มโจมตีแล้ว เราจะอยู่ในร้านฮาร์ดแวร์ให้เดินตรงไปในทางมืดๆ จะเจอเหรียญวางอยู่บนโต๊ะทางด้านขวามือ 3.2.Massachusetts - บริเวณโกดังร้านฮาร์ดแวร์ที่มีหญ้ารกๆ ให้เดินไปให้สุดแล้วจะเจอโต๊ะแคชเชียร์ที่อยู่ใกลที่สุด เหรียญจะตั้งอยู่ตรงนั้นครับ. 3.3.Ohio -เมื่อผ่านจุดนั้นมาจะมีช่วงที่เราสามารถวางบันไดเพื่อข้ามไปบนเรือได้ แต่ให้แวะตั้งตรงผนังก่อนนะครับ แล้วพอขึ้นไปจะเจอของให้ฟาร์มพร้อมกับเหรียญบนโต๊ะ. 3.4.Indiana - ให้เราเข้าไปในบ้านตู้ที่อยู่ตรงกลางแจ้งในตอนที่กำลังจะออกไปด้านนอกกับ Mel ครับ วิธีการก็คือให้ทุบกระจกแล้วปีนเข้าไป เหรียญก็จะวางอยู่ตรงนั้น. 4.The Forward Base 3 เหรียญ 4.1.California - เมื่อเราได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่ม WLF หลังจากออกจากรถให้เดินไปทางขวามือครับ จะเห็นกลุ่มคนกำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่ ซึ่งเหรียญจะตั้งอยู่ตรงพื้นด้านหลังของพวกเขา.   4.2.New Mexico -อันนี้ก็ง่ายครับพอเราออกมาจากแคลิฟอร์เนีย กำลังมุ่งสู่นิวแม็กซิโกให้เลี้ยวซ้าย เหรียญจะวางอยู่บนลังเขียวข้างๆ กลุ่มคนที่กำลังคุยกัน.   4.3.South Carolina - เมื่อถึงช่วงที่เราต้องเข้าไปในอพาร์ทเมนท์เพื่อไปหา Isaac ให้แล้วซ้ายแล้วจะเจอเหรียญวางอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวครับ. 5.Hostile Territory 1 เหรียญ 5.1.Alabama - เมื่อช่วงที่เล่น Abby และเธอบ่นถึงกลิ่นแปลกๆ ให้เราเดินผ่านร้านขายเสื้อ จะเจอจุดที่สามารถปีนขึ้นไปบนรถบ้านครับแล้วให้เราเข้าตึกทางหน้าต่าง เหรียญจะวางอยู่ในลิ้นชักท้ายห้อง. 6.The Coast 4 เหรียญ 6.1.North Dakota -เมื่อเรากำลังไปที่อควาเรี่ยม ให้เดินตัดผ่านกองตู้คอนเทนเนอร์ ปีนขึ้นไปข้างบนทางตึกที่ถล่มลงมาและจะเจอเหรียญวางอยู่ข้างศพครับ. 6.2.West Virginia - เมื่อเราเล่น Abby และอยู่บนเรือช่วงหลังจากที่เราได้รับปืนหน้าไม้มาใหม่ๆ ให้เดินตัดผ่านโถงทางเดินแล้วมองไปทางด้านขวาเหรียญจะอยู่ในกองหมีเท็ดดี้และกระเป๋าเดินทาง. 6.3.Utah - ในส่วนท้ายของเรือ เมื่อเราปืนออกมาจากห้องบังคับเรือให้มองไปรอบๆ ก่อนนะครับค่อยเดินออกไปตามทาง จะเจอเหรียญวางอยู่ที่พื้นใกล้ๆ จุดที่เราปีนออกมา. 6.4.Mississippi - อันนี้ง่ายสุดๆ ครับเมื่อเราไปถึงอควาเรี่ยม ตรงด้านหน้าจะมีน้ำพุอยู่ครับให้กระโดดลงไปในบ่อจะเจอเหรียญตกอยู่ในน้ำ. 7.The Shortcut 2 เหรียญ 7.1.Nevada - ระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปกับ Lev ให้มองไปที่ตึกสูงและจะเห็นร้านตัดผมอยู่ทางขวามือของเรา จากนั้นก็เดินเข้าไปเก็บเหรียญที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ได้เลยครับ. 7.2.Colorado - เมื่อถึงช่วงที่กำลังกระโดดข้ามน้ำไปยังตึกอีกฟาก ให้ปีนเข้าไปในตึกแล้วมองหาหน้าต่างครับ ตรงนั้นจะมีกันสาดสีฟ้าอยู่ เหรียญจะวางอยู่บนกันสาดให้เรากระโดดลงไปบนกันสาดได้เลยครับ. 8.The Descent 5 เหรียญ 8.1.Illinois - เหรียญจะอยู่ในสระน้ำที่เราจะเจอหลังจากช่วงที่ตกลงมาจากรถเครน. 8.2.Oregon -ในช่วงที่เราติดอยู่ในซากตึกและช่วงที่เจอปืนไฟ เหรียญอันนี้จะอยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าโดยเหรียญจะวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ ห้อง 1107. 8.3.Wisconsin -เมื่อเราสามารถลงจากลิฟต์ได้แล้ว ให้ตรงไปยังตู้ขายขนมหยอดเหรียญที่อยู่ทางซ้ายมือ จะเจอเหรียญอยู่ในช่องเงินทอน. 8.4.Rhode Island -ช่วงเดียวกันเลยครับพอเราออกมาถึงจุดที่อากาศถ่ายเทเปิดโล่ง จนถอดหน้ากากออกแล้วให้ลองมองหาบาร์น้ำนะครับ แล้วไปสำรวจด้านหลังจะพบเหรียญอยู่ตรงนั้น. 8.5.Missouri - ทันทีที่ Wolves สั่งให้เราไปโรงพยาบาลให้หันมองไปทางขวาครับ จะเจอเหรียญวางอยู่ที่ท้ายๆ ของห้องโถง. 9.Ground Zero 2 เหรียญ 9.1.Washington - เหรียญจะอยู่หลังเคาน์เตอร์กาแฟ ในช่วงที่ Nora กำลังพาเราไปดูผลตรวจในห้องไอซียู. 9.2.Hawaii - หลังจากที่เล่นเป็น Abby เพิ่งหนีตัวประหลาดได้สำเร็จ ให้มองไปทางด้านซ้ายมือจะเจอตู้กระจกนิรภัยเล็กๆ ที่มีกรอบขาวๆ ให้ทุบกระจกได้เลยครับเหรียญจะวางอยู่ด้านใน.   10.The Marina 2 เหรียญ 10.1.Kansas - หลังจากจบคัตซีนแล้วเรายืนอยู่บนดาดฟ้า ให้ขึ้นบันไดไปตรงด้านบนระเบียงจะเจอเหรียญวางอยู่บนพื้นหญ้า. 10.2.Louisiana -หลังจากที่เราลงบันไดไปชั้นล่างและก่อนจะขึ้นรถไฟสีฟ้าให้เดินไปด้านขวาตามทางพื้นหญ้าข้างๆ ครับจะเจอเหรียญวางอยู่ตรงผ้าใบ.   11.The Island 3 เหรียญ 11.1.Idaho - ในช่วงที่อยู่บนเกาะกับ Yara ให้เราปีนบันไดขึ้นไปบนทางหลวงและจะเจอรถบรรทุกทางซ้ายมือให้กระโดดขึ้นไปในตู้จะเจอเหรียญวางอยู่ด้านในครับ. 11.2.North Carolina  - เมื่อเล่นไปสักพัก Yara จะแนะนำให้เราลัดผ่านค่ายตัดไม้ ซึ่งเราจะเจอรถที่มีประตูเปิดทิ้งไว้อยู่ทางซ้ายมือ ให้เดินเลยไปนิดหน่อยจะเจอเหรียญวางอยู่บนหนังสือครับ. 11.3.Montana - เหรียญอันนี้จะอยู่ในฐานของพวกหน่วยซุ่มยิงหลังแรก ซึ่งเราจะเจอทางขึ้นเป็นพวกกองไม้ไปด้านบนจากนั้นให้เดินไปดูตรงกองกระสอบจะเจอเหรียญวางอยู่. 12.The Escape 1 เหรียญ 12.1.Arkansas - เมื่อ Abby พูดขึ้นว่า “ is there a way around these guys? ”  ช่วงนั้นเรากำลังจะออกจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับ Yara และ Lev ตรงจุดนี้เหรียญสุดท้ายจะวางอยู่ซ้ายมือถัดจากตะกร้าชอปปิ้งครับ. Credit: Gameradar
07 Jul 2020
ผู้พากย์เสียงตัวละครแอ๊บบี้และผู้กำกับเกม The Last of Us Part II โพสต์แสดงข้อความขู่ฆ่าจากแฟนเกม
ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง กับเกมแอคชั่นภาคต่อ The Last of Us Part II ของค่าย Naughty Dog ที่เป็นหัวข้อถกเถียงระหว่างแฟนๆ ที่ทั้งรักและชังเกมนี้กันอย่างรุนแรง จากเหตุการณ์และเนื้อหาหลายๆ อย่างของเกม จนลามเข้าสู่ชีวิตจริงไปแล้ว ล่าสุด ทางนักพากย์เสียงตัวละครแอ๊บบี้ (Abby) คุณ Laura Bailey ได้ออกมาโพสต์ภาพสกรีนช๊อตทางทวิตเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงข้อความที่เต็มไปด้วบความเกลียดชังของแฟนๆ ต่อสิ่งที่ตัวละครที่เธอรับบทในเกมได้ทำ โดยหลายข้อความถึงขนาดขู่จะตามไปฆ่าเธอและครอบครัวของเธอเลยทีเดียว Man. I try to only post positive stuff on here... but sometimes this just gets a little overwhelming. I blacked out some of the words cuz, ya know, spoilers. Side note. Thank you to all the people sending me positive messages to balance it out. It means more than I can say.❤️ pic.twitter.com/kGyULWPpNu — Laura Bailey (@LauraBaileyVO) July 3, 2020 นอกจากนี้ ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ยังได้ถือโอกาสนี้โพสต์แสดงข้อความต่างๆ ที่เขาเองก็ได้รับจากแฟนๆ ที่ไม่พอใจเกม ซึ่งมีทั้งข้อความขู่ฆ่า เหยียดเพศ และเหยียดเชื้อสายยิวของคุณ Neil มากมาย You can love or hate the game and share your thoughts about it. Unfortunately too many of the messages Ive been getting are vile, hateful, & violent. Here are just a handful of them (feel its important to expose.) Trigger Warning: transphobic, homophobic, anti-Semitic, etc. pic.twitter.com/uR9vpGgYQa — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) July 5, 2020 สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรก็ตามต่อตัวผลงาน ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะเกลียดชังหรือโจมตีผู้ผลิตผลงานนั้นๆ โดยเฉพาะการใช้ข้อความที่เป็นการเหยียดเพศหรือชาติกำเนิด หากเกมเมอร์อย่างเราๆ ต้องการให้ทัศนคติของสังคมโดยรวมที่มีต่อเรามันดีขึ้นจริงๆ ต้องการให้เขาหยุดมองเกมเมอร์ในฐานะเด็กหรือคนหัวรุนแรง ก็ควรใช้สติในการแสดงความคิดเห็น ไม่ให้ล้ำเส้นจนไปคุกคามผู้อื่นกันนะจ๊ะ Credit: IGN
06 Jul 2020
ผู้กำกับ The Last Of Us Part ll พูดถึงการพัฒนาเกมสำหรับ PS5
แม้จะมีกระแสถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง แต่ The Last Of Us Part ll ก็เป็นผลงานที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับผู้พัฒนา Naughty Dog ที่เรียกได้ว่ารีดเอาศักยภาพของเครื่อง PS4 ออกมาใช้อย่างหมดจด เช่นเดียวกับที่เกม The Last of Us ภาคแรกทำมาแล้วในเครื่อง PS3 และด้วยวันวางจำหน่ายที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ของเครื่อง PS5 คงไม่แปลกถ้าแฟนๆ จะตั้งหน้าตั้งตารอเห็นผลงานต่อไปของค่าย Naughty Dog ว่าจะสามารถดึงศักยภาพของเครื่องรุ่นใหม่ออกมาได้อีกแค่ไหน ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวในรายการ Talking Games Podcast โดยเขาบอกว่าทีมงาน Naughty Dog ล้วนตื่นเต้นกับการพัฒนาเกมสำหรับคอนโซล PS5 ด้วยเทคโนโลยี SSD ใหม่ ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้พัฒนา นั่นก็คือการทำให้เกมไม่มีหน้าจอการโหลด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากๆ ในยุคคอนโซลปัจจุบัน "การพัฒนาเกมในช่วงท้ายๆ ของยุคคอนโซล มันรู้สึกจำกัดเสมออยู่แล้ว คุณจะรู้สึกว่าคุณต้องทำงานภายใต้ขีดจำกัดมากมาย และต้องมานั่งหาช่องโหว่หรือวิธีการที่จะดันขีดจำกัดนั้นๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Memory หรือ CPU หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การเริ่มพัฒนาเกมสำหรับยุคคอนโซลใหม่ก็เป็นดาบสองคม เพราะแม้ว่าคุณจะมีพื้นที่ในการสำรวจและเติบโตได้เต็มที่ แต่คุณก็อาจจะจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือที่ใช้สร้างเกมขึ้นมาใหม่แต่ต้น ซึ่งก็เป็นกระบวนการที่ยากลำบากเสมอ" "เราทำงานกันหนักมากๆ เพื่อไม่ให้ผู้เล่นต้องเห็นหน้าจอโหลดเกมแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทันสังเกติด้วยซ้ำ แต่มันถือเป็นงานที่หินที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างเกมนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉาก หรือการจัดวางเหตุการณ์หรือสถานที่ในเกม เพื่อให้เราสามารถโหลดฉากต่อไปได้อย่างแนบเนียน ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการที่ผู้เล่นไม่ได้เห็นหรอก แต่เมื่อเรารู้ว่าเราจะไม่ต้องหั่นฉากหรือจัดเรียงฉากแบบหนึ่งเพื่อซ่อนการโหลดเกมเพราะ SSD ของคอนโซลใหม่ มันก็เปลี่ยนวิธีคิดของเราไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งผมและทีมงานรู้สึกตื่นเต้นมาก ที่จะได้สำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คอนโซลรุ่นใหม่จะมอบให้เรา" อย่างไรก็ดี คงต้องรอกันไปอีกซักพักกว่าจะได้เห็นผลงานต่อไปของค่าย Naughty Dog ด้วยกระบวนการพัฒนาอันหนักหน่วงและยาวนานของเกม The Last of Us Part II ที่ทำให้ผู้พัฒนาของค่ายจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลากันเป็นชีวิตประจำวัน จึงไม่น่าแปลกถ้าทางค่ายจะอยากให้พนักงานได้มีโอกาสพักผ่อนหย่อนใจกันซะก่อน แล้วค่อยกลับมาสร้างผลงานใหม่สำหรับ PlayStation 5 เมื่อพร้อมทั้งกายใจอีกครั้ง Credit: Gamingbolt
01 Jul 2020
The Last of Us Part ll เคยมีความเป็น Open world มากกว่านี้
เช่นเดียวกับผลงานส่วนใหญ่ที่ผ่านมาจากผู้พัฒนา Naughty Dog เกม The Last Of Us Part ll จะดำเนินไปค่อนข้างเป็นเส้นตรง โดยมีพื้นที่กว้างๆ ให้ได้ลองสำรวจอยู่เพียงประปรายเท่านั้นตลอดทั้งเกม แต่รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่ง เกม The Last of Us Part II เคยมีสภาพเป็นเกมกึ่ง Open World มาก่อน! "ในตอนต้นๆ ของการพัฒนา เราวางแผนให้เกมมีลักษณะเป็น Open World โดยผู้เล่นจะใช้เวลาในเกมส่วนใหญ่อยู่ใน แจ๊คสัน" ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann กล่าวในบทสัมภาษณ์กับสื่อ IGN ในเกม The Last Of Us Part ll เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายจริง เมือง แจ๊คสัน เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ให้ผู้เล่นได้สำรวจแบบผ่านๆ ในช่วงต้นเกมเท่านั้น แต่ในเกมเวอร์ชั่นแรกสุด เมือง แจ๊คสัน จะเปรียบเสมือน "ฐานทัพ" ที่ผู้เล่นจะมารับภารกิจ ก่อนที่จะออกไปสำรวจโลก Open World รอบๆ เมืองนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครแอ๊บบี้จะมาเข้าร่วมชุมชนผู้รอดชีวิตของเราอีกด้วย "แอ๊บบี้จะถูกแนะนำในฐานะสมาชิกใหม่ของชุมชนแจ๊คสัน และผู้เล่นจะได้รับบทเป็นแอ๊บบี้ตั้งแต่ต้นเกม จนถึงจุดที่เธอหักหลังโจเอลในช่วงกลางเกม แต่เราก็ต้องเปลี่ยน เพราะการตายของโจเอลเปรียบเสมือนตัวจุดชนวนการเดินทางของเอลลี่ และเราอยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นๆ มากกว่า" คุณ Neil อธิบายต่อไปว่าจริงๆ แล้ว บทบาทของตัวละครแอ๊บบี้ถูกปรับลดลงเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการพัฒนา เพราะผู้พัฒนายังต้องการให้เนื้อเรื่องนี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเอลลี่และโจเอลอยู่ "ตัวละครแอ๊บบี้นี่แหละ ที่ทำให้เราตัดสินใจใส่สาส์นเกี่ยวกับความเห็นแกเห็นใจ ซึ่งเรารู้สึกว่าสามารถใช้เอลลี่และโจเอลในการเล่าได้ไม่ต่างกัน บทบาทของตัวละครแอ๊บบี้จึงถูกปรับลดลงเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่เพียงพอให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นเหตุการณ์จากมุมมองของเธอได้เท่านั้น" The Last Of Us Part ll พร้อมให้เล่นกันแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: IGN
30 Jun 2020
ไกด์แนะนำจุดเก็บอาวุธและไอเทมในเกม The Last of Us Part II
กระแสกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องเลยครับสำหรับเกมที่เป็นยิ่งกว่าเกมอย่าง The Last of Us Part II ซึ่งวันนี้ผใจะไม่มาพูดถึงเนื้อเรื่อง จะไม่ได้มารีวิว แต่...ผมจะมาแนะนำจุดเก็บอาวุธ จุดซ่อนของไอเทมต่างๆ ภายในเกมกันครับ ซึ่งใครที่ยังหาคำตอบไม่ได้หรือยังไม่รู้ว่าอาวุธแบบนี้มันมีให้เราด้วยหรือ? ที่นี่มีคำตอบให้ทุกคนแล้วครับใครอยากรู้แล้วมาดูกันเลย! 1.ปืนลูกซองปั๊ม Pump Shotgun Westlake Bank (Seattle Day 1, Downtown) ในช่วงที่ผู้เล่นกำลังสำรวจตัวเมือง เราจะได้พบกับธนาคารให้เข้าไปภายในนั้นครับ แต่ตอนเช้าไปต้องเตรียมรับมือปะทะกับพวกผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ( จะมีทั้ง Clickers และ Runners ปนๆ กันไป ) ทีนี้ให้มุ่งไปที่ห้องนิรภัยครับ ให้ลองค้นหาตามซากศพนะครับแล้วเราจะเจอรหัสเปิดประตู ( ถ้าใครขี้เกียจหารหัสคือ 602306 ) หลังจากนั้นผู้เล่นจะพบกับปืนลูกซองปั๊มที่อยู่กับศพครับ. 2.ระเบิดสตั๊น Stun Bomb (FEDRA building, Seattle Day 1, Downtown) ในช่วงที่กำลังทำภารกิจค้นหาน้ำมันที่ตึก FEDRA ให้ผู้เล่นมองหาป้ายสีแดงที่เขียนว่า "Fuel Distribution" ให้มุ่งไปทางนั้นครับ ให้เราคลานลอดผ่านตรงนั้นแล้วให้เลียวขวาได้เลยครับ ปีนไปทางบันไดหอคอยสังเกตการณ์ ผู้เล่นก็จะผมกับระเบิดสตั๊นบริเวณนั้นครับ. 3.ซองปืนสั้น Short Gun Holster (Barkos Pet Shop, Seattle Day 1, Downtown) เริ่มจากบริเวณ Courthouse ให้ผู้เล่นเดินไปทางทิศเหนือแล้วจะเจอร้านกาแฟเล็กๆ ครับ ( สังเกตเครื่องหมายบนมินิ-แมพก็ได้นะครับ จะเป็นรูปช้อนส้อม ) ให้ทุบกระจกหน้าต่างแล้วเดินเข้าไปภายในร้านตรงไปด้านหลัง แต่ตอนนี้ผู้เล่นจะโดน Runner จั้มสแกร์บริเวณห้องน้ำครับ ให้เราฆ่ามันเพราะมันจะดร็อปกุญแจร้านสัตว์เลี้ยง Barkos ตอนนั้นเครื่องหมายของร้านจะขึ้นบนแผนที่ ให้เรานำกุญแจไปไขประตูด้านข้างแล้วตรงไปยังเคาท์เตอร์ ตรงนี้เราก็จะได้รับซองปืนสั้นไปใช้ได้เลยครับ 4.ซองปืนยาว Long Gun Holster (Seattle Day 2, Hillcrest) ขอเตือนก่อนนะครับว่า ถ้าผู้เล่นมาบริเวณนี้ครั้งแรกจะต้องเจอกับพวกสุนักดมกลิ่ม หลังจากจัดการพวกมันเสร็จให้เราเดินไปทางซ้าย ผ่านอาคาร ลัดรั้วไปจนพบโรงจอดรถเล็กๆ ครับ หลังจากนั้นให้เราลากถังขยะเพื่อเปิดประตู ตรงนี้จะเจอพวกผู้ติดเชื้อประมาณ 3 ตัว ตรงนี้บอกไว้กันผู้เล่นตกใจนะครับ555 ให้ฆ่ามันทิ้งไปเลย หลังจากนั้นให้เดินเข้าไปภายในอาคารเราก็จะพบตู้เซฟที่ล็อคอยู่ ( รหัสจะอยู่ที่แถบทางม้าลาย แต่ถ้าขี้เกียจหา ผมบอกให้เลยครับ 555 รหัสคือ 30-82-65 ) เมื่อเปิดผู้เล่นก็จะได้รับซองปืนยาวทันทีครับ. 5.ระเบิดประดิษฐ์ Trap Mine (Seattle Day 1, Capitol Hill) ในช่วงหลังจากการหลบหนีพวกกลุ่ม WLF ผู้เล่นจะพบกับ Motel ครับให้หันไปทางขวาแล้วจะพบกับถังขยะใบใหญ่ที่สามารถเคลื่อนที่มันได้ ให้ลากไปยังบริเวณระเบียงหน้าต่างชั้น 2 แล้วกระโดดขึ้นไป ในจุดนี้สามารถแวะฟาร์มห้องอื่นๆ ก่อนได้นะครับ จากนั้นให้เรามุ่งไปยังห้องที่มีเตียงจะพบกับระเบิดประดิษฐ์ที่ทำจากที่ดักหนู หรือเรียกตามในเกมก็ได้ครับว่า Trap Mine. 6.ธนู Bow (Seattle Day 2, Hillcrest) ในช่วงเกือบจบของบท Hillcrest ผู้เล่นจะต้องรับมือกับฝูงผู้ติดเชื้อและเมื่อจัดการพวกมันสำเร็จ ผู้เล่นจะได้รับธนูจากพวกผู้ติดเชื้อนั่นแหละครับ แล้วสามารถทดสอบยิงกับเป้าหุ่นในบริเวณนั้นได้อีกด้วย . 7.ระเบิดแสวงเครื่อง Pipe Bomb (Seattle Day 1, On Foot) เมื่อผู้เล่นไปถึงร้านฮาร์ดแวร์ แมนนี้จะแนะนำให้เรารู้ว่ามีวัตถุดิบบนรถเข็นที่สามารถใช้ในการทำระเบิดแสวงเครื่องได้ โดยจุดนี้จะอยู่ในโหมดเนื้อเรื่องที่ผู้เล่นทุกคนจะต้องเจอเหมือกันหมดครับ. 8.ปืนพกล่าสัตว์ Hunting Pistol (Seattle Day 1, On Foot) หลังจากที่ผู้เล่นทำการประชุมบนเรือเสร็จ ให้ผู้เล่นลงมาจากหลังคา และจะเห็นอาคารเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากอาคารขนาดใหญ่หลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปจะพบบันทึกเกี่ยวกับรหัสตู้เซฟ จากนั้นให้มุดเข้าไปที่รอดแตกของอาคารหลังใหญ่ข้างๆ อาคารเล็กครับเราจะพบตู้เซฟให้ใส่รหัสที่เราได้มา ( บอกให้ๆ 555 รหัสคือ 17-38-07 ) เมื่อเปิดตู้เราจะพบกับปืน Hunting Pistolสุดเท่เอาไปไล่ยิงพวกผู้ติดเชื่อ! 9.ปืนลูกซอง Shotgun (Seattle Day 1, Behind Enemy Lines) เมื่อผู้เล่นเข้าสู่ถนนบนซอยเล็กๆ ให้เดินไปยังร้านขายของเก่าทางขวามือนะครับ ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปในร้านตรงๆ ได้ วิธีเข้าไปในร้านคือผู้เล่นจะต้องเข้าทางร้าน Ruby Dragon แล้วขึ้นไปที่บันได ก็จะเจอ Cliceker 2 ตัว จุดนี้แล้วแต่เรานะครับว่าจะฆ่ามัน หรือแอบย่องหลบออกไป พอเข้าไปในร้านขายของเก่าได้แล้วผู้เล่นจะต้องเจอกับ Runner ประมาณ 3-4 ตัว ครับฆ่าได้ก็ฆ่า ฆ่าไม่ได้ก็ย่องไปที่ด้านหลังเคาท์เตอร์แล้วเก็บปืนลูกซองหนีออกมา แต่ผู้เป็นผมพอได้ปืนลูกซองก็ขอเอาไปลองกับพวก Runner ซักนัดสองนัดก่อนนะครับ555.   10.ซองปืนสั้น Short Gun Holster (Seattle Day 1, Hostile Territory) ตรงนี้ง่ายมากครับ พอเราได้ปืนลูกซองเสร็จแล้ว ให้ผู้เล่นเดินไปที่รถตู้ของพวกรถตู้ของพวก Seraphite ( กลุ่มต่อต้านคลั่งลัทธิ )  แล้วให้มุ่งไปทางอาคารด้านขวามือ แล้วที่ห้องด้านหลังผู้เล่นจะพบกับซองปืนสั้นอีก 1 ซองง่ายมากก ก.ไก่ล้านตัว. 11.ซองปืนยาว Long Gun Holster (Seattle Day 1, The Coast) ชิ้นนี้ก็ง่ายไม่แพ้หัวข้อด้านบนครับ เมื่อถึงช่วงที่ผู้เล่นได้ช่วยเหลือ Lev และ Yara ให้ปลอดภัยจากผู้ติดเชื้อและพวก Seraphite ได้แล้ว ให้ไปยังอาคารข้างๆ ของผู้เล่น เมื่อเข้าไปแล้วให้ปีนขี้นไปด้านบนแล้วกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปเมื่อออกไปแล้วก็จะเจอซองปืนยาวเลยครับ. 12.หน้าไม้ Crossbow (Seattle Day 1, The Coast) เมื่อผู้เล่นดำเนินเนื้อเรื่องไปจนถึงฉากเรือข้ามฟากและผ่านช่วงที่ Abby ตกน้ำได้ ช่วงนั้นผู้เล่นจะได้รับหน้าไม่ตามลำดับเนื้อเรื่องเลยครับไม่ต้องไปหารหัสตู้ หรือลัดเข้าห้องนู้นห้องนี้. 13.ปืนไฟ Flamethrower  (Seattle Day 2, The Descent) หลังจากถึงช่วงที่ผู้เล่นตกลงมาจากสะพานแขวนพร้อมกับ Lev และตอนนั้นต้องใช้หน้ากากกันแก๊สพิษด้วยนะครับ ให้ผู้เล่นเดินไปหาปืนไฟบนโซฟาที่ชั้นล่างของโรงแรมไดเลยครับ แต่จากการสำรวจผู้เล่นพบว่าปืนไฟมันจะสุ่มเกิดอีกจุดหนึ่งคือในห้องน้ำ และโซฟาทั้งสองที่นี้ครับ. 14.ปืนกลเบาเก็บเสียง Silenced submachine gun (Santa Barbara, Pushing Inland) ปืนนี้จะได้รับตามเนื้อเรื่องในช่วงที่ Ellie มุ่งหน้าไปยัง Santa Barbara และพบกับพวก Rattler ( กลุ่มติดอาวุธที่ชอบลักพาตัวมาเป็นทาส ) โดยอาวุธชนิดนี้ผู้เล่นจะไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้เลยนะครับ แต่หลังจากที่เห็นประสิทธิภาพของมันผมก็รู้เลยว่าปืนมันดีอยู่แล้วไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มไปเลยครับ. ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.gamesradar.com/uk/the-last-of-us-2-weapons-gear-items/?fbclid=IwAR1oskA0bA5pqYORTUD9mO8XYVNJX58bLlYLfcYjlAdcX7XcUUDAS098Eo8
29 Jun 2020
เปรียบเทียบกราฟิก The Last of Us Part II ในงาน E3 2018 กับปัจจุบัน!
เกมในยุคหลังๆ มานี้นั้นมักจะมีการลดคุณภาพของกราฟิกลงหลังจากที่เปิดตัวด้วยภาพสุดยิ่งใหญ่อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกมดูเหมือนว่าสุดยอดเกมขายดีอย่าง The Last of Us Part II ของ Naughty Dog เองก็หนีไม่พ้นในเรื่องนี้เช่นกัน ได้มีการปล่อยวิดีโอเปรียบเทียบคุณภาพกราฟิกจาก ElAnalistaDeBits ที่แสดงให้เห็นถึงกราฟิกของตัวเกมปัจจุบันกับในงาน E3 2018 ว่ามีความแตกต่างบางอย่างรวมถึงรายละเอียดของใบหน้าที่ลดลง, แสงและเงาของวัตถุ รวมถึงตัวละครที่อยู่ใกล้เคียง และอื่นๆ ในบางทีสภาพแวดล้อมบางอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แม้ว่าเกมนี้จะยังดูดี แต่ความแตกต่างระหว่างสองปีนี้ก็มีความชัดเจนอย่างมาก รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ แม้ The Last of Us Part II จะมีการลดคุณภาพกราฟิกของตัวเองลง แต่มันก็เป็นการเปิดตัวเกมที่ยิ่งใหญ่ และสามารถเอาชนะความนิยมของเกม Animal Crossing: New Horizons ได้ Credit : Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
23 Jun 2020
ผู้พัฒนาอื่นๆ ร่วมแสดงความยินดีกับการวางจำหน่าย The Last of Us Part ll
ถือเป็นการรอคอยอย่างยาวนานกับเกม The Last of Us Part ll ที่ล่าสุดได้วางจำหน่ายให้ผู้เล่นได้เล่นกันไปแล้ว ตัวเกมได้รับความนิยมและเสียงชมจากผู้เล่นในภาคก่อนๆ ที่ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ภูมิใจนำเสนอตัวเกมนี้อย่างมาก และถือเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบผลสำเร็จอย่างมาก SONY จาก Santa Monica, Bend Studios, Sucker Punch และ Media Molecule สื่อภาพยนต์รวมไปถึงค่ายเกมใหญ่ๆ ต่างออกมาโพสต์ภาพแสดงความยินดีกับตัวเกม The Last of Us Part ll ในวันที่ตัวเกมวางจำหน่ายวันแรก และได้ผลตอบรับที่ดีจากทางแฟนๆ โดยพวกเขานั้นได้แสดงความยินดีผ่านการโพสต์ภาพวาดที่อยู่ทางด้านล่างนี้ ตัวเกม The Last of Us Part ll วางจำหน่าย และพร้อมให้ผู้เล่นได้เล่นแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น !! Congratulations to all of our friends over at @Naughty_Dog on the long-awaited release of #TheLastofUsPartII! Mind if we hitch a ride? #TLOU2 #DaysGone pic.twitter.com/ao71x8yhrr — Bend Studio #DaysGone (@BendStudio) June 19, 2020 “I will never have friends like the ones I have with PlayStation. Jesus, does anyone?” Huzzah my @Naughty_Dog friends. What you have done is nothing short of astonishing. It made me tense, anxious, excited, sad and jealous I didn’t make it. Proud of you.❤️ Image: Luke Berliner pic.twitter.com/izZSeHT3Qu — Cory Balrog ? (@corybarlog) June 19, 2020 A gigantic and well-deserved CONGRATULATIONS to our friends at @Naughty_Dog on the launch of #TheLastofUsPartII today! We cant wait to play all weekend! (art by Sucker Punch artist @EdwardPun1!) pic.twitter.com/MmGgwuZT08 — Ghost of Tsushima ? July 17 (@SuckerPunchProd) June 19, 2020 From everyone at Media Molecule, congratulations to @Naughty_Dog on launch day! This art piece was created by our Art Director, Kareem Ettouney, in #DreamsPS4. #MadeInDreams ?? pic.twitter.com/3f78pn3SY4 — Media Molecule (@mediamolecule) June 19, 2020 Credit : Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
22 Jun 2020
Tips & Tricks: 10 ทริคเอาตัวรอดในเกม The Last of Us Part II
หลังจากที่รอมาแสนนาน ในที่สุดเกม PS4 Exclusive ที่ทุกคนรอคอยอย่าง The Last of Us Part II ก็ได้วางจำหน่ายให้ทุกคนได้เล่นกันแล้วในขณะนี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเล่นเกมจนจบแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่) และแม้ว่าเกม The Last of Us Part II จะไม่ได้ซับซ้อนหรือยากมากเท่ากับเกมอีกหลายเกมในตลาด แต่เกมก็มีความตื้นลึกหนาบางของตัวเอง ที่ทำให้การต่อสู้ของเกมอาจจะท้าทายมากสำหรับผู้เล่นหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่อาจจะไม่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกมาก่อนด้วย เพื่อช่วยให้ประสบการณ์เล่นเกมของเพื่อนๆ เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด เราจึงได้รวบรวมข้อแนะนำจำนวนหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่าช่วยเราได้มากในขณะที่เล่นเกม ลองไปดูกันเลย! พกขวดหรือก้อนอิฐติดตัวไว้ตลอดเวลา ระหว่างที่เดินทางไปในเกม The Last of Us Part II จะมีขวดแก้วหรืออิฐบล๊อคให้เก็บได้ตามทาง ซึ่งหลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่อยากจะบอกว่าพวกขวดและอิฐเหล่านี้นี่แหละ เป็นอุปกรณ์เอาตัวรอดชั้นเยี่ยม ที่สามารถช่วยให้เราเอาชนะศัตรูทั้งเหล่ามนุษย์และผู้ติดเชื้อได้ และมีวิธีใช้ที่หลากหลายด้วยกัน ข้อแรก ศัตรูในเกมนี้จะมีปริมาณเยอะมากๆ แถมฉากหลายฉากยังมีลักษณะเป็นที่โล่งกว้างที่ลอบเร้นผ่านลำบาก เพราะมีศัตรูเฝ้าดูอยู่แทบทุกทาง การใช้ขวดปาเพื่อหันเหความสนใจของศัตรูให้เราลอบเร้นผ่านไปได้ จึงเป็นทางเลือกที่ต้องใช้บ่อยกว่าที่หลายคนอาจจะคิดกัน อย่างที่สอง ศัตรูมนุษย์กลุ่ม W.L.F. จะมีลูกเล่นที่น่ากลัวอยู่ในฐานะสุนัขดมกลิ่น ที่ศัตรูมักใช้ในการตามหาตัว Ellie อย่างแม่นยำจากจุดไหนก็ได้ในแผนที่ แถมการจะฆ่าสุนัขแบบเงียบๆ ก็ทำได้ยากกว่าที่คิด เพราะสุนัขมักจะมีมนุษย์คอยเดินประกบด้วยตลอด ที่รู้ได้เสมอว่าเรายิงสุนัขของมันจากทิศทางไหนแม้จะใช้อาวุธไร้เสียงอย่างธนูก็ตาม แต่ถ้าเราปาขวดหรืออิฐเมื่อสุนัขอยู่ใกล้พอ จะทำให้สุนัขเลิกดมกลิ่นเราแล้วไปสนใจตำแหน่งที่เราปาขวดไปแทน ทำให้เรามีเวลาสร้างระยะห่างมากขึ้น อย่างสุดท้าย เกมภาค 2 จะมีระบบใหม่ ที่ทำให้เราสามารถปาขวดหรืออิฐใส่ศัตรูเพื่อให้มันชะงัก และวิ่งเข้าไปปลิดชีพในระยะประชิดได้ทันที ซึ่งทริคนี้ใช้ได้กับทั้งมนุษย์และผู้ติดเชื้อ และสามารถช่วยให้เราเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี จงมีอุปกรณ์ทุกชนิดติดตัวอย่างน้อย 1 ชิ้น โดยเฉพาะระเบิดไฟ ในเกม The Last of Us Part II จะมีอุปกรณ์หลายชนิดที่ผู้เล่นสามารถสร้างขึ้นมาได้จากสิ่งของในฉาก เช่นระเบิดไฟ (Molotov Cocktail) ระเบิดควัน หรือกระทั่งกระบอกเก็บเสียงปืน ซึ่งแน่นอนว่าล้วนมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ต่างกันไป การมีไอเทมทุกชิ้นติดตัวเอาไว้อย่างละชิ้นจึงเป็นความคิดที่ดี เพราะเราจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เราอยากเน้นเป็นพิเศษคือระเบิดไฟ (Molotov Cocktail) ที่ผู้เขียนมีติดตัวเต็ม 3 ขวดแทบตลอดเวลา และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายสถานการณ์มาก อย่างแรกคือการที่เกมนับระเบิดไฟเหล่านี้เป็น “อาวุธเงียบ” หมายความว่าเราสามารถปาขวดใส่ศัตรูจากที่กำบังได้โดยที่ไม่ถูกเปิดเผยตำแหน่ง (ต่างกับการใช้ปืน) ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาต้องกำจัดสุนัขดมกลิ่น เพราะเราจะสามารถกำจัดทั้งสุนัขและคนจูงได้ด้วยระเบิดลูกเดียว (ถ้าทำใจฟังเสียงน้องหมาร้องโหยหวนได้นะ…) นอกจากนี้ ระเบิดขวดถือเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อกรกับเหล่าผู้ติดเชื้อด้วย ด้วยจำนวนของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาก หมายความว่าการต่อสู้ด้วยปืนและการโจมตีระยะประชิดทำได้ยาก เพราะเสี่ยงกระสุนหมดหรือโดนรุมตายซะก่อน วิธีง่ายๆ ในการรับมือกับฝูงผู้ติดเชื้อจึงเป็นการใช้ระเบิดไฟในการกำจัดศัตรูทั้งกลุ่มพร้อมกัน โดยเมื่อศัตรูผู้ติดเชื้อโดนไฟ จะทำให้พวกมันหยุดอยู่กับที่ชั่วขณะนึงด้วย ทำให้เรามีเวลาค่อยๆ เล็งปืนมากขึ้น และประหยัดกระสุนได้มากขึ้นนั่นเอง สุดท้ายนี้ ระเบิดขวดยังมีคุณสมบัติในการสร้างเสียงล่อไม่ต่างจากขวดแก้วธรรมดา หมายความว่าถ้าเราปาระเบิดขวดลงไปยังจุดหนึ่ง จะทำให้ผู้ติดเชื้อในพื้นที่วิ่งตามเสียงแก้วแตกมาโดนไฟคลอกตายเองด้วย ซึ่งช่วยให้การลอบเร้นผ่านศัตรูผู้ติดเชื้อง่ายขึ้นมาก แม้จะต้องเผชิญศัตรูขนาดใหญ่อย่าง “แชมเบลอร์” ก็ยังใช้ทริคนี้ได้เช่นกัน (แต่อาจต้องใช้หลายขวดหน่อยนะ) การสำรวจในเกมนี้สำคัญมาก! อันนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าต้องบอก แต่ก็จะบอกไว้อยู่ดีเพื่อเน้นย้ำความสำคัญ แน่นอนว่าการสำรวจจะทำให้เราสามารถเก็บทรัพยากรณ์หรือกระสุนได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น การสำรวจยังอาจจะทำให้เราพบกับตำราอัพเกรด หรือกระทั่งอาวุธและอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่อาจพลาดไปเลยได้ การสำรวจทุกซอกทุกมุมของฉากอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำทุกครั้งที่เข้าสู่พื้นที่เปิดที่เกมให้เราสำรวจได้อย่างอิสระ ยกตัวอย่างในช่วงต้นๆ เกม ในขณะที่กำลังสำรวจฉาก ผู้เขียนได้บังเอิญพบทางเข้าไปยังอาคารร้างแห่งหนึ่ง ที่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่อยู่ข้างใน แต่เมื่อกำจัดผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ ผู้เขียนก็พบกับซองปืนยาว ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถใส่ปืนยาวพร้อมกันได้สองกระบอก ซึ่งเล่นจนจบเกมแล้วก็ยังไม่มีให้เก็บอีก จึงเป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้เก็บไอเทมชิ้นนี้ก็เป็น อีกกรณีคือปืนลูกซอง ที่ผู้เขียนพบในอาคารร้างใกล้ๆ กัน ซึ่งถ้าเล่นไปตามเนื้อเรื่องปกติ กว่าจะเก็บลูกซองได้ก็ปาไปกลางเกมเลยทีเดียว การสำรวจจึงช่วยทำให้การเล่นเกมโดยรวมง่ายขึ้นได้ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือตำราอัพเกรด ที่บางเล่มมักจะพบได้ในพื้นที่ลับเหล่านี้เท่านั้น โดยตำราแต่ละเล่มจะปลดล๊อคสายอัพเกรดตัวละครทั้งสายเลยทีเดียว การพลาดตำราไปซักเล่มจึงอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่น และทำให้เกมเล่นยากขึ้นมาก เช่นตำราเล่มหนึ่งที่ปลดล๊อคอัพเกรดสาย “ลอบเร้น” ที่ทำให้เราสร้างลูกธนูเพิ่มด้วยตัวเองได้เป็นต้น ทำให้ผู้เล่นควรให้ความสำคัญกับการสำรวจมากกว่าในเกมภาคแรกซะอีก อย่ากลัวที่จะใช้ปืน… สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นเกม TLoU2 หรือเกมแนว Survival Horror หลายๆ เกมน่าจะเคยชินกัน คือการหลีกเลี่ยงการใช้ปืนให้มากที่สุด เพื่อรักษากระสุนอันล้ำค่าเอาไว้ใช้ในเวลาที่จำเป็นจริงๆ ผู้เขียนเองในช่วงต้นๆ เกมก็ยังติดนิสัยนี้ และแทบจะไม่ใช้ปืนเลยในช่วงแรกๆ ของเกม ซึ่งก็ทำให้ผ่านช่วงต้นเกมไปอย่างยากลำบากกว่าที่จำเป็นมาก เพราะศัตรูในแต่ละฉากก็เยอะกว่าภาคแรก แถมยังหูตาไวกว่ากันมาก ทำให้การลอบเร้นอย่างเดียวเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย วิธีการเล่นที่ได้ผลที่สุดสำหรับผู้เขียน คือการเคลื่อนที่ตลอดเวลา และใช้ปืนในการสังหารศัตรูจากระยะไกลเมื่อมีโอกาส ก่อนที่จะย้ายตำแหน่งเพื่อเริ่มการลอบเร้นอีกครั้ง ซึ่งก็ทำให้ศัตรูมัวแต่ยุ่งกับการลาดตระเวนพื้นที่ที่ผู้เขียนยิงปืนไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ศัตรูในเกม TLoU2 ยังมักจะดรอปกระสุนปืนที่ถืออยู่ลงมาเมื่อตายด้วย ทำให้เราสามารถเก็บกระสุนที่ใช้ไปคืนมาได้ ตราบใดที่เราเลือกยิงอย่างระวังและแม่นยำพอ ...แต่อย่าใช้ลูกซองถ้าไม่จำเป็น ถ้าจะมีปืนซักกระบอกที่ควรเก็บเอาไว้ในยามจำเป็นจริงๆ ก็คือปืนลูกซองนั่นเอง เพราะปืนลูกซองเป็นปืนที่สามารถปลิดชีพศัตรูในกระสุนนัดเดียวได้อย่างสม่ำเสมอที่สุด และมีประโยชน์มากในจังหวะที่โดนรุม ที่เราจำเป็นต้องกำจัดศัตรูในบริเวณใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด อีกหนึ่งเหตุผลที่ควรเก็บลูกซองเอาไว้คือเหล่าศัตรูผู้ติดเชื้อ ที่มักจะพากันวิ่งเข้าหา Ellie ตรงๆ ทีละหลายตัว แถมบางครั้งยังอาจมีคลิ๊กเกอร์ ที่จะฆ่าเราทันทีที่จับตัวเราได้ผสมโรงมาด้วย การใช้ปืนลูกซองจึงทำให้เราสามารถกำจัดศัตรูเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากกว่าปืนชนิดอื่นๆ นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อชนิดสตอล์คเกอร์ ที่มักจะซ่อนตัวเพื่อลอบโจมตีเรา พร้อมกับส่งเสียงเรียกเพื่อนมารุมอีก ซึ่งปืนลูกซองจะทำให้เราสามารถกำจัดศัตรูเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้มีเวลาหนีออกจากพื้นที่และหลบซ่อนใหม่อีกครั้งก่อนที่ผู้ติดเชื้อตัวอื่นๆ จะตามมาถึง ฟังสิ่งที่ศัตรูพูดให้ดี! อย่างที่หลายคนน่าจะทราบแล้ว ศัตรูมนุษย์ในเกม TLoU2 จะมีความฉลาดมากขึ้นพอสมควร แถมทุกตัวยังจะมีชื่อของตัวเอง ที่ศัตรูตัวอื่นๆ ใช้ขานเรียกกันตลอดเวลา นั่นหมายความว่าศัตรูจะรู้ได้ทันทีเมื่อเพื่อนของพวกมันหายไป และรู้ด้วยว่าคือเพื่อนคนไหน และเพื่อนคนนั้นควรลาดตระเวนอยู่แถวไหน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความ “สมจริง” และ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับ NPC เหล่านี้ด้วย   วิธีหนึ่งในการลอบสังหารศัตรู โดยไม่ทำให้ศัตรูตัวอื่นๆ รู้ตัว ก็คือการรอให้ศัตรูตัวเป้าหมายขานตอบที่เพื่อนเรียกเสียก่อนจะลอบสังหารมัน ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆ ของมันไม่รู้ว่ามันหายไป จนกว่าจะทำการขานเรียกอีกครั้ง หรือมีคนเข้ามาพบศพ ซึ่งป่านนั้นผู้เล่นก็สามารถย้ายตำแหน่งไปอยู่ที่อื่นแล้ว และยังสามารถรอกำจัดศัตรูที่มาตามหาเพื่อนจากที่ปลอดภัยได้ด้วย ใช้กระบอกเก็บเสียงอย่างระวัง กระบอกเก็บเสียงสำหรับปืนพก อาจจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ในเกม ที่ช่วยให้การลอบเร้นในเกมง่ายขึ้นอย่างมาก แต่สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนอาจจะทำพลาด คือการลืมว่ากระบอกเก็บเสียงปืนนั้นมีจำนวนครั้งการใช้ที่จำกัด และถ้ายิงเพลินอาจจะพลาดท่าเผยตำแหน่งตัวเองให้ศัตรูรู้โดยไม่จำเป็นได้ สำหรับกระบอกเก็บเสียงเบื้องต้น จะสามารถเก็บเสียงปืนได้เพียง 3 นัดเท่านั้น (ถ้าอัพเกรดแล้วจะได้ถึง 5 นัด) สามารถสังเกติจำนวนครั้งที่ยังใช้ได้จากหลอดข้างใต้รูปกระบอกเก็บเสียง (มุมขวาล่าง) ที่สำคัญคือการะบอกเก็บเสียงจะไม่ได้เก็บเสียงได้ทั้งหมด และศัตรูที่อยู่ในระยะใกล้กับเรามากๆ ก็จะยังคงได้ยินเสียงปืนที่เก็บเสียงอยู่ดีเช่นกัน ซ่อนศพศัตรูอย่างถูกวิธี ในเกมลอบเร้นหลายๆ เกม การซ่อนศพของศัตรูที่ถูกลอบสังหารไปแล้ว ถือเป็นส่วนสำคัญของการลอบเร้น ซึ่งแม้ว่า The Last of Us Part II จะไม่มีระบบการเคลื่อนย้ายศพเสียทีเดียว แต่ผู้เล่นก็ยังพอมีวิธีในการเลือกตำแหน่งที่ต้องการปลิดชีพศัตรูได้บ้าง เพื่อลดโอกาสที่ศัตรูตัวอื่นๆ จะมาพบศพเข้า เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก การจะลอบสังหารศัตรูในเกม TLoU2 จะมีสองจังหวะ คือการเข้าล๊อคศัตรูจากด้านหลัง ก่อนที่จะปลิดชีพศัตรูคนนั้นอีกที โดยในระหว่างที่ล๊อคคอนั้น ผู้เล่นจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะสามารถบังคับให้ศัตรูเดินไปยังตำแหน่งที่เราต้องการได้ ก่อนที่จะกดปุ่มเพื่อสังหารพวกเขาอีกที (ถ้าล๊อคไว้นานไปศัตรูจะสลัดเราทิ้งได้) โดยผู้เล่นควรพาศัตรูไปหลบหลังที่กำบัง หรือในพงหญ้าสูงเสียก่อนจะลงมือฆ่าพวกเขาถ้าเป็นไปได้ จะลดโอกาสที่ศัตรูตัวอื่นๆ จะเห็นศพเข้าจนกว่าจะเดินผ่านศพนั้นในระยะใกล้จริงๆ อีกทริคหนึ่งที่สามารถใช้ได้หลังจากล๊อคคอศัตรู คือในกรณีที่มีศัตรูมากกว่าหนึ่งตัวในพื้นที่นั้น เราสามารถล๊อคคอศัตรูเอาไว้ตัวหนึ่งเพื่อใช้เป็นโล่ห์กำบัง ก่อนที่จะปลิดชีพศัตรูอีกตัวด้วยปืนเก็บเสียง และปลิดชีพศัตรูตัวแรกด้วยมีดอีกที โดยตราบใดที่คุณสามารถปลิดชีพศัตรูที่ไม่ได้ล๊อคคอเอาไว้ได้เร็วพอ จะทำให้ศัตรูตัวอื่นๆ ไม่รู้ตัวได้ด้วย เมื่อเจอศัตรูมนุษย์ อย่าหยุดเคลื่อนที่… ด้วยความฉลาดมากขึ้นของ A.I. ศัตรู รวมไปถึงลูกเล่นอย่างสุนัขดมกลิ่น ทำให้การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II ตกต่างจากเกมลอบเร้นหลายๆ เกมในตลาด ตรงที่ผู้เล่นแทบจะไม่สามารถหยุดอยู่นิ่งๆ กับที่ได้เลย แถมศัตรูยังสามารถตอบสนองต่อการกระทำของผู้เล่นได้ เช่นถ้าพบว่ามีคนโดนลอบสังหารเยอะ ก็จะเริ่มสำรวจพื้นที่ต่างๆ เป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม 2-3 คนแทน เพื่อให้เราไม่สามารถลอบสังหารพวกมันเงียบๆ ได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เล่นจึงควรจะพยายามเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อหามุมเหมาะๆ ในการลอบโจมตีศัตรูจากระยะไกล โดยการเปลี่ยนตำแหน่งที่ใช้โจมตีศัตรูไปเรื่อยๆ จะทำให้พวกมันสับสนด้วยว่าควรตามหาเราตรงไหน ซึ่งก็ช่วยทำให้พวกมันแตกกลุ่มกัน และทำให้เราสามารถเก็บมันทีละตัวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ...แต่เมื่อเจอผู้ติดเชื้อ อย่าเดินไปมามั่วซั่ว ในทางตรงกันข้าม เมื่อเจอศัตรูชนิดผู้ติดเชื้อ ผู้เล่นควรใช้เวลาใจเย็นๆ เพื่อศึกษาเส้นทางการเดินของศัตรูให้ดีเสียก่อน และควรเคลื่อนที่เฉพาะในเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เพราะศัตรูผู้ติดเชื้อในภาคนี้จะมีประสาทไวมาก และสามารถตรวบจับตำแหน่งผู้เล่นได้จากระยะไกลกว่าที่หลายคนอาจจะคาดเอาไว้ บางทีแค่เดินเร็วไปนิดเดียวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเราแล้ว ทางที่ดีที่สุดจึงควรขยับให้น้อยที่สุด และเปลี่ยนตำแหน่งเฉพาะเมื่อมั่นใจว่าศัตรูจะไม่เห็นเราเท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อเล่นไปได้ซักพัก ผู้เล่นจะพบกับศัตรูชนิดสตอล์คเกอร์ ที่มีนิสัยตรงข้ามกับผู้ติดเชื้อชนิดอื่นๆ ตรงที่แทนที่จะวิ่งเข้าใส่ผู้เล่นตรงๆ เมื่อพบผู้เล่น พวกมันจะวิ่งหนีไปแอบซ่อนอยู่ตามฉาก เพื่อรอลอบโจมตีผู้เล่นที่เดินผ่านจุดซ่อนของมันแทน แถมยังไม่สามารถมองเห็นมันด้วย “โหมดการฟัง” เหมือนศัตรูทั่วไปได้ด้วย และในจังหวะที่ออกมาโจมตี ศัตรูเหล่านี้ยังมักจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา ซึ่งจะเรียกเพื่อนผู้ติดเชื้อตัวอื่นๆ ในพื้นที่มาโจมตีเราด้วย ทำให้การเดินไม่ดูตาม้าตาเรือในบริเวณที่มีสตอล์คเกอร์อยู่เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก เพราะเราอาจจะโดนมันลอบโจมตีจากที่ไหนก็ได้ แถมยังทำให้ศัตรูที่เหลือรู้ตำแหน่งเราอีก ทาเลือกที่ดีในการรับมือกับสตอล์คเกอร์คือการคอยสังเกติหาพวกมันเท่านั้น เพราะสตอล์คเกอร์มักจะหลบซ่อนด้วยการก้มลงหลังที่กำบัง ทำให้ถ้าสังเกติดีๆ ยังอาจจะพอเห็นส่วนหัวของมันโผล่ขึ้นมาเหนือที่กำบังได้ ทำให้เรารู้ล่วงหน้า และสามารถวนอ้อมไปโจมตีมันจากด้านหลังแทนได้ แต่สิ่งที่ควรระวังคือสตอล์คเกอร์ประสาทไวมากๆ การย่องเข้าไปเสียบจากด้านหลังจึงอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่พึ่งพาได้ตลอด ผู้เขียนจึงมักใช้ปืนเก็บเสียงหรือธนูในการเก็บศัตรูเหล่านี้เมื่อพบที่ซ่อน นอกจากนี้ ยังมีสตอล์คเกอร์บางตัว ที่จะพรางตัวไปกับเห็ดรา Cordyceps ที่เติบโตอยู่บนกำแพงตามฉากได้ด้วย ซึ่งเราทำได้แต่สังเกติให้ดีและกำจัดพวกมันจากระยะไกลอย่างเงียบๆ เพราะเราจะมองไม่เห็นมันในโหมดการฟัง และนี่คือ 10 ข้อแนะนำการเล่นเกม The Last of Us Part II จากประสบการณ์ของทีมงาน GameFever TH จ้าา เพื่อนๆ คนไหนมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่อยากแบ่งปันให้เกมเมอร์คนอื่นได้รู้ด้วย อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกกันบ้างนะ! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
19 Jun 2020
รีวิว: The Last of Us Part II "ความยุติธรรมที่ไม่มีใครต้องการ"
ในหลายๆ จังหวะ การเล่นเกม The Last of Us Part II ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเกม PS4 Exclusive ชื่อดังอีกเกมอย่าง God of War (2018) ทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก ตั้งแต่มุมกล้องที่ติดตามตัวละครหลักของเกมอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทาง รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และเกมเพลย์ระดับแนวหน้าของวงการ ที่ทำงานร่วมกันในการขับสาสน์และ “บรรยากาศ” ของเกมให้ถึงผู้เล่นอย่างชัดเจนตลอดระยะเวลาที่นั่งเล่น จนทำให้ “ประสบการณ์” โดยรวมของเกมน่าดึงดูดในระดับที่พูดได้เต็มปากว่า “วางจอยไม่ลง” เลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า The Last of Us Part II เป็นผลงานวีดีโอเกมที่น่าทึ่งในหลายๆ ระดับ แต่ในความพยายามที่จะนำเสนอ “แง่มุม” อันหลากหลายมากขึ้นของผู้พัฒนา ทำให้เนื้อเรื่องของเกมขาดส่วนผสมบางอย่าง ที่ทำให้เกมอย่าง God of War (2018) หรือกระทั่งผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนา Naughty Dog เองทั้ง Uncharted และ The Last of Us ภาคแรก กลายเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ในแง่ของเนื้อเรื่อง นั่นก็คือการที่เนื้อเรื่องของเกมเหล่านั้น “มุ่งเน้น” (Focused) ไปที่เรื่องราวของตัวละครเพียงไม่กี่ตัวตลอดการเดินทางของพวกเขา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างความผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านั้น และติดตามการเจิรญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาได้อย่างเข้มข้น ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมขาด “น้ำหนัก” เมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น  แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คงไม่สามารถบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II นั้น “แย่” หรือ “ห่วย” ได้ เพราะเอาเข้าจริง เนื้อเรื่องของเกมถูกเขียนมาอย่างลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยสถานการณ์และตัวละครที่จะทำให้คุณตั้งคำถามกับ “ความถูกต้อง” ของทั้งตัวเองและตัวละครอยู่ตลอดเวลา แถมกราฟิกอันสุดยอดของเกมยังช่วยทำให้นักแสดงมากความสามารถทั้งหลายสามารถมอบ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับตัวละครเหล่านี้ได้ในระดับที่ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นในเกมไหนมาก่อนเลย และทำให้คุณภาพของการแสดงและคัตซีนทั้งหมดเข้าใกล้คุณภาพระดับ “ฮอลลีวู้ด” มากกว่าเกมไหนๆ ที่ผ่านมาได้สบาย *หมายเหตุ: รีวิวฉบับนี้จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุด และจะกล่าวถึงเหตุการณ์และตัวละครในภาพกว้างเท่านั้น *หมายเหตุ 2: เนื่องจากทางผู้พัฒนากำชับมาให้ใช้ภาพประกอบที่พวกเขาส่งมาให้เท่านั้นในบทความรีวิวนี้ จึงไม่สามารถแสดงภาพบทบรรยายหรือเมนูภาษาไทยได้ ผู้ที่อยากเห็นว่าบทบรรยายของเกมหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้ในวีดีโอรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราแทน ◊ เนื้อเรื่อง ◊ มาพูดถึงเนื้อเรื่องให้จบๆ กันไปก่อนดีกว่า สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ เนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II จะเกิดขึ้น 4 ปีให้หลังจากตอนจบของเกมภาคแรก (ใครยังไม่เล่น แนะนำให้หามาเล่นเดี๋ยวนี้) โดยจะติดตามตัวละครเด็กสาว Ellie ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนผู้รอดชีวิตอันแสนสงบสุขในเมือง แจ๊คสัน รัฐไวโอมิ่ง แม้ว่าเธอและเหล่าชาวเมืองจะยังคงต้องเผชิญกับเหล่าผู้ติดเชื้อไวรัส Cordyceps ที่กระจายอยู่ทั่วไป และต้องคอยจัดหน่วยลาดตระเวนเพื่อดูแลความเรียบร้อยรอบๆ เมืองอยู่ตลอด แต่พวกเขาก็ยังมีพื้นที่ให้งานรื่นเริง หรือกระทั่งความรักและมิตรภาพ หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบเพื่อเอาตัวรอดมาตลอด แต่ความสงบสุขของ Ellie ก็ถูกทำลายลง เมื่อเธอต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่หลวงในขณะที่ออกลาดตระเวนวันหนึ่ง และเพื่อทวงคืน “ความยุติธรรม” บางอย่างที่ถูกพรากไปจากเธอ Ellie จึงตัดสินใจออกเดินทางจากชุมชนอันอบอุ่นของเธอ ไปยังเมือง ซีแอตเทิล เพื่อชำระความแค้นที่สุมอยู่เต็มอกของเธอ อย่างที่ผู้พัฒนาเคยกล่าวไปในบทสัมภาษณ์มากมาย เนื้อเรื่องในเกม The Last of Us Part II จะเกี่ยวข้องกับ “วังวนแห่งความรุนแรง” ที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ทั้งสองฝ่ายต่างเลือกที่จะแก้แค้นกันไปกันมา โดยไม่ได้หยุดคิดเสียก่อนเลยว่า “ความแค้น” ที่ต้องชำระนั้นยังคง “สำคัญ” หรือ “คุ้มค่า” แค่ไหนเมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องแลกไป ซึ่งต้องบอกว่าผู้พัฒนา Naughty Dog ก็ยังคงแสดงออกถึงศักยภาพในฐานะผู้นำในด้านการเล่าเรื่อง จากบทพูดที่เขียนมาอย่างคมกริบ ไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องที่ล้วนแล้วแต่มีนัยยะ และตั้งคำถามเกี่ยวกับ “การกระทำ” ของ Ellie และตัวละครอื่นๆ ในโลกของเกมได้อย่างคมคาย ด้วยธรรมชาติของเนื้อเรื่อง ที่ต้องการจะท้าทายความคิดของผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้พัฒนาตัดสินใจที่จะให้ตัวละครอื่นๆ มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลายตัว เพื่อช่วยกันเสริมทั้งโลกของเกมโดยรวม และเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงมุมต่างๆ ของ Ellie ผ่านความสัมพันธ์ที่เธอมีกับตัวละครเหล่านั้น โดยปัญหาของเนื้อเรื่องเกิดขึ้นเมื่อผู้พัฒนาใช้เวลาของเกมส่วนหนึ่งในการนำเสนอแง่มุมหรือเส้นเรื่องของตัวละครอื่นบางตัวค่อนข้างเยอะ จนทำให้เนื้อเรื่องของ Ellie ที่ควรจะเป็นแก่นหลักของเกมรู้สึก “เจือจาง” ลงไปอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหามากขึ้นไปอีกเมื่อเกมพยายาม “ดึงดัน” ว่าเนื้อเรื่องนี้ทั้งหมดยังคงเป็นเรื่องของ Ellie แม้ว่าซีกใหญ่ๆ ของเกมจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรง แต่ในทางกลับกัน การที่เกมให้เวลาในการสำรวจชีวิตและความคิดของตัวละครอื่นๆ เหล่านี้ ก็เปิดช่องทางให้ผู้เล่นได้รับรู้ถึงแง่มุมของโลกที่อาจจะไม่ได้เห็นในฐานะ Ellie ซึ่งก็ช่วยทำให้โลกของเกมรู้สึกกว้างและสมจริงมากขึ้น จากการค่อยๆ เรียนรู้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของมนุษย์กลุ่มต่างๆ หลังจากที่อารยธรรมได้ล่มสลายไปแล้วมากกว่า 20 ปี จึงอาจจะไม่ได้มีแต่ด้านลบไปทั้งหมด แต่ก็กลับไปสู่คำถามที่ว่า แล้วมันควรจะเป็นเรื่องราวของใครกันแน่ ผู้เล่นจำเป็นต้องรู้เรื่องราวเหล่านี้แค่ไหน และจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้เวลาตรงนี้กับ Ellie และตัวละครรอบตัวเธอมากขึ้น สุดท้ายแล้ว ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดว่าเนื้อเรื่องของ The Last of Us Part II นั้นแย่ไปเลยเช่นกัน และสุดท้ายอาจจะเป็นตัวผู้เขียนเองที่ตีความเนื้อเรื่องของเกมไม่ถูก หรือไม่ลึกพอก็เป็นได้ แต่ในตอนนี้ คงได้แต่บอกว่าเนื้อเรื่องเป็นเป็นส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดของเกม โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าเกม The Last of Us ภาคแรกยังคงถูกกล่าวถึงในฐานะเกมที่ “ยกระดับ” มาตรฐานการเล่าเรื่องของสื่อวีดีโอเกมให้ใกล้เคียงกับภาพยนตร์ได้มากที่สุด จากการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างตัวละครสองตัว ก็อดผิดหวังไม่ได้ที่เกมนี้ดูจะขาดเครื่องปรุงสำคัญที่เคยมีในภาคแรกไป ◊ เกมเพลย์ ◊ สำหรับผู้เขียน “เกม” มีข้อได้เปรียบประการหนึ่งในฐานะสื่อการเล่าเรื่อง ที่สื่ออื่นๆ ทั้งหนัง ทีวี หรือหนังสือนิยายไม่มี คือความสามารถในการเล่าเรื่องผ่าน “การกระทำ” ของผู้รับสื่อนั้น ซึ่งเกม The Last of Us Part II ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่งของการเล่าเรื่องผ่าน “การกระทำ” ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบเกมเพลย์ทั้งหมด ตั้งแต่การต่อสู้และลอบเร้น ไปจนถึงการสำรวจและการตามหาทรัพยากร ที่ออกมาให้ขับธีมของเนื้อเรื่อง โดยที่ยังมอบความสนุกท้าทายให้ผู้เล่นได้อย่างไม่ลดละ ตลอดระยะเวลากว่า 25 ชั่วโมงที่ผู้เขียนใช้ในการผ่านเนื้อเรื่อง แม้ว่าในภาพรวมแล้ว การเล่นเกม The Last of Us Part II จะให้ความรู้สึกคล้ายกับภาคแรกอยู่พอสมควร ด้วยการควบคุมและ “สัมผัส” ในการเล่นที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เกมเพลย์ของ Part II โดยเฉพาะการต่อสู้ ก็ได้รับการเพิ่มเติมระบบเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปหลายข้อ ที่ทำให้การต่อสู้ในเกมมีความท้าทายและน่าตื่นเต้นกว่าที่พบในเกมแนวลอบเร้นสายเลือดแท้หลายเกมซะอีก ฉากต่อสู้ในเกม TLoU2 (The Last of Us Part II) มักจะดำเนินไปตามลำดับที่คล้ายกัน ในตอนเริ่มต้นฉากต่อสู้ส่วนใหญ่ในเกม ผู้เล่นจะสามารถใช้ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นของ Ellie ในการหลบซ่อนจากศัตรู ที่มักจะยกโขยงกันมาเป็นกลุ่มใหญ่เสมอ ความสามารถสำคัญอย่างหนึ่งของ Ellie คือการที่เธอสามารถหมอบคลานลงไปกับพื้น เพื่อซ่อนตัวในพงหญ้าสูง หรือเพื่อหลบซ่อนใต้สิ่งของอย่างรถได้นั่นเอง โดยเมื่อใช้คู่กับความสามารถจากภาคแรกอย่าง “โหมดการฟัง” ที่ทำให้มองเห็นศัตรูผ่านกำแพงได้ ทำให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการลอบเร้นเพิ่มขึ้นจากภาคแรกพอสมควร แต่ถึงจะมีทางเลือกมากมายให้ผู้เล่น ความฉลาดที่เพิ่มขึ้นของศัตรูทั้งที่เป็นมนุษย์ รวมไปถึงลูกเล่นที่เพิ่มมาอย่างสุนัขดมกลิ่นของกลุ่ม W.L.F. ก็ทำให้การลอบเร้นผ่านศัตรูแต่ละกลุ่มไปโดยที่ไม่ถูกเจอตัวอย่างน้อยซักครั้ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในประสบการณ์ของผู้เขียน  อย่างที่ผู้พัฒนาเคยกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง ศัตรูมนุษย์ในเกม TLoU2 ทุกคนจะมีชื่อเป็นของตัวเอง ที่พวกมันจะใช้ขานเรียกกันเป็นระยะตลอดเวลา หมายความว่าต่อให้เราปลิดชีพศัตรูด้วยวิธีที่เงียบแค่ไหน ซ่อนศพไว้ในมุมที่เปลี่ยวแค่ไหน ไม่ช้าก็เร็วศัตรูที่เหลือก็จะรู้อยู่ดีว่าเพื่อนของพวกมันหายตัวไป แถมยังรู้ด้วยว่าเพื่อนควรจะลาดตระเวนอยู่ตรงไหน และจะยกโขยงกันมาตามหาเพื่อน (และตัวผู้เล่น) อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นต้องคอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้โดนเจอตัว แต่การเคลื่อนที่ก็มีสิทธิ์จะโดนศัตรูตัวอื่นเห็นได้เหมือนกัน ทำให้การลอบเร้นในเกม TLoU2 ให้ความรู้สึกเหมือนกดดันมากๆ เพราะสถานการณ์สามารถพลิกจากการลอบเร้นเงียบๆ สู่การวิ่งหลบห่ากระสุนของศัตรูได้ตลอดเวลา การต่อสู้ในเกม TLoU2 ก็ทำออกมาได้น่าตื่นเต้นไม่แพ้การลอบเร้นในเกม จากการที่มักจะมีศัตรูปริมาณเยอะมากๆ ในแต่ละฉากต่อสู้ แถมศัตรูยังฉลาดพอที่จะใช้จำนวนที่มากกว่าให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตีโอบผู้เล่นเพื่อโจมตีจากหลายมุม หรือกระทั่งการส่งทหารที่มีอาวุธระยะประชิดเข้ามาไล่ต้อน Ellie ออกจากที่กำบังให้เพื่อนยิง ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องคอยเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองตลอดเวลาเช่นเดียวกับการลอบเร้น ซึ่งก็สื่อความรู้สึกกระเสือกกระสนร้อนรนเพื่อเอาชีวิตรอดของ Ellie ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเล็งปืนในเกมที่มักจะแม่นยำน้อยกว่าเกมยิงปืนทั่วไป บวกกับการที่ Ellie สามารถพกกระสุนปืนติดตัวได้ที่ละน้อยมากๆ (เป็นองค์ประกอบเดียวในเกมที่ไม่สมจริง) ก็ทำให้การต่อสู้ในเกมยังคงท้าทายและสมจริง ไม่ว่าผู้เล่นจะเล่นเกมยิงปืนแม่นแค่ไหนก็ตาม  ในส่วนของผู้ติดเชื้อ จะได้รับการพัฒนาในเรื่องของปริมาณ ความดุร้าย และความสามารถในการตรวจจับผู้เล่น แลกกับการที่ Ellie จะสามารถลอบสังหารเหล่าผู้ติดเชื้อได้ด้วยมีดพกของเธอ แทนที่จะต้องหาทรัพยากรมาสร้างมีดสั้นแบบที่ Joel ต้องทำในภาคแรก ซึ่งแม้ว่าโดยรวมๆ ศัตรูรันเนอร์และคลิ๊กเกอร์ที่พบได้บ่อยที่สุดจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ (นอกจากวิ่งเร็วขึ้นพอสมควร) แต่เกมก็เพิ่มมิติเข้าไปผ่านผู้ติดเชื้อชนิดอื่นๆ อย่าง “แชมเบลอร์” ที่สามารถโยนระเบิดพิษใส่เรา หรือปล่อยควันพิษรอบตัวได้ และ “สตอล์คเกอร์” ผู้ติดเชื้อที่เจอเพียงประปรายในภาคแรก แต่กลับมาพร้อมความสามารถในการหลบซ่อน และจะคอยลอบโจมตี Ellie พร้อมกับเรียกเพื่อนๆ มาช่วยอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเพิ่มมิติเข้าไปให้กับการต่อสู้ แม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่ากับศัตรูมนุษย์ก็ตาม ถ้าจะมีเรื่องให้ติ คงเป็นการที่เกมไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการที่มีศัตรูหลายๆ กลุ่มที่เป็นศัตรูกันเองในการต่อสู้ เช่นฉากหนึ่งในสถานีรถใต้ดิน ที่ให้ผู้เล่นสามารถหลอกให้ศัตรูมนุษย์และผู้ติดเชื้อในพื้นที่สู้กันเอง ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าสนใจมากๆ และสามารถให้ประสบการณ์การต่อสู้ที่แปลกใหม่ต่อผู้เล่นได้มากขึ้น แต่กลับมีฉากลักษณะนี้อยู่น้อยมากตลอดเกม ไหนๆ เนื้อเรื่องของเกมก็เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างกลุ่มมนุษย์กันเองอยู่แล้ว น่าจะเพิ่มองค์ประกอบนี้ลงไปในเกมมากกว่านี้หน่อย ให้มันมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพของเกมในภาพรวม อีกมิติของเกมเพลย์ใน TLoU2 ก็คือการพัฒนาตัวละคร ที่ทำได้ผ่านการสำรวจโลกของเกมเพื่อเก็บวัตถุดิบหลากหลายชนิดมาสร้างอุปกรณ์เช่นยาหรือระเบิด หรือหาของอัพเกรด เช่นชิ้นส่วนปืนหรืออาหารเสริม เพื่อพัฒนาความสามารถของตัวละครโดยตรงด้วย ซึ่งนอกจากจะเสริมอรรถรสของการเป็นผู้รอดชีวิตในโลก Post-Apocalpyse แล้ว ยังเพิ่มเหตุผลให้ผู้เล่นเดินทางออกนอกเส้นทางหลักเพื่อสำรวจโลกของเกม เพื่อตามหาตำราที่จะปลดล๊อคสายการอัพเกรด และเพื่อปลดล๊อคเนื้อเรื่องเสริมที่มักพบได้ระหว่างทางด้วย แต่พื้นที่เสริมเหล่านี้ ก็มักจะมีศัตรูผู้ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เล่นต้องชั่งน้ำหนักว่าอยากจะเผชิญหน้าศัตรูเพื่อโอกาสในการเก็บของเพิ่มหรือไม่ ซึ่งก็ย้อนกลับไปเสริม “บรรยากาศ” และ “อรรถรส” ของเกมอีกที ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ อย่างที่เคยบอกไปในบทความพรีวิวเกมก่อนหน้านี้ องค์ประกอบที่น่าจะได้รับคำชมมากที่สุด และเป็นสิ่งที่มัดรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันก็คือ “บรรยากาศ” ของเกม TLoU2 อันเป็นส่วนผสมขององค์ประกอบด้านภาพและเสียงทั้งหมด ที่ทำให้การเดินทางของ Ellie เต็มไปด้วยความตึงเครียด จากความรู้สึก “อันตราย” ที่แผ่ซ่านออกมาจากสภาพแวดล้อมในเกม  องค์ประกอบที่ดูเหมือนมีไว้แค่ “ประดับฉาก” ในเกมอื่นๆ มักมีความหมายเสมอ ในเกม TLoU2 ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยคราบเลือดหรือซากศพจากการต่อสู้ ที่บ่งบอกว่าเพิ่งมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มมนุษย์สองกลุ่ม และกลุ่มที่ชนะอาจกำลังรอคุณอยู่ข้างหน้า ไปจนถึงเชื้อรา Cordyceps ที่คืบคลานไปบนกำแพง ที่บอกใบ้ถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อขนาดใหญ่ที่อาจยังอยู่ในบริเวณ องค์ประกอบในฉากของเกม TLoU2 ถูกออกแบบมาให้สร้างความรู้สึกเหมือนมีอะไรรออยู่ข้างหน้าเสมอ เมื่อรวมกับการออกแบบเสียงของเกม ที่มักจะใส่เสียงเล็กๆ อย่างเสียงแก้วแตก เสียงสุนัขเห่า หรือแม้แต่เสียงร้องของผู้ติดเชื้อเข้ามาอยู่เนืองๆ ก็เพียงพอจะทำให้สะดุ้งเล็กๆ ได้ตลอดเวลา เหตุผลใหญ่ๆ ข้อหนึ่งที่ฉากของเกมสามารถสร้างความตึงเครียดได้ขนาดนี้ มาจากความน่าทึ่งของกราฟิกในเกม TLoU2 ที่บอกได้แค่ว่าเหนือว่าที่ผู้เขียนคาดเอาไว้เสียอีก ตั้งแต่ความคมชัดของพื้นผิวสิ่งของต่างๆ ที่เสริมความสมจริงให้สภาพแวดล้อม ไปจนถึงหน้าตาตัวละคร ที่สามารถถ่ายทอดหน้าตาของนักแสดงจริงได้เหนือกว่าเกมอื่นในตลาดอย่างชัดเจน โดยความสมจริงของหน้าตาตัวละครยังช่วยเสริมองค์ประกอบอื่นๆ ให้มีส่วนในการสร้างบรรยากาศของเกมได้อย่างคาดไม่ถึงด้วย ถ้าจะให้ลองยกตัวอย่าง รายละเอียดเล็กๆ อย่างหนึ่งที่ผู้เขียนชอบในการต่อสู้ คือการที่หน้าตาของทั้ง Ellie และคู่ต่อสู้จะเปลี่ยนไปตลอดเวลาตามการกระทำของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความโกรธและเกลียดชังในขณะที่ยัดมีดใส่พุงศัตรู ไปจนถึงความเจ็บปวดเมื่อต้องดึกลูกธนูที่ปักอยู่ตามร่างกายทิ้ง สีหน้าที่เปลี่ยนไปของ Ellie และตัวละครอื่นๆ ในเกมระหว่างการต่อสู้ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ถึงความกระเสือกกระสนเอาตัวรอดของทั้ง Ellie และตัวละครศัตรู ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อฆ่าอีกฝ่ายและมีชีวิตรอดไปต่อไป ซึ่งก็ถูกเสริมด้วยการออกแบบเสียงของเกม เช่นเสียงโลหะกระทบเนื้อ หรือกระทั่งเสียงเลือดที่กระเซ็นไปติดกำแพง ที่มอบน้ำหนักให้กับการโจมตีของทั้งศัตรูและผู้เล่น จนในบางจังหวะก็อดรู้สึก “หวาดเสียว” แทนตัวละครในเกมไม่ได้จริงๆ นอกจากนี้ เกมยังสามารถใช้ประโยชน์ของความเป็นเกมในรูปแบบของกระดาษโน้ตทั้งหลายที่ซ่อนอยู่ตามฉาก ที่มักจะเล่าเรื่องราวของเหล่า NPC ไร้หน้าในโลกของเกม เช่นจดหมายที่เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มผู้รอดชีวิตที่บังเอิญหลบซ่อนอยู่ในห้องอพาร์ตเมนต์ข้างๆ กัน ไปจนถึงชายชราผู้น่าสงสาร ที่ถูกลูกชายทั้งสองทอดทิ้งไปเข้ากลุ่มเซราไฟต์ ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักโดยตรง แต่ก็ช่วยกันทำให้เห็นภาพของวิถีชีวิตของมนุษย์ในโลกของเกม รวมไปถึงประวัติศาสตร์ของกลุ่มศัตรูทั้ง W.L.F. และเซราไฟต์ด้วย ถ้าจะให้สาธยายกันไปอีกแปดหน้าก็คงไม่จบ กับรายละเอียดด้านการนำเสนอเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด ที่ร่วมกันทำให้ระบบการเล่นทุกส่วนของ The Last of Us Part II กลายเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอเรื่องราวหรือ “ประสบการณ์” ของโลกและตัวละครในเกม และสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับระบบทั้งหมด เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร รวมไปสาสน์ที่ผู้พัฒนาต้องการสื่อผ่านเนื้อเรื่องอีกด้วย เอาเป็นว่าของแบบนี้ ถ้าไม่มาลองกับมือและรับองค์ประกอบทั้งหมดของเกมพร้อมกัน มันบอกไม่ถูกจริงๆ ต่อให้รู้แค่เนื้อเรื่อง หรือเล่นแคเกมเพลย์ ก็ไม่มีวันเข้าถึงประสบการณ์เต็มของเกมได้เลย ◊ ภาษาไทย / ตัวเลือกอื่นๆ ◊ อย่างที่กล่าวไปแล้วในพรีวิว ภาษาไทยในเกม The Last of Us Part II ถือเป็นงานแปลที่คุณภาพดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นในเกมมา แน่นอนว่าอาจจะมีคำแปลผิดหรือเสียอรรถรสไปบ้าง จากการที่คำแปลไม่สามารถมีคำหยาบได้ หรือแค่จากการสื่อความหมายที่ตกหล่นไปในขั้นตอนการแปลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือเป็นบทบรรยายไทยระดับเดียวกับที่เห็นได้ในภาพยนตร์หรือทางเว็บสตรีมมิ่งอย่าง Netflix สบายๆ  นอกจากนี้ เกมยังมีคำแปลภาษาไทยให้กับตัวหนังสือภาษาอังกฤษทั้งหมดในเกมเลย ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ตั้งแต่ป้ายบอกทางที่เอาไว้ประกอบฉาก ไปจนถึงเอกสารและจดหมายโน้ตทุกฉบับในเกม สามารถแปลไทยได้ในระดับเดียวกับบทบรรยาย ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเนื้อเรื่องใดๆ ในเกมเด็ดขาด นอกจากตัวเลือกด้านบทบรรยาย เกมยังเปิดให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการควบคุมและระดับความยากแบบแยกหมวดอย่างละเอียด เช่นความแรงการโจมตีศัตรู พลังป้องกันศัตรู ปริมาณกระสุนที่เก็บได้ เป็นต้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าจะช่วยผู้เล่นได้หลายคน เพราะต้องบอกว่าเกมแอบยากเหมือนกัน ยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชินกับเกมลอบเร้น ตัวเลือกเหล่านี้อาจจะช่วยให้คุณผ่านเกมไปได้โดยหัวไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ ผู้เขียนพบบั๊คที่ทำให้เกมไม่ยอมบันทึกการตั้งค่าปุ่มควบคุมใหม่ ส่งผลให้ผู้เขียนต้องคอยเข้าไปตั้งใหม่ทุกครั้งที่เข้าไปเล่นเกม แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็หวังว่าผู้พัฒนาจะสามารถแก้ไขจุดนี้ได้เมื่อเกมวางจำหน่าย ◊ สรุป ◊ แม้จะเป๋ไปบ้างในส่วนของเนื้อเรื่อง เมื่อเทียบกับเกมที่ผ่านมา แต่ TLoU2 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเกมที่พัฒนามาได้อย่างปราณีตที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยได้เล่นมาเลย ด้วยองค์ประกอบทั้งหมด ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างพอดี และใช้ประโยชน์จาก “ความเป็นเกม” อย่างเต็มที่ คนที่ชื่นชอบ TLoU ภาคแรก โดยเฉพาะในส่วนของเกมเพลย์ ไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยประการทั้งปวง ต่อให้ไม่ชอบเนื้อเรื่อง แค่ซื้อมาเล่นเกมเพลย์ก็ยังคุ้ม บอกเลย! [penci_review id="55739"] สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
12 Jun 2020
7 สิ่งที่น่าติดตามใน The Last of Us Part II
The Last of US เป็นเกม Exclusive ของ PlayStation ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย จากการนำเสนอเรื่องราวของโลกที่ล่มสลายจากผู้ติดเชื้อที่น่ากลัว, เกมเพลย์ที่ดุเดือดสะใจ, และเรื่องราวของตัวละคร Joel และ Ellie ที่น่าติดตาม ว่าพวกเขาจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดไปได้อย่างไร และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ที่ทาง Naugthy Dog จะสานต่อเรื่องราวการเดินทางครั้งใหม่ ด้วยการกลับมาของ Joel และ Ellie พร้อมด้วยตัวเกมที่ถูกปรับปรุงพัฒนาทุกอย่าง พร้อมด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่ง The Last of US Part II จะมีอะไรที่น่าติดตามในภาคนี้บ้าง ลองมาทบททวนกันก่อนที่จะได้สัมผัสกันได้เลย โลกหลังการล่มสลาย เรื่องราวใน The Last of US ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อรา ที่เมื่อได้เข้าไปในตัวมนุษย์ แล้ว มันก็จะทำให้พวกเขาได้กลายเป็นผู้ติดเชื้อและสูญเสียความเป็นคนไป จนเป็นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมและตามมาด้วยการล่มสลายของมนุษยชาติ The Last of US Part II จะเป็นเรื่องราวหลังจากที่โลกได้ล่มสลายไปแล้วถึง 25 ปี ซึ่งมนุษย์ล้วนต้องถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม เพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดจากเหล่าผู้ติดเชื้อ และกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ทำให้สถานที่ต่างๆ ในโลกนั้นเต็มไปด้วยซากปรักหักพังที่เกิดขึ้นจากความวุ่นวาย และซากตึกสูงมากมายที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและเชื้อรา จากการที่ไม่มีมนุษย์อยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน จึงน่าติดตามว่าทาง Naugthy Dog จะสามารถบรรยากาศของโลกที่ล่มสลายนี้ ออกมาได้ดีขนาดไหนในกราฟฟิคของเกมปัจจุบัน เรื่องราวที่มาถึงจุดเปลี่ยนแปลง เนื้อเรื่องของ The Last of US Part II ได้เริ่มขึ้นหลังจาก The Last of US ภาคแรกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่ Joel ได้ร่วมเดินทางกับ Ellie ในตอนนี้พวกเขาก็ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Wyoming ภายในเมือง Jackson ท่ามกลางชุมชนผู้อยู่อาศัยที่สงบสุขนั้น Ellie ก็ได้เติบโตขึ้นจนมีอายุ 19 ปี แล้วในขณะนี้ Ellie ได้มีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนใหม่ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่แล้วเหตุการณ์อันโหดร้ายก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด  เมื่อเธอต้องพบกับการสูญเสียที่เกินรับได้ ตัวละครที่เลือกเดินคนละเส้นทาง Ellie ได้เติบโตขึ้นจนมีอายุ 19 ปี นั่นจึงทำให้เธอเริ่มที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตตามทางของตัวเองมากขึ้น เมื่อเธอได้พบกับการสูญเสียคนสำคัญไป Ellie จึงตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยการล้างแค้น และได้เป็นฝ่ายออกไล่ล่าพวกที่พรากสิ่งที่เธอรักไป ในขณะเดียวกัน Joel ที่ตอนนี้ได้มีอายุมากขึ้น เขาก็ยังคงรู้สึกผูกพันธ์และเป็นห่วง Ellie ซึ่งเป็นเด็กสาวที่เขาเคยพยายามปกป้องมาตลอดการเดินทาง ทำให้เขาไม่เห็นด้วยที่ Ellie จะต้องออกไปเสี่ยงตาย และใช้ชีวิตด้วยการเข่นฆ่าผู้อื่นแบบนี้ แต่แน่นอนว่า Ellie ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของ Joel จึงทำให้ดูเหมือนเส้นทางของตัวละครหลักทั้งสองคน จะต้องแยกกันไปคนละทางในภาคนี้ซะแล้ว เกมเพลย์ที่ได้รับการปรับปรุง Ellie จะเป็นตัวละครที่ผู้เล่นได้ร่วมต่อสู้ไปด้วยกันใน The Last of US II ซึ่งเธอมีความคล่องแคล่วว่องไวมากกว่า Joel จึงสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง, กระโดด, โหน, ปีนป่าย, รวมถึงสามารถโยกตัวหลบการโจมตี ซึ่งทำให้จังหวะการต่อสู้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น นอกจากวิธีการต่อสู้โดยปกติแล้ว Ellie ยังสามารถเข้าไปหลบในใต้ท้องรถ เพื่อหลบหนีในระหว่างที่ถูกไล่ล่าได้ และในบางครั้งก็ยังมีเหตุการณ์ที่พวกพ้องของเธอจะมาช่วยต่อสู้ ทำให้เธอไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว อีกทั้งความรุนแรงและโหดร้ายของการต่อสู้ในเกมภาคนี้ก็ยังได้ถูกเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวอีกด้วย ศัตรูและเหล่าผู้ติดเชื้อที่จะได้พบเจอ 5 ปีผ่านไป นับตั้งแต่เรื่องราวใน The Last of US ภาคแรก ตอนนี้เหล่ากลุ่มคนหัวรุนแรงผู้ไม่หวังดี ได้บุกปล้นอาวุธจากกองทัพ และบุกยึดสถานที่ต่างๆ สร้างเป็นเขตกองกำลังของตัวเอง ซึ่งพวกเขาได้สังหารผู้ที่บุกรุกเข้ามา และออกไล่ล่าผู้ที่เหลือรอดคนอื่นอย่างไม่ใยดี จนทำให้เกิดเป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอดขึ้นมา นอกจากศัตรูที่เป็นมนุษย์ด้วยกันแล้ว อีกศัตรูที่ผู้เล่นจะได้พบเจอก็คือเหล่าสุนัขเฝ้ายาม ซึ่งมันสามารถดมกลิ่นค้นหา และพุ่งเข้ามาโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ส่วนทางด้านเหล่าผู้ติดเชื้อหัวเห็ดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก็ได้พัฒนาความน่ากลัวไปอีกขั้นและเกิดเป็นผู้ติดเชื้อประเภทใหม่ขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะมีประเภทที่วิ่งเข้ามาตามเสียงได้อย่างรวดเร็ว หรือประเภทที่มีลักษณะลำตัวที่ใหญ่ ก็ยังมีประเภทที่สามารถระเบิดระอองพิษออกมาจากตัวได้ด้วย การแสดงออกที่สมจริงมากขึ้นกว่าเดิม ใน The Last of US Part II ทาง Naugthy Dog ได้พยายามพัฒนากราฟฟิคให้สมจริงขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อให้ตัวละครทุกตัว ไม่ว่จะเป็นตัวละครหลักอย่าง Ellie หรือ Joel รวมถึง NPC ศัตรูทุกตัว สามารถแสดงออกราวกับมีชีวิตจริงๆ มากขึ้น ทุกตัวละครในเกมจะมีรอยช้ำ หรือบาดแผลจากการต่อสู้เมื่อได้รับบาดเจ็บ และยังมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายเมื่ออารมณ์เปลี่ยนไป อย่างเช่นการเห็นเส้นเลือดหรือดวงตาที่เริ่มแดงก่ำขึ้นในเวลาโกรธ ไม่เพียงแต่รายละเอียดทางด้านกายภาพเท่านั้น แต่การวางบทสนทนาและการตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ยังได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพวกเขาสามารถแสดงความรู้สึกเสียใจหรือโกรธแค้น เมื่อเห็นพวกพ้องที่ตายจากไป และช่วยกันออกไล่ล่าค้นหา Ellie ที่หลบซ่อนอยู่ได้ด้วย บทสรุปสุดท้ายที่น่าติดตาม จากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการล่มสลาย, ศัตรูที่จะได้พบเจอ, รวมถึงเรื่องราวของ Joel ที่พยายามช่วยเหลือ Ellie และ Ellie ที่ได้ตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยการล้างแค้น ก็ทำให้น่าสนใจมากว่าบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดนี้จะจบลงอย่างไร Ellie เป็นตัวละครสำคัญที่สุดในภาคนี้ ซึ่งผู้เล่นจะได้ร่วมต่อสู้ เดินทาง และพบการตัดสินใจอันยากลำบากบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยการล้างแค้น ซึ่งปลายทางอันมืดมนของ Ellie จะเป็นอย่างไร ก็สามารถติดตามได้ใน The Last of US Part II ที่จะวางจำหน่ายวันที่ 19 มิถุนายนนี้
11 Jun 2020
The Last of Us Part II ปล่อย Launch Trailer แล้ว!
The Last of Us Part: II กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน นี้สำหรับ PS4 ตัวเกมถูกพูดถึง และมีแฟนๆ รอคอยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังปล่อย Trailer และโฆษณาต่างๆ ออกมามากมาย ล่าสุดก็ผู้พัฒนาก็ได้ปล่อย Launch Trailer ออกมาแล้วครับ! เหตุการณ์ของภาคนี้จะเว้นช่วงห่างจากภาคแรกหลายปี The Last of Us Part: II จะเน้นไปที่ Ellie ในขณะที่เธอกำลังตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนที่เจิรญรุ่งเรืองในเมือง Jackson หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ Ellie จนทำให้เธอเริ่มต้นภารกิจล้างแค้น แม้ว่านั่นหมายถึงเธอจะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่ม Washington Liberation Front ในเมือง Seattle และกลุ่ม Seraphites ที่เหมือนกับลัทธิก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในเกมนี้เมื่อเทียบกับภาคแรก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือระบบการต่อสู้ที่สมจริงยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเกมดังกล่าวจะมีความยาว 25 ถึง 30 ชั่วโมง Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
11 Jun 2020
หัวหน้าทีมพัฒนา The Last of Us Part II ออกมาขอโทษประเด็นเพลง True Faith
จากประเด็นเรื่อง Trailer ของ The Last of Us Part: II ที่ถูกกล่าวหาว่าเลียนแบบเพลง "True Faith" ของ Lotte Kestner เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งวันนี้ข้อสรุปของเรื่องดังกล่าว ก็ได้ถูกประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของ Neil Druckmann รองประธาน Naughty Dog แล้วครับ Neil Druckmann ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่าน Twitter ของตัวเองว่า เพลงใน Trailer ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง "True Faith" ของ Lotte Kestner จริง แต่เนื่องจากความผิดพลาดในตอนท้ายของเรา เธอจึงไม่ได้รับเครดิตตามที่ตั้งใจไว้ เราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เราจะทำการแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ Ellies rendition of “True Faith” was inspired by Lotte Kestners haunting cover of the song. Due to an oversight on our end, she wasnt credited as intended. Our deep apologies -- we are rectifying this ASAP. We hope that @lottekestner receives the recognition she deserves. — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) June 10, 2020 และทาง Kestner ได้ลบข้อความที่เธอเคยโพสต์บน Twitter ของเธอเกี่ยวกับการตัดพ้อเรื่องที่เธอไม่ได้เครดิตเพลงใน Trailer นั้น และมากล่าวขอบคุณครับ Neil และ Naughty Dog แทน So proud this music has found a home in such an amazing project. Thanks to Neil, Naughty Dog and everyone at Sony. https://t.co/FJ2r5Xgbgs — Lotte Kestner (@lottekestner) June 10, 2020 Credit: IGN สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
10 Jun 2020
ผู้พัฒนาเผย The Last of Us Part: II มีเกมเพลย์ Stealth ที่ยอดเยี่ยม
The Last of Us Part: II ก็เหมือนกับภาคก่อนที่จะให้ความสำคัญกับการ Stealth เป็นหลัก แต่ Naughty Dog ได้พยายามปรับปรุงมันให้ดีขึ้นกว่าภาคก่อน เกมนี้ศัตรูจะฉลาดมากขึ้น ส่วนผู้เล่นก็จะมีอุปกรณ์มากมายสำหรับใช้ในการ Stealth ขณะเดียวกันก็มีศัตรูแบบใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของผู้เล่นยากขึ้น ผู้พัฒนา Kurt Margenau ได้ให้สัมภาษณ์กับ Gamereactor ว่าการ Stealth คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นจะได้รับจาก The Last of Us Part: II เขาได้สร้างศัตรูแบบใหม่ที่ทำให้การ Stealth เข้มข้นมากขึ้น และยังบอกว่า ระบบ AI มีความน่าสนใจมากมายให้เล่นด้วย Kurt ยังกล่าวอีกว่าพวกเขารู้สึกว่าเกมนี้จะสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อผู้เล่นมีความคิดที่จะทำการ Stealth ผู้เล่นมีวิธีมากมายที่สามารถดูผู้คนหรือสุนัขที่ลาดตระเวนอยู่รอบๆ ได้ และผู้พัฒนาพยายามที่จะให้ผู้เล่นได้เจอกับเหตุการณ์ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยศัตรูแบบนี้บ่อยๆ นั่นทำให้ผู้เล่นต้องใช้สมองคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะหลบหนีออกไปยังไงแทนที่จะตายแล้วไปเริ่มใหม่ เนื่องจากเกมนี้จะมีวิธีการ Stealth แบบใหม่เข้ามามากขึ้น มีวิธีเล่นใหม่ๆ มากขึ้น ดังนั้นผู้พัฒนาจึงได้ทำให้ศัตรูฉลาดมากขึ้นด้วย ผู้เล่นหลบในพุ่มหญ้าได้ ศัตรูก็หาในหญ้าได้, พวกเขาจะเริ่มค้นหาใต้ยานพาหนะ, และพวกเขาจะตะโกนเตือนเพื่อนตัวเองทันทีเมื่อเจอศพที่ผู้เล่นได้สังหารไป จากที่ผู้พัฒนาได้พูดเรื่องกลไกการ Stealth มานั้นมันดูน่าสนใจ และน่าคาดหวังสูงมาก เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่ทางผู้พัฒนาได้กล่าวมานั้นเป็นจริงมากแค่ไหน The Last of Us Part: II จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4 ในวันที่ 19 มิถุนายน Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
10 Jun 2020
The Last of Us Part II เป็นเกมที่มีการพรีออเดอร์มากที่สุดในบราซิล
ต้องบอกเลยว่าเกม The Last of Us Part II ได้รับความสนใจ รวมถึงคาดหวังจากผู้เล่นจำนวนมากจริงครับ และเกมนี้สามารถรับประกันได้ว่าจะขายดีอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดได้ข่าวออกมาว่าตัวเกมมียอดพรีออเดอร์สูงที่สุดในประเทศบราซิลตอนนี้เลย! จากรายงานของ IGN Brazil เกม The Last of Us Part II ได้กลายเป็นเกม PlayStation ที่มียอดพรีออเดอร์มากที่สุดในประเทศบราซิล ณ เวลานี้ และไม่ใช่แค่ประเทศบราซิลเท่านั้นที่วีดีโอเกมดังกล่าวมีความต้องการสูง เพราะก่อนหน้านี้ทาง Sony ได้เปิดเผยว่า The Last of Us Part II มียอดการพรีออเดอร์มากกว่าเกม Marvels Spider-Man ในปี 2018 เสียอีก! The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายบน PS4 ในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
08 Jun 2020
บทสัมภาษณ์ผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II กับ "ราคาของความเกลียดชัง"
ในฐานะสิ่งมีชีวิตเลือดอุ่นที่รู้สึกรัก/โลภ/โกรธ/หลง สัญชาตญาณของมนุษย์ในการ "ปกป้อง" สิ่งที่ตนหวงแหน ไม่ว่าจะเป็นดินแดน ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งคนรัก ถือเป็นแก่นหลักอย่างหนึ่ง ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เราฝ่าฟันอุปสรรคอันมากล้นของ "ชีวิต" เพื่อลืมตาตื่นและก้าวเดินต่อไปในวันรุ่งขึ้น เมื่อมีอะไรก็ตามที่มาพลัดพรากเราไปจากสิ่งของหรือผู้คนอันเป็นที่รักเหล่านั้น ก็ย่อมไม่น่าแปลกถ้ามนุษย์คนหนึ่งจะรู้สึกโกรธแค้น และเรียกร้องความยุติธรรมจากโลก พระผู้เป็นเจ้า หรือบางคนอาจจะเลือกวิธีที่เถรตรง และไปทวงเอา "ความยุติธรรม" ที่ตนควรได้รับจากผู้ที่พลัดพรากไปเสียเอง แต่ความเป็นจริงอย่างหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับโลกอันโหดร้ายของเกม The Last of Us Part II คือไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ และแม้แต่ "ความยุติธรรม" ที่รู้สึกว่าเป็นสิทธิ์ของเรา บางครั้งก็มาพร้อมป้ายราคาที่ถูกปกปิด และกว่าจะรู้ถึงสิ่งที่ต้องแลกไปเพื่อให้ได้มา ก็อาจจะสายเกินไปเสียแล้ว คำถามที่ตามมาคือ แล้วคุณพร้อมจะเสี่ยงกับ "ราคาที่มองไม่เห็น" นี้แค่ไหน เพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการ "เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าทุกการตัดสินใจในฐานะ Ellie มันเป็นการตัดสินใจที่ท้าทาย และมีราคา เพราะทุกอย่างในโลกของเกมมันมีราคาที่ต้องแลกโดยไม่มีข้อยกเว้น" ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II คุณ Halley Gross กล่าวในการสัมภาษณ์กับกลุ่มสื่อมวลชนชาวไทย ที่จัดขึ้นโดย Sony Thai เมื่อเร็วๆ นี้ "ตั้งแต่สภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ที่บางครั้งก็เป็นอันตรายกับเราได้ ไปจนถึงพวก NPC ที่จะล่าสังหารคุณอย่างไม่ลดละ ทุกอย่างมันถูกสร้างมาเพื่อขัดขวาง Ellie ในระหว่างการเดินทางเพื่อตามหา “ความยุติธรรม” ที่เธอต้องการ และทุกอย่างยังถูกยกระดับอย่างรวดเร็วตามเนื้อเรื่อง มันเหมือนกับการโยนอุปสรรคทุกอย่างใส่ Ellie เพื่อที่จะถามเธอว่า เธอต้องการสิ่งนี้จริงๆ ใช่ไหม? เธอพร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ใช่ไหม" ด้วยผลงานเขียนบทในวงการภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์มากมาย รวมไปถึงประสบการณ์ในการสร้างซีรีส์ชื่อดังของ HBO อย่าง Westworld เกม The Last of Us Part II ถือเป็นก้าวแรกของคุณ Halley สู่วงการเกม แถมยังเป็นผลงานที่ฝากความคาดหวังของแฟนๆ ทั่วโลกเอาไว้ด้วย "มันก็ต้องรู้สึกเกร็งๆ บ้างเป็นธรรมดาแหละนะ ค่าย Naughty Dog เองก็มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว แถมตัวละครเหล่านี้ยังเป็นที่รักของแฟนๆ อีกด้วย" "ฉะนั้นฉันก็ย่อมรู้สึกถึงความกดดันในการสานต่อเรื่องราวของพวกเขา ในวิธีการที่ให้เกียรติ์ที่มาของพวกเขาด้วย ซึ่งก็น่ากลัวมาก แต่ฉันก็ตกหลุมรักตัวละคร Ellie ไปเรียบร้อยแล้ว และการที่ได้โอกาสในการพัฒนาตัวละครตัวนี้ในฐานะผู้ใหญ่ เป็นโอกาสที่ฉันปฏิเสธไม่ลงเลย" สำหรับคุณ Halley ความแตกต่างหลักระหว่างการทำงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ เมื่อเทียบกับการทำงานเกม คือในขณะที่ "บท" ในงานภาพยนตร์และโทรทัศน์มักเป็นของตายตัว ที่ถูกส่งจากโต๊ะนักเขียนไปให้แผนกอื่นๆ เนรมิตขึ้นมาอย่างไม่หืออือ "บท" ของเกมกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงและเติบโตตลอดเวลา จากการเอาใจใส่ของทุกฝ่ายใน Naughty Dog ที่ทำงานร่วมกันในการขับ "เนื้อเรื่อง" ของเกมให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากที่สุด "ที่ Naughty Dog เนื้อเรื่องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าฉันและ Neil จะกำหนดทิศทางของเนื้อเรื่องได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ไม่นานเนื้อเรื่องก็ได้รับคำแนะนำจากทีมดีไซน์ หรือทีมออกแบบศิลป์ หรือใครก็ได้ในค่าย ที่ช่วยกันใส่ตัวตนของตัวเองลงไปในบท เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถช่วยกันขับธีมของเนื้อเรื่องไปให้ถึงผู้เล่น" "เกมจะเกิดขึ้น 4 ให้หลังจากตอนจบของภาคแรก และในสี่ปีนั้น ตัวละครที่เราคุ้นเคยก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนที่ปลอดภัยพอสมควร อาจจะต้องออกไปจัดการพวกผู้ติดเชื้อระหว่างลาดตระเวนบ้าง แต่พวกเขาก็ยังมีพื้นที่พอให้เป็นกังวลกับความรักหรือมิตรภาพ มีเวลานัดกันดูหนัง มีเวลาที่จะพักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเป็นที่รักและต้อนรับ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หรืออาจจะในชีวิตของเขาเลยก็ได้" "มันเลยเป็นโชคดีของฉันที่ได้เข้ามาในจังหวะนี้ และได้ทำงานกับตัวละครที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งเหล่านี้ เพื่อตั้งคำถามว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหนหลังจากที่ใช้ชีวิตอย่าง “สงบ” มานานขนาดนี้ หรือเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังจากที่ต้องเผชิญกับเรื่องที่เจ็บปวด ตัวละครเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่อาจจะเสียทุกอย่างที่รักไปได้ในพริบตา แล้วมันทำให้พวกเขามีทัศนคติต่อความรักหรือความปลอดภัย หรือแม่แต่ต่อชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง มันมีคำถามมากมายที่เราอยากหาคำตอบเกี่ยวกับโลกของเกม" อย่างที่หลายคนอาจจะทราบอยู่บ้าง เนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II จะติดตามตัวละคร Ellie วัย 19 ปี และการเดินทางเพื่อทวงคืน "ความยุติธรรม" บางอย่างของเธอ ที่จะพาเธอเข้าไปพัวพันกับ "วังวนแห่งความเกลียดชัง" ที่ผู้พัฒนายกให้เป็นแก่นหลักของทุกองค์ประกอบในเกม "ทุกอย่างที่เราทำในเกมนี้ ตั้งแต่การเล่าเรื่องผ่านองค์ประกอบแวดล้อม หรือการพัฒนาตัวละคร NPC และเนื้อเรื่อง ล้วนวนกลับไปสู่ธีมหลักของเกมที่เราตั้งไว้ ซึ่งก็คือธรรมชาติของความรุนแรง ที่มักจะดำเนินไปเป็นวังวนไม่สิ้นสุด และมักจะเพิ่มทวีตัวเองขึ้นเรื่อยๆ" "ในการออกแบบเมือง Seattle อันเป็นที่ตั้งของเกม เรามีจุดประสงค์หลักคือการส่งผ่านแก่นสาสน์ตรงนั้นไปยังผู้เล่น เพื่อการนั้น เราจึงสร้างกลุ่มศัตรูสองกลุ่มนี้ขึ้นมา เป็นกลุ่มคนสองฝ่ายที่ต่างห้ำหั่นกันด้วยความเกลียดชัง ที่หมักหมมมานานจนไม่มีใครบอกได้แล้วว่าเริ่มได้อย่างไร หรือใครเป็นคนเริ่มก่อน มีแต่เชื่อว่าอีกฝ่ายเริ่มก่อน จึงรบกันไม่รู้จบ" ศัตรูสองกลุ่มที่ผู้เล่นจะพบในเกม The Last of Us Part II จะประกอบไปด้วยกลุ่มทหารพลเรือน W.L.F. ที่มักจะใช้กลยุทธ์และอาวุธแบบทหาร แถมยังมีสุนัขตามกลิ่นที่สามารถตามตัว Ellie ได้อย่างแม่นยำ ส่วนอีกกลุ่มคือเหล่าเซราไฟต์ กลุ่มผู้คลั่งศาสนาที่มักโจมตีด้วยอาวุธไร้เสียงอย่างธนู ก่อนจะจับผู้ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูมาแขวนคอและคว้านท้องอย่างโหดเหี้ยม "สำหรับกลุ่ม W.L.F. เราอยากสร้างกลุ่มศัตรูที่ผู้เล่นมีความคุ้นเคยสักหน่อย จึงอาจจะสังเกติได้ว่าพวก W.L.F. จะมีความคล้ายคลึงกับกลุ่ม Hunters ในภาคแรกในแง่ของแนวทางการเล่น แต่แน่นอนว่ามาพร้อมกับการพัฒนามากมาย อย่างแรกคือการที่ตัวละครทุกตัวมีชื่อของตัวเอง หมายความว่าถ้ามีใครตายหรือหายตัวไป พวกที่เหลือก็จะแสดงปฏิกิริยาที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น" "ในขณะเดียวกัน ในส่วนของเซราไฟต์นั้น เราต้องการพูดถึงคนที่ถูกครอบงำโดยศาสนาหรือความเชื่อ จนสามารถกระทำความรุนแรงอย่างสุดโต่งได้โดยไม่รู้สึกอะไร พวกเซราไฟต์จะติดตาม “ศาสดา” คนหนึ่ง และกลุ่มก็ก่อตั้งในเมือง Seattle มานานพอๆ กับพวก W.L.F. ด้วย ซึ่งเรามองว่าพวกเขาเป็นเหมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์อีกแง่ของเมือง Seattle" แต่แม้ว่ากลุ่มทั้งสองจะเป็นศัตรูที่จะไล่ล่าและสังหารผู้เล่นอย่างไร้ปราณี แต่ผู้พัฒนาก็ยังให้ความสำคัญกับ NPC ศัตรูเหล่านี้ในฐานะมนุษย์ ที่ล้วนมีความหวังและความฝัน หรือไปถึงความสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นๆ รอบข้างอีกด้วย ทำให้พวกเขามี "ตัวตน" มากกว่าแค่ศัตรูนิรนามในเกมทั่วๆ ไป และทำให้การต่อสู้มีน้ำหนักต่อจิตใจของผู้เล่นอย่างแท้จริง "เราต้องการสร้างสถานการณ์ที่บังคับให้ Ellie ในฐานะตัวละคร ต้องเลือกระหว่างทางเลือกที่ไม่น่าเลือกทั้งสองทาง พร้อมกับตั้งคำถามว่าเธอจำเป็นต้องเลือกแต่แรกหรือไม่" "ความรุนแรงและความเกลียดชังอาจเป็นแก่นหลักของเนื้อเรื่อง แต่มันก็เกี่ยวกับความเข้มแข็งของมนุษย์เช่นกัน ไม่ว่าจะในตัว Ellie หรือในตัวละครอื่นๆ ที่สามารถยกตัวเองขึ้นมาเมื่อล้มลง และถูกท้าทายให้ตั้งคำถามกับการกระทำของตัวเองตลอดเวลาเกี่ยวกับทางเลือกที่ได้เลือกไป และการทำความเข้าใจถึงราคาที่จำเป็นต้องจ่ายไปเพราะการตัดสินใจเหล่านั้น การที่มนุษย์คนหนึ่งเลือกทางเลือกที่อาจจะนำไปสู่การทำลายล้าง และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตัวตนของมนุษย์คนนั้น" แนวคิดนี้สะท้อนออกมาในเกมเพลย์ในรูปแบบของ "ทางเลือก" ที่เกมมอบให้ผู้เล่น ในประสบการณ์ของผู้เขียนเอง มีหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนเกม "ผลัก" เราให้ต้องกระทำเรื่องที่โหดเหี้ยมในฐานะทางเลือกที่ง่ายที่สุด เช่นการฆ่าเจ้าของสุนัข เพื่อฉวยโอกาสลอบเร้นผ่านไปในขณะที่สุนัขตัวนั้นพยายามร้องเรียกร่างไร้วิญญาณของเจ้าของ โดยคุณ Halley กล่าวว่าผู้พัฒนาต้องการมอบอิสระให้ผู้เล่นสามารถตีความเนื้อเรื่องผ่านการกระทำของตัวเองได้ด้วย "เมื่อคุณเผชิญสุนัขของทหาร W.L.F. คุณมีทางเลือกว่าจะกำจัดมัน หรือจะลอบผ่านไปเฉยๆ ก็ได้ เป็นการตั้งคำถามว่าคุณจะยอมสละชีวิตของ “มนุษย์” หรือสุนัขสักตัว เพื่อเป้าหมายของคุณหรือไม่ เราอยากให้คุณจำเป็นต้องตอบคำถามยากๆ เหล่านี้ตลอดเวลา" "ยิ่งเกมดำเนินไปเรื่อยๆ เราก็ยิ่งเปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตัวละครทั้งหลายนี้ในฐานะมนุษย์มากขึ้นด้วย เพราะเราไม่อยากให้ศัตรูในเกมเป็นแค่ศัตรูที่คุณต้องกำจัด แต่เป็นมนุษย์ที่มีตัวตน มีความสัมพันธ์ต่อมนุษย์คนอื่นๆ ที่อาจจะเสียใจจากการตายของพวกเขา เราไม่อยากให้อะไรรู้สึกง่าย เพื่อสื่อว่า Ellie ต้องการทำตามเป้าหมายของเธอแค่ไหน และให้ผู้เล่นเข้าใจถึงความมุ่งมั่นในการตามหา “ความยุติธรรม” ที่เธอต้องการ และความเกลียดชังที่เป็นแรงขับของเธอ" สุดท้ายนี้ คุณ Halley ฝากความหวังว่าผู้ที่เล่นเกมทุกคนจะตั้งคำถามกับตัวเอง เกี่ยวกับทั้งตัวพวกเขาเอง และเกี่ยวกับโลกรอบๆ ตัว รวมไปถึงคนแปลกหน้าที่อยู่ในสังคมด้วย "เราออกแบบตอนจบของเกมนี้ด้วยความตั้งใจที่จะตั้งคำถามหรือข้อถกเถียงในหมู่ผู้เล่นอยู่แล้ว ไม่มีตัวละครตัวไหนในเกมที่เป็นขาวหรือดำ ดีหรือชั่วไปเลยทั้งหมด การตีความการกระทำของตัวละครเหล่านี้ก็ถือเป็นองค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งที่เราตั้งใจใส่ไว้ในเกมเช่นกัน" แล้วพบกับบทความรีวิวเกม The Last of Us Part II ของ GameFever ได้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หรืออ่านความคิดเห็นเบื้องต้นจากการเล่นเกมได้ ที่นี่ สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
05 Jun 2020
The Last Of Us Part 2 ปล่อยโฆษณาของตัวเกมผ่านทาง TV
การโฆษณาเกมผ่านทางทีวี เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก แต่สำหรับเกมใหญ่ๆ อย่าง The Last Of Us Part II คงไม่น่าแปลกใจถ้าผู้พัฒนาจะอยากทำการตลาดให้กับเกมให้มากที่สุดที่ทำได้ ล่าสุด ผู้พัฒนา Naughty Dog ได้มีการปล่อย Spot โฆษณาของเกมผ่านทางทีวีในสหรัฐอเมรีกา ก่อนหน้าที่เกมจะวางจำหน่ายอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ตัววีดีโอโฆษณาดังกล่าวยังไม่ได้ถูกอัพโหลดไปบนช่อง Youtube อย่างเป็นทางการ แต่มีคนเก็บภาพ Spot จากทางทีวีมาได้ ซึ่งเป็นเพียงวีดีโอสั้นๆ แต่มีผู้สนใจอย่างมาก เนื้อหาในวีดีโอตัวอย่างนี้เป็นการรบรรเลงเพลงที่ดูเป็นเพลงเศร้า พร้อมแสดงการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของ Ellie เห็นอย่างนี้แล้ว น่าสนใจไม่เบาเลย เริ่มจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว!!! The Last Of Us Part 2 มีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น ในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นเกมมาแล้ว สามารถอ่านความเห็นคร่าวๆ ของทีมงานได้ ที่นี่ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
03 Jun 2020
The Last of US Part II ระบบ AI ของเกมนี้จะมีปฏิกริยาที่สมจริงมากขึ้น
พูดถึงจุดเด่นของเกม The Last of US หนึ่งอย่างก็คงจะเป็นในเรื่องของระบบเกมเพลย์ที่จะเน้นการลอบเร้นสุดระทึก ถึงแม้ว่าศัตรูภายในเกมจะมีไม่กี่ชนิด แต่มันก็พาเราลุ้นและสนุกไปจนจบเกม ล่าสุดทาง Co-director ของเกม The Last of US Part II ที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้อย่างคุณ Anthony Newman ได้ออกมาเปิดเผยกับทางเว็บไซต์ Ungeek ว่า AI ของเกมนี้จะมีความฉลาดและปฏิกริยาที่สมจริงมากขึ้นกว่าภาคก่อนหน้าอีกด้วย โดยคุณ Newman กล่าวว่าในภาคนี้พวกเขาได้สร้างระบบ AI ตรวจจับตัวละครเราได้ลึกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ที่ตัวเรานั้นใช้อาวุธระยะไกลจัดการกับศัตรูในพื้นที่ไปหนึ่งตัวต่อหน้าศัตรูตัวอื่น แทนที่พวกเขาจะตรวจจับตัวละครเราและเดินแห่มาหาทันที แต่ศัตรูในภาคนี้ผู้พัฒนาได้ใส่ระบบที่เรียกว่า "Middle State" นั่นคือพวกเขาอาจจะยังไม่รู้ตำแหน่งของเราชัดเจน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเรานั้นยิงมาจากที่ไหน และต้องทำการเดินตรวจหาก่อนเพื่อเพิ่มความตรึงเครียดในการเล่นนั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าจะช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกันมันทำให้ระบบลอบเร้นของเรานั้นสนุกและตื่นเต้นมากขึ้น เพราะศัตรูอาจจะทำการเปลี่ยนทิศทางการเดินเพื่อค้นหาตัวละครเรานั่นเอง โดย The Last of US Part II มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
03 Jun 2020
Preview: บอกเล่าประสบการณ์เล่นเกม The Last of Us Part II ก่อนรีวิวจริง
หมายเหตุ: ตามข้อตกลงระหว่างทีมงาน GameFever และบริษัท SIE Singapore และเพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่อง บทความนี้จะอ้างอิงประสบการณ์จากการเล่นภารกิจ "Finding Nora" ช่วงกลางๆ เกมเท่านั้น และจะไม่พูดถึงเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องมากกว่าที่เปิดเผยไปแล้วในคลิปตัวอย่างทั้งหลายของเกม บทวิจารณ์เนื้อเรื่อง สามารถติดตามได้ในรีวิวตัวเต็มวันที่ 12 มิถุนายนนี้ อย่างที่หลายคนอาจจะทราบอยู่แล้ว ในขณะนี้ทางผู้พัฒนา Naughty Dog และผู้จัดจำหน่ายอย่าง Sony ได้ทำการส่งโค้ดเกม The Last of Us Part II ให้แก่สื่อมวลชนได้ทดลองเล่นกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สามารถเล่นเกมให้จบและทำรีวิวทันวันวางจำหน่าย ทางทีมงาน GameFever ก็เป็นหนึ่งในสื่อที่ได้รับโอกาสในการรีวิวเกม (ขอบคุณ SIES มา ณ ที่นี้ด้วยครับ) และเพื่อช่วยตอบคำถามที่อาจจะคาใจผู้เล่นหลายคนอยู่ในขณะนี้ เราจึงอยากจะนำประสบการณ์และความรู้สึกจากการเล่นเกมมาเล่าให้ฟังกันแบบเป็นข้อๆ ไปเลย ก่อนที่จะสรุปรวบยอดความเห็นทุกอย่างในตอนจบ แต่ด้วยความที่ Sony เจาะจงมาว่าให้บทความนี้อ้างอิงเนื้อหาจากช่วงสั้นๆ ของเกมช่วงเดียวเท่านั้น เราจึงรู้สึกว่ายังไม่สามารถให้คำวิจารณ์เนื้อเรื่องได้ เพราะยังไม่สามารถกล่าวถึงภาพรวมได้นั่นเอง สำหรับความเห็นเต็มๆ ของทีมงาน รวมไปถึงคะแนนรีวิวเกม สามารถรอติดตามได้ในบทความรีวิวตัวเต็มวันที่ 12 มิถุนายนนี้พร้อมสื่อทั่วโลก แต่ระหว่างรอ เราไปดูกันดีกว่าว่าทีมงานที่เล่นเกมไปแล้ว มีความเห็นคร่าวๆ อย่างไรบ้างต่อเกมเพลย์ของ The Last of Us Part II การสำรวจ แม้ว่าเกม The Last of Us Part II (อย่างน้อยเท่าที่ผู้เขียนเล่นมา) จะตั้งอยู่ในเมือง Seattle เป็นหลัก แต่ภายในเมืองก็มีส่วนที่สภาพแวดล้อมต่างกันมากมาย เฉพาะในช่วงเวลาสองชั่วโมงนิดๆ ที่เล่นภารกิจ "Finding Nora" ก็มีสภาพแวดล้อมให้สำรวจหลายชนิดแล้ว ทั้งโรงพยาบาลร้าง ป่ารกชื้น และท่อระบายน้ำใต้ดิน ทำให้การเดินทางในเมือง Seattle มีความหลากหลายทางภูมิทัศน์มากกว่าที่หลายคนอาจจะคาดไว้ตอนแรก และทำให้โลกของเกมมีสีสันมากกว่าแค่การอยู่ในเมืองอย่างเดียว ผู้พัฒนาเองก็ดูจะอยากให้ผู้เล่นได้มีโอกาสสำรวจความสวยงามของทิวทัศน์ต่างๆ มากขึ้นด้วย ทำให้ในแต่ละบทหรือตอนยาวๆ ของเกม มักจะมีพื้นที่กว้างให้ผู้เล่นได้สำรวจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหตุการณ์เนื้อเรื่องต่อไป คนที่เคยเล่นเกมภาคแรกมาก่อนจะรู้ว่าการสำรวจเพื่อตามหาวัตถุดิบ เพื่อใช้สร้างอุปกรณ์ทั้งหลายนั้นสำคัญแค่ไหน และพื้นที่เหล่านี้ก็มักจะมีวัตถุดิบต่างๆ ให้เก็บมากมาย แถมบางครั้งยังมีของอัพเกรดหรืออาวุธให้เก็บ หรือกระทั่งมีเนื้อเรื่องเสริมให้ค้นพบ ซึ่งแม้ว่าเกมจะยังดำเนินไปเป็นเส้นตรง แต่การมี "อะไรให้ค้นพบ" ก็ช่วยให้โลกของเกมรู้สึกมีมิติมากขึ้น และทำให้ผู้เล่นมีเหตุผลในการเล่นเกมซ้ำเพื่อหาเนื้อเรื่องเสริมหรือเส้นทางใหม่ๆ ในการเดินทางไปยังจุดหมาย การสำรวจในเกม The Last of Us Part II น่าจะเป็นส่วนที่ได้รับอานิสงส์จากความชำนาญในเรื่องของการสร้าง "บรรยากาศ" หรือ Mood & Tone ของผู้พัฒนา Naughty Dog มากที่สุดแล้ว ซึ่งก็ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงความรู้สึกของการเป็นผู้รอดชีวิตในโลกอันโหดร้ายของเกม ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองสามารถมีชีวิตต่อไปให้ได้ ด้วยการสำรวจตึกร้างเพื่อคุ้ยเขี่ยเศษขยะจากอารยธรรมที่ล่มสลายเพื่อมาสร้างอุปกรณ์และอาวุธ แม้ว่าจะไม่มีทางรู้เลยว่าหลังประตูที่อยู่ตรงหน้า จะมีกลุ่มผู้ติดเชื้อผู้หิวโหยรออยู่หรือไม่ (เล่นเกมนี้สะดุ้งบ่อยกว่าตอนเล่น Resident Evil 2: Remake อีก...) การลอบเร้น คนที่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกมาก่อน น่าจะสามารถทำความเคยชินกับการเล่นเกม Part II ได้แทบจะทันที เพราะคล้ายกันอยู่ซัก 80% เลยทีเดียว แม้ว่าในคราวนี้เราจะเปลี่ยนจากการควบคุมลุง Joel มาเป็นสาวน้อยร่างบางอย่าง Ellie ก็ตาม แต่ 20% ที่ต่างกันนี่แหละ ที่ทำให้การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II พัฒนาขึ้นจากภาคแรก จากความสามารถหลายๆ อย่างที่เพิ่มมาของ Ellie นอกจากความสามารถต่างๆ ที่ Joel มีในภาคแรกอย่าง "โหมดการฟัง" ที่ทำให้มองเห็นศัตรูทะลุกำแพงได้ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดสำหรับ Ellie คงหนีไม่พ้นความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นจากร่างกายอันผอมบางของเธอ ซึ่งทำให้เธอสามารถหมอบคลานลงไปกับพื้นเพื่อหลบใต้สิ่งของ และความสามารถในการกระโดด ที่ทำให้เธอสามารถใช้ประโยชน์จากความต่างระดับของฉากได้ดีขึ้น ทำให้เธอมีทางเลือกมากขึ้นในการรับมือสถานการณ์ต่างๆ นั่นเอง ในบางฉากผู้เล่นอาจจะสามารถใช้วิธีหมอบคลานเพื่อพรางตัวในพงหญ้า ในขณะที่บางฉากอาจจะมีน้ำลึกให้ผู้เล่นดำหลบศัตรู (Ellie ว่ายน้ำเป็นแล้ว!) ซึ่งความอิสระในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นของตัวละคร ยังทำให้ผู้พัฒนาสามารถออกแบบฉากต่างๆ ในมีมิติสูง-ต่ำมากขึ้น ทำให้ฉากดูมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้นด้วย แต่ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นของ Ellie ก็มาพร้อมกับความฉลาดและจำนวนที่มากขึ้นของศัตรู ทั้งที่เป็นมนุษย์และผู้ติดเชื้อเช่นกัน สำหรับศัตรูที่เป็นมนุษย์ อย่างที่ผู้พัฒนาเคยเปิดเผยไปนั้น ศัตรูมนุษย์ในเกม The Last of Us Part II ทุกคนจะมีชื่อของตัวเอง และศัตรูคนอื่นๆ จะใช้ชื่อนี้ในการสื่อสารกับเพื่อนๆ ของพวกมันด้วย ซึ่งส่งผลต่อเกมเพลย์โดยตรง เพราะนั่นหมายความว่าศัตรูทุกตัวจะรู้ได้ทันทีเมื่อมีเพื่อนในทีมหายไป และรู้ด้วยว่าเพื่อนสำรวจอยู่ตรงไหนเพราะส่งสัญญาณบอกกันก่อนแล้ว โดยศัตรูจะกรูกันเข้าไปตรงนั้นทันทีเพื่อตามหาตัว Ellie ให้พบ ทำให้เราจำเป็นต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ศัตรูเจอตัว ส่งผลให้การลอบเร้นทุกครั้งรู้สึกกดดันมากๆ เพราะไม่สามารถยืนหลบอยู่กับที่ได้เหมือนเกมลอบเร้นเกมอื่น ถ้าผู้เขียนต้องเปรียบเทียบ การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II (เมื่อเจอศัตรูมนุษย์นะ) ทำให้ผู้เขียนนึกถึงการลอบเร้นในเกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ขึ้นมาเป็นเกมแรกเลย สำหรับศัตรูผู้ติดเชื้อ แน่นอนว่าความคล่องตัวที่ว่าก็ทำให้ Ellie มีทางเลือกในการย่องผ่านเหล่าผู้ติดเชื้อมากขึ้น และยังมีมีดพกของเธอ ที่ทำให้ Ellie สามารถลอบฆ่าผู้ติดเชื้ออย่าง Clicker ได้โดยไม่ต้องสร้างมีดสั้นเหมือน Joel ในภาคแรก แต่เกมก็ปรับสมดุลตามด้วยการเพิ่มปริมาณผู้ติดเชื้อให้มากขึ้นกว่าภาคแรกมาก และทำให้ผู้ติดเชื้อทุกชนิดดุร้ายและประสาทไวขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เล่นยังจำเป็นต้องเล่นอย่างตั้งใจไม่ต่างจากศัตรูมนุษย์ นอกจากนี้ เกมยังไม่กลัวที่จะใส่ผู้ติดเชื้อตัวใหญ่ชนิดใหม่อย่าง "แชมเบลอร์" เข้าไปในฉากการต่อสู้ทีละหลายๆ ตัวพร้อมกัน ซึ่งต่างจากภาคแรก ที่สามารถพบเจอผู้ติดเชื้อตัวใหญ่ (โบลตเตอร์) ได้เพียงไม่กี่ตัวตลอดเกม จากทั้งหมดที่กล่าวไป ทำให้แม้ว่าการลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II จะมีลูกเล่นที่เปิดทางเลือกใหม่ให้ผู้เล่นมากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความ "ฉลาด" และปริมาณที่เพิ่มขึ้นของศัตรู ทำให้การลอบเร้นในเกมมีความท้าทายและน่าตื่นเต้นระทึกขวัญทุกครั้งไม่ว่าจะเจอกับศัตรูแบบไหนก็ตาม การต่อสู้ เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก การยิงปืนในเกม TLoU2 จะเล็งค่อนข้างยาก แถมกระสุนปืนยังมักจะมีจำกัดตามฉบับเกมแนว Post-Apocalypse ทำให้การต่อสู้ด้วยปืนควรเป็นทางเลือกสุดท้ายของผู้เล่นในกรณีส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะเปลืองกระสุนอันแสนล้ำค่าแล้ว ยังเปิดเผยที่อยู่ของตัวละครให้ศัตรู ทำให้เสี่ยงโดนรุมตายได้ง่ายๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียน การต่อสู้ตรงๆ มักจะทำให้เราเสียเลือดเนื้อและทรัพยากรณ์มาก ทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อโดนเจอ จึงเป็นการกำจัดศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงให้เร็วที่สุด และรีบหนีออกไปจากบริเวณนั้นเพื่อซ่อนตัว เพื่อให้สามารถกำจัดศัตรูด้วยวิธีการลอบเร้นอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นสำหรับการต่อสู้เลย โดยหลักๆ มีอยู่สองอย่างด้วยกัน คือมีดพกของ Ellie และปุ่มหลบหลีกอันเป็นผลมาจากความคล่องแคล่วของเธอนั่นเอง ในส่วนของมีดพกนั้น ทำให้ Ellie สามารถสังหารศัตรูได้เร็วกว่า Joel ในบางกรณี เช่นการโยนขวดแก้วหรืออิฐใส่ศัตรูก่อนแล้ววิ่งเข้าไปแทงเป็นต้น โดยมีดพกดูจะมีประโยชน์ชัดเจนจริงๆ ในการต่อกรกับศัตรู Clicker โดยเฉพาะ และมีหน้าที่หลักในการให้เหตุผลว่าทำไม Ellie จึงสามารถเผชิญหน้าศัตรูทั้งหลายได้ แม้จะไม่ได้มีร่างกายใหญ่โตเหมือน Joel ในทางกลับกัน การที่ Ellie สามารบหลบการโจมตีของศัตรูได้ ทำให้เกม TLoU2 มีกลิ่นไอของเกมแอคชั่นเบาๆ โดยผู้เล่นจะสามารถกดปุ่ม L1 ในจังหวะที่พอดี เพื่อให้ Ellie โยกตัวหลบการโจมตีระยะประชิดได้ ก่อนที่จะฉวยโอกาสโจมตีเป็นคอมโบด้วยมีดพกอีกที โดยศัตรูในเกมจะสามารถกันการโจมตีของเรา และสามารถเปลี่ยนจังหวะการโจมตีเพื่อหลอกให้เราหลบผิดจังหวะได้ด้วย ทำให้การต่อสู้ให้ความรู้สึกของการกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด ทั้งของ Ellie และของศัตรู ซึ่งก็ย้อนกลับไปเสริม "บรรยากาศ" ของเกมอีกทีเช่นกัน เอาเข้าจริง สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบเกี่ยวกับการต่อสู้ในเกม คือการได้เห็นสีหน้าของ Ellie และศัตรูระหว่างต่อสู้ ซึ่งจะเปลี่ยนไปจริงๆ ตามสถานการณ์ และสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้การต่อสู้รู้สึกมีน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่บิดเบี้ยวไปด้วยความเกลียดชังของ Ellie ขณะที่เหวี่ยงขวานเข้าก้านคอของศัตรู ไปจนถึงสีหน้าตกใจของศัตรู ที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากความเจ็บปวดและความกลัว ไปสู่ความว่างเปล่า กราฟฟิคและการนำเสนอ คำว่า Immersive (พจนานุกรมไทยแปลว่า น่าดื่มด่ำ) เป็นคำที่ใช้กันบ่อยในวงการเกมทุกวันนี้ เพื่อกล่าวถึงความสามารถของเกมในการสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างเกมกับผู้เล่น ผ่านระบบการเล่นหรือองค์ประกอบด้านการนำเสนอที่ "น่าเชื่อ" ตามกฏเกณฑ์ของโลกนั้นๆ ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังรับบทเป็นตัวละครในเกม และสามารถเข้าถึงความรู้สึกและ "ตรรกะ" เบื้องหลังการกระทำของตัวละครได้ พูดภาษาบ้านๆ ก็คือความสามารถในการทำให้ผู้เล่น "อิน" ไปกับเกมนั่นแหละ ยิ่งเทคโนโลยีด้านกราฟฟิคพัฒนาให้สมจริงมากขึ้นเท่าไหร่ การสร้างความ "อิน" ที่ว่านี้ก็จะยิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วย โดยเฉพาะในเกมที่มีเนื้อเรื่องเป็นองค์ประกอบหลัก ในแง่นั้น เกม The Last of Us Part II ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่งของการสร้างความ Immersive ผ่านทุกองค์ประกอบของเกม ทั้งในแง่ของกราฟฟิค เนื้อเรื่องและเกมเพลย์ ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียว เพื่อขับอารมณ์ความรู้สึกของการใช้ชีวิตในโลกของเกมได้อย่างชัดเจน และทำให้การกระทำและการตัดสินใจทั้งหมดของตัวละครหลัก Ellie มีน้ำหนักต่อจิตใจของคนเล่นในระดับที่น้อยเกมจะทำได้ ถ้าให้เปรียบกราฟฟิคในภาพรวมกับเกมระดับเดียวกัน (ในสายตาผู้เขียน) อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือ Death Stranding นั้น TLoU2 อาจจะใกล้เคียงกับเกมทั้งสองในแง่ของความสวยของฉาก แต่จุดที่ TLoU2 ทำได้ดีกว่าทั้งสองเกมคือรายละเอียดในด้านพื้นผิว (Texture) บนสิ่งของและใบหน้าของตัวละคร ที่ให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งกว่าเกมที่กล่าวมาอย่างมาก ส่งผลให้ตัวละครสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกออกมาได้อย่างละเอียดอ่อนกว่าที่กล่าวมา แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คุณภาพเรื่องหน้าตาตัวละครจะไม่ได้เท่ากันไปหมด (ตัวละครประกอบหลายตัวมีพื้นผิวหยาบกว่าอย่างเห็นได้ชัด) แต่สำหรับตัวละครหลักอย่าง Ellie แล้ว เรียกว่าแทบจะเห็นชัดไปถึงระดับ micro-expression (การแสดงออกทางสีหน้าในระดับจิตใต้สำนึกที่มักทำไปโดยไม่รู้ตัว เช่นการกัดปาก การหางตากระตุก หรือการเลิ่กตาไปมาเวลาโกหก) ทำให้ตัวละครสามารถแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าหรือภาษากายได้ราวกับหนัง นอกจากนี้ รายละเอียดทั้งหมดในเกมยังร่วมกันสร้าง "บรรยากาศ" อันหนักอึ้ง ที่ให้ความรู้สึกตึงเครียดราวกับเล่นเกม Survival Horror อยู่ตลอดเวลา ที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือเกมสามารถคงบรรยากาศที่ว่านี้ ให้อยู่กับผู้เล่นได้ทุกวินาทีของการเล่น จากการที่เกมมักจะส่งศัตรูทั้งเหล่าผู้ติดเชื้อและที่เป็นมนุษย์มาใส่ผู้เล่นในจังหวะที่ไม่คาดคิดบ่อยๆ ซึ่งทำให้การเล่นเกมไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้กระทั้งในช่วงเวลาเงียบๆ ที่เหมือนว่าจะไม่มีศัตรูอยู่ สำหรับผู้เขียน นี่ถือเป็นความสำเร็จของผู้พัฒนา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ถึงความอันตรายของโลกในเกมได้ไม่ต่างจากเหล่าตัวละครที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนั้นซะเองเลย ภาษาไทย อย่างที่รู้กันว่าเกม The Last of Us Part II จะสนับสนุนบทบรรยายและเมนูภาษาไทยด้วย ซึ่งจากท่่ได้ลองเล่นมา ผู้เขียนพูดได้เต็มปากว่านี่น่าจะเป็นเกมที่แปลภาษาไทยได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย แม้ว่าสุดท้ายจะยังมีการแปลผิด และมีอารมณ์ของคำพูดที่อาจจะตกหล่นไปบ้าง จากการที่คำแปลไม่มีคำหยาบ แม้ตัวละครจะพูดคำหยาบในภาษาอังกฤษเป็นต้น แต่โดยรวมๆ ก็ถือว่าสื่อความหมายของเกมได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือคำแปลไทยไม่ได้ครอบคลุมแค่เนื้อเรื่องหลัก แต่ยังรวมถึงตัวหนังสือในฉาก (เช่นป้ายชื่อร้านค้า) หรือกระทั่งจดหมายโน้ตทั้งหมดที่หาได้ในเกม ผู้เล่นที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษน่าจะสามารถเข้าถึงองค์ประกอบด้านเนื้อเรื่องทั้งหมดในเกมได้ไม่ยาก ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้เล่นชาวไทยมากๆ สรุป ในแง่ของเกมเพลย์ The Last of Us Part II เป็นตัวอย่างของเกมที่สามารถใช้ประโยชน์จากความเป็นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเล่าเรื่องราวและสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านระบบของเกม รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และการตกแต่งฉาก ที่ล้วนพาผู้เล่นเข้าไปอยู่ในโลกอันแสนอันตรายของเกมในฐานะ Ellie และทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนของตัวละครได้ ซึ่งก็ต้องถือว่าผู้พัฒนาประสบความสำเร็จมากๆ ในจุดนี้ แม้ว่าเกมจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ผู้เขียนรู้สึกว่าแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า The Last of Us Part II เป็นเกมที่สร้างมาได้อย่างลึกซึ้ง บนคอนเซปต์ที่มัดรวมองค์ประกอบทั้งหมดของเกมให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน อาจจะฟังดูเว่อร์ แต่อย่างที่คุณผู้กำกับ Neil Druckmann เคยกล่าวเอาไว้ "ไม่ว่าคุณจะรู้อะไรมา มันเทียบไม่ได้เลยกับการได้นั่งเล่นเกมกับมือจริงๆ" รออ่านความเห็นเต็มๆ เกี่ยวกับเกม รวมไปถึงบทวิจารณ์เนื้อเรื่องในรีวิวตัวเต็ม วันที่ 12 มิถุนายนนี้จ้า! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
01 Jun 2020
ชมเกมเพลย์ใหม่จาก The Last of Us Part II กว่า 20 นาที!
ตามที่ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ทำการแสดงเกมเพลย์ใหม่จาก The Last of Us Part II ออกมาแล้วในรายการ State of Play รอบพิเศษ ที่ออกอากาศไปเมื่อคืนนี้ (เช้าตรู่?) เวลาตี 3 ประเทศไทย ภายในรายการจะประกอบไปด้วยการบรรยายของผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ที่อธิบายถึงองค์ประกอบต่างๆ ของเกม ตั้งแต่ที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง ไปจนถึงระบบเกมเพลย์ใหม่ๆ ที่ผู้เล่นจะได้พบในเกม นอกจากนี้ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของรายการ ยังมีการเปิดเผยคลิปเกมเพลย์ใหม่ความยาวกว่า 10 นาที ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนอีกด้วย สำหรับข้อมูลที่เปิดเผยในรายการ ส่วนมากเป็นข้อมูลที่เคยเปิดเผยออกมาแล้ว สามารถสรุปออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้: เนื้อเรื่องของเกมจะเกิดขึ้น 4 ปีหลังจากตอนจบของภาคแรก และผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Ellie วัย 19 ปี Ellie ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบในเมือง Jackson, Wyoming มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ความสงบนั้นก็พังทลายลง เมื่อทั้ง Ellie และ Jackson ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ โศกนาฏกรรมดังกล่าว ทำให้ Ellie ออกเดินทางเพื่อชำระแค้นต่อกลุ่มคนที่โจมตีเธอและ Jackson เนื้อเรื่องของเกมส่วนใหญ่ๆ จะเกิดขึ้นในซากปรักหักพังของเมือง Seattle เมือง Seattle จะมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ไปจนถึงย่านที่อยู่อาศัยชานเมืองที่ปกคลุมไปด้วยป่า และย่านริมทะเลที่มีสภาพอากาศแปรปรวน Ellie จะมีความคล่องแคล่วมากขึ้น ผู้เล่นจะสามารถกระโดดและปีนป่ายสิ่งของได้ และยังสามารถใช้เชือกที่หาได้ตามสภาพแวดล้อมเพื่อปีนหรือโหนตัวไปยังสถานที่ใหม่ๆ ได้ เกมจะมีอุปกรณ์และเนื้อเรื่องเสริมให้ค้นหาด้วย Ellie จะสามารถขี่ม้าเพื่อเดินทางข้ามระยะทางไกลๆ ได้ บางพื้นที่จะถูกน้ำท่วมหนัก และจะต้องใช้เรือในการสัญจรแทน เมือง Seattle ของเกมจะเป็นสนามรบระหว่างศัตรูสองฝ่าย คือพวก W.L.F. (Washington Liberation Front) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของกองทัพในช่วงหลังการระบาดใหม่ๆ และอีกพวกคือ Seraphite (หรือ Scars) กลุ่มคลั่งไคล้ศาสนาลึกลับที่กำจัดทุกคนที่เข้ามาในเขตของพวกเขา กลุ่ม W.L.F. จะมีอาวุธหนักที่ยึดมาจากกองทัพ พร้อมกับใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อตามตัว Ellie ได้ ในขณะที่พวก Seraphite มักจะต่อสู้แบบกองโจร ด้วยการใช้ธรรมชาติเพื่อพรางตัว และใช้อาวุธไร้เสียงอย่างธนูเป็นหลัก พวกผู้ติดเชื้อในเกมจะมีจำนวนมากขึ้น และจะดุดันมากกว่าในภาคก่อน ภายในรายการ State of Play ได้พูดถึงผู้ติดเชื้อชนิดใหม่ "Shambler" ผู้ติดเชื้อร่างอ้วนอืดที่สามารถปล่อยควันกรดออกมาโจมตีศัตรูรอบตัว โดยผู้พัฒนายังแย้มว่าเกมจะมีผู้ติดเชื้อชนิดใหม่อีกมากมายที่ยังไม่เปิดเผย ผู้เล่นสามารถลงไปหมอบกับพื้นได้ และสามารถใช้หญ้าสูงเพื่อหลบซ่อนจากสายตาศัตรูได้ด้วย แต่ถ้าศัตรูเข้าใกล้เกินไปก็จะถูกเห็นได้อยู่ดี ในการต่อสู้ Ellie จะสามารถโยกตัวหลบการโจมตีระยะใกล้ได้ ซึ่งจะต้องกดหลบให้ถูกจังหวะ เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก Ellie สามารถใช้สิ่งของอย่างขวดแก้วหรือก้อนอิฐเพื่อปาใส่ศัตรูได้ โดยศัตรูที่ถูกปาใส่จะมึนงงไปชั่วขณะ ทำให้เราสามารถวิ่งเข้าไปปลิดชีพในระยะประชิด หรือจับศัตรูมาเป็นโล่ห์กำบังได้ Ellie จะมีตัวละครเพื่อนร่วมทางที่คอยช่วยเหลือเธอในการต่อสู้ได้ ในบางครั้ง เกมจะให้เราสู้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์และผู้ติดเชื้อพร้อมกัน ซึ่งเราสามารถทำให้ทั้งสองฝั่งต่อสู้กันเองได้ด้วย ผู้เล่นจะต้องตามหาตำราอัพเกรดในฉาก เพื่อปลดล๊อคสายการพัฒนาตัวละคร ผู้เล่นสามารถปรับแต่งความสามารถของอาวุธได้ทุกชิ้น โดยการปรับแต่งจะส่งผลต่อหน้าตาอาวุธด้วย ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่เราวสามารถสรุปได้จากไลฟ์สตรีม State of Play รอบนี้จ้า ใครสังเกติเห็นอะไรที่เราไม่เห็น อย่าลืมคอมเม้นมาบอกกันด้วยนะ แล้วรออ่านรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราได้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น โดยเกมจะมี PS4 Pro Limited Edition Bundle ลายพิเศษของตัวเองด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
28 May 2020
The Last of Us Part II เตรียมโชว์เกมเพลย์ใหม่ใน State of Play พุธนี้!
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่าย The Last of Us Part II แต่ก่อนจะไปถึงวันวางจำหน่ายเกม ดูเหมือนว่าวันพรุ่งนี้จะมีการไลฟ์สตรีมใน State of Play เพื่อโชว์เกมเพลย์ก่อนครับ ซึ่งการไลฟ์สตรีมครั้งนี้จะมีความยาวประมาณ 20 นาที และออกอากาศเวลา 3.00 AM ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2020 ตามเวลาบ้านเรา! ข่าวดังกล่าวถูกประกาศออกมาผ่านทาง PlayStation Blog เองเลยนอกจากนี้ ยังมีการบอกอีกด้วยว่า ภายในไลฟ์สตรีมครั้งนี้จะมีเกมเพลย์ใหม่กว่า 8 นาที ซึ่งไม่เคยโชว์ที่ไหนมาก่อนด้วย น่าเสียดายที่มีดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวเกี่ยวกับ PS5 ถูกอัปเดตด้วย เพราะใน State of Play ครั้งนี้จะเป็นการพูดถึง The Last of Us Part II เท่านั้นครับ The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: PlayStationBlog สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
26 May 2020
ผู้เล่นจะได้รับเงิน Refund ของเกม The Last of Us Part II เร็วๆ นี้!
นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าหนึ่งในเกมที่หลายคนกำลังรอคอยอยู่อย่าง The Last of Us Part II ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ตอนนี้ตัวเกมยังไม่มีวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการใหม่เลย และเพื่อเป็นการทำให้เหล่าผู้เล่นที่ทำการ Pre-Order ตัวเกมไปรู้สึกสบายใจมากที่สุด ทาง Sony เลยทำการคืนเงินดังกล่าวให้ครับ! การ Refund เกม The Last of Us Part II นั้น ทาง Sony จะทำการดำเนินเรื่องให้ทั้งหมด คนที่ทำการ Pre-Order ไปแล้วจะได้รับเงินคืน พร้อมกับ Email ที่แจ้งให้ทราบว่าผู้เล่นได้รับเงินจากอะไร ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะตอนนี้ตัวเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ไม่รู้ว่าจะได้เล่นเกมดังกล่าวเมื่อไหร่ การได้รับเงินคืนก่อนในตอนนี้จึงดูเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากครับ The Last of Us Part 2 ยังไม่มีวันวางจำหน่ายใหม่อย่างเป็นทางการในตอนนี้ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
07 Apr 2020
The Last of Us Part II เป็นเกมที่จะมีเนื้อหา Nudity และ Sexual Content ด้วย!
The Last of Us Part II กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2020 ที่จะถึงนี้ ภาคแรกของตัวเกมนั้นได้รับคะแนนรีวิวที่ดีมาก ๆ ด้วยเซ็ตติ้งของเกมที่อยู่ในยุค Post Apocalypse ทำให้ตัวเกมมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่ตัวเกมจะมี M/17+ Rating แต่เหมือนว่าภาคต่อของตัวเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายนี้ จะมีเนื้อหา M/17+ Rating ที่เป็น Nudity และ Sexual Content ด้วยครับ! หน้าเว็บไซต์ PlayStation ล่าสุดได้มีการขึ้นว่าตัวเกมจะมีเนื้อหาแบบ M/17+ Rating รวมถึงมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Nudity และ Sexual Content ด้วย ซึ่งจาก Trailer ตัวแรกของตัวเกมที่ถูกปล่อยออกมานั้น ก็พอจะทำให้คาดเดาได้อยู่แล้วว่า ตัวเกมน่าจะมีเนื้อหาอย่างว่า เพียงแค่วันนี้เราได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้นครับ! The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit : DualShockers ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
03 Feb 2020
5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020
แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโลโกของเครื่อง PlayStation 5 เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมทั้งกำหนดการว่าจะวางจำหน่ายในปลายปี 2020 แต่เครื่อง PlayStation 4 ยังคงสามารถเล่นเกมไปได้อีกหลายปี รวมถึงมีเกมต่าง ๆ ทยอยลงให้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเฉพาะเกม Exclsuive ที่ไม่สามารถหาเล่นได้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ วันนี้พวกเรา Gamefever จึงขอนำเสนอ 5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020 1. Last of Us Part II Last of Us ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ จากทีมงาน Naughty Dog ที่เน้นการเล่าเรื่องที่ถึงอารมณ์และการเล่าเรื่องที่เข้มข้นถึงใจ พร้อมทั้งกวาดรางวัลไปมากกว่า 200 รายการ ทำให้เกม Last of Us Part II กลายเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนจับตามอง ตัวเกมยังคงนำเสนอในแนวทางของภาคแรกแต่ได้มีการยกระดับทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่ดิบกว่าเดิม ความโหดร้ายของโลกในเกมและกราฟิกที่ดึงเอาศักยภาพของเครื่อง PlayStation 4 มาอย่างเต็มความสามารถทำให้เกมนี้แฟน ๆ ของ Sony พลาดไม่ได้วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้ลางานรอได้เลย 2.Final Fantasy 7 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความฮือฮาอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ปัจจุบันผ่านไป 5 ปีก็ถึงคราวที่เกมนี้จะได้ส่งมาถึงมือของแฟน ๆ เสียที เกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ได้มีการปรับปรุงระบบเกมการเล่นใหม่ ที่เป็นการผสมระหว่างความเป็น Action และ Turn Base ที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กราฟิกในเกมยังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหากอยากเล่นในปีนี้ต้องซื้อบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น สำหรับเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 3.Ghost of Tsushima แม้ว่าทีมงาน Sucker Punch Productions ยังไม่ยืนยันวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ แต่ว่าปีนี้มาแน่นอนสำหรับเกม Ghost of Tsushima ที่เล่าเรื่องราวฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นในช่วงการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - Adventurer - Stealth ที่จะให้เราสวมบทเป็น Jin Sakai ซามูไรคนสุดท้ายในเกาะ Tsushima ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการต่อต้านกับกองทัพมองโกลด้วยวิธีการแบบ Ghost 4.Predator: Hunting Grounds Predator: Hunting Grounds ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมแนว Co-op PvP ที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่อง PlayStation 4 โดยตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายมนุษย์ที่จะต้องร่วมมือกันในการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและฝ่ายของ Predator ที่ต้องสังหารมนุษย์ไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้อารมณ์ของเกมนี้จะคล้ายกับ Dead by Daylight ฉบับ Predator ซึ่งหากคุณชอบเกมแนวดังกล่าวเกมนี้ถือว่าตอบโจทย์ ตัวเกมจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่างแน่นอน 5.Nioh 2 ปิดท้ายกันด้วยเกมยากระดับปาจอยทิ้งที่สาวก PlayStation 4 ควรหามาเล่นกับเกม Nioh 2 ที่ได้นำเอาตำนานและเรื่องราวลึกลับของประเทศญี่ปุ่นมาทำใหม่ในรูปแบบของ Dark Fantasy ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับภาคใหม่ตัวเกมได้มีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ตัวละครไปจนถึงแนวทางที่เล่น โดยเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม จะเห็นได้ว่าในปีนี้เกม Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ยังคงน่าเล่นเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของทีมงานต่าง ๆ ที่สามารถทำเกมยอดเยี่ยมมากมายลงในเครื่อง Console ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีได้อย่างลื่นไหล ขอให้เกมเมอร์ทุกท่านมีความสุขในการเล่นเกมครับผม
08 Jan 2020
10 เกม PC/Console น่าเล่นประจำปี 2020
อีกไม่กี่เราก็จะเดินทางเข้าสู่ปี 2020 อย่างเป็นทางการแล้ว เรียกได้ว่าวันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าปีนี้เรามีเกมต่าง ๆ ให้เล่นกันอย่างมากมายแล้ว แต่ปี 2020 มีเกมให้เราเล่นมากกว่าปีนี้อีก ที่มีแต่เกมดี ๆ มากมายรอให้เราได้ลิ้มลอง วันนี้พวกเรา Gamefever จะขอแนะนำ 10 เกมน่าเล่นประจำปี 2020 มาแนะนำเพื่อน ๆ กัน 1.Dragon Ball Z: Kakarot  –  17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  เริ่มต้นปีใหม่สาวก Dragon Ball ก็ได้เฮกับก่อนใครเพื่อนเลยกับเกม Dragon Ball Z: Kakarot  เกมแนว Action - RPG ที่จะให้เราสวมบทเป็น Guku ในการทำภารกิจต่าง ๆ รวมถึงปกป้องโลกของเราจากเหล่าร้าย โดยเนื้อเรื่องจะอิงตามการ์ตูน Dragon Ball:Z อย่างเต็มตัว ตัวเกมยังมาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงาม ระบบการเล่นที่เร้าใจและยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย ใครที่เป็นสาวกการ์ตูนเรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง 2.Marvel’s Iron Man VR  – 28 กุมภาพันธ์ 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 (VR) Marvels ยังคงรุกตลาดเกม Console อย่างต่อเนื่อง ในรอบนี้มากับเกม Marvel’s Iron Man VR ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น โดยได้ทีมงาน Camouflaj มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมพัฒนาเกม เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นเนื้อเรื่องที่แยกออกจากจักรวาลหลัก ที่ได้กล่าวถึงการที่ stark industries ได้ทำการปิดส่วนของการผลิตอาวุธไปหลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างและ Tony Stark จะต้องออกมาแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็น Iron Man ในการปกป้องเมือง ต่อกรกับเหล่าร้าย ทำภารกิจต่าง ๆ ผ่านแว่น VR และ PlayStation Move ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าเล่นมาก ๆ สำหรับคนที่มี PlayStation VR 3.Final Fantasy 7 Remake  – 3 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation หนึ่งในเกมที่ทำให้หุ้นของ Sony และ Square Enix  พุ่งขึ้นทันทีที่ตัวอย่างของเกมได้ออกมาและสร้างเสียงฮือฮาทั่วโลกกับเกม Final Fantasy 7 Remake หลังจากผ่านไปเกือบ ๆ 5 ปี ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวกลับมาจาก 20 ปีที่แล้วได้อย่างสมศักดิ์ศรี ตัวเกมมาในรูปแบบของ Action - RPG ที่จัดเต็มในทุก ๆ ด้านพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามตามสไตล์ของ Square Enix และอื่น ๆ อีกมากมายจนอยากให้รอถึงวันวางจำหน่ายไม่ไหวแล้ว อ่านรีวิวเมื่อลองเล่นเกมเวอร์ชัน Demo ได้ที่นี่ 4. Watch Dogs Legion - 3 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  Watch Dogs กลับมาอีกครั้งในพร้อมกับแนวใหม่ ๆ ของซีรีส์ในเกม Watch Dogs Legion โดยตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวของกรุง London ประเทศอังกฤษที่ประชาชนถูกกดขี่และสอดแนมโดยรัฐเฝ้าระวัง กองกำลังติดอาวุธคุมพื้นที่ไปทั่วท้องถนนทำให้คุณต้องลุกขึ้นมาต่อต้านผู้มีอำนาจและรวบรวมพันธมิตรขึ้นมา โดยตัวเกมในภาคนี้ได้มีการพัฒนาระบบอะไรหลาย ๆ อย่างที่ดีขึ้น ทั้งเกมการเล่น กราฟิกและอื่น ๆ อีกมากมายถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเกมน่าเล่นของทาง Ubisoft เลยทีเดียว 5.Nioh 2  – 13 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 ซามูไรญี่ปุ่นกับความยากที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องยอมเลิกเล่นกับ Nioh 2 ที่ในภาคนี้ตัวเกมได้มีการปรับปรุงระบบการเล่นต่าง ๆ มากมายทั้งการปรับแต่งตัวละครที่สามารถได้อิสระได้มากกว่าเดิม อาวุธที่มากกว่าเดิมและกราฟิกในเกมที่ดีกว่าเดิม ใครที่ชอบเกมแนว Darksoul ก็ไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยเช่นกัน 6.Animal Crossing Switch New Horizons  – 20 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม Nintendo Switch หนึ่งในเกมสุดน่ารักของปี 2020 ที่แฟน ๆ ของ Nintendo น่าจะรู้จักกันดีกับซีรีส์ Animal Crossing ที่ในภาคใหม่จะให้เราเดินทางไปยังเกาะ Tom Nook และร่วมมือกับเหล่าเพื่อน ๆ สัตว์น่ารักพันธุ์ต่าง ๆ ในการพัฒนาเกาะนี้ให้น่าอยู่ เป็นเกมที่แฟน ๆ Nintendo ยังไงก็ต้องซื้อติดเครื่องอยู่แล้ว 7.Doom Eternal  –  20 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  Doom Guy กลับมาอีกล่าเหล่าปีศาจอีกครั้งกับเกม Doom Eternal ที่คราวนี้เขาขนอาวุธและลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมาถล่มกับเหล่าปีศาจมากกว่าเดิม โหดกว่าเดิมและเพลง Metal ที่จะทำให้คุณได้ปลดปล่อยมาอารมณ์ในการต่อกรกับเหล่าปีศาจอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ตัวเกมในภาคนี้ยังได้พัฒนาระบบต่าง ๆ มากขึ้น อย่างการที่เกมของเราอาจจะถูกบุกโดยผู้เล่นอื่นเป็นต้น ใครที่หาเกมมัน ๆ เกมนี้ห้ามพลาด 8.Cyberpunk 2077 – 16 เมษายน  2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  กลายเป็นเกมขายดีทั้ง ๆ ที่เหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะได้เล่นกับเกม Cyberpunk 2077 เกมใหม่ล่าสุดจากทางทีมงาน CD Projeck Red ที่ได้ฝากผลงานสุดเทพในเกม The Witcher 3 โดยตัวเกมจะเป็นเกมแนว FPS-RPG ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนและตัวละครที่น่าติดตาม นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย สงกรานต์ปีนี้อาจจะได้เห็นเกมเมอร์ไทยอยู่บ้านมากกว่าเล่นเกมก็เป็นได้ 9.Marvels Avengers –  15 พฤษภาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  เดือนพฤษภาคม 2020 ถือว่าเป็นเดือนแห่งความสุขของแฟน ๆ Marvel เพราะต้นเดือนภาพยนตร์ Black Widow ฉายกลางเดือนมีเกม Marvels Avengers ให้เล่น โดยตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องแยกออกจากจักรวาลหลักที่จะเล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์ A-Day ที่เหล่า Avengers ต้องรับมือกับความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับเหล่าร้ายที่พร้อมจะโจมตีพวกเขาเสมอ ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - RPG ที่มีกราฟิกที่สวยงามและระบบการเล่นที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าน่าเล่นสุด ๆ ไปเลยสำหรับเกมนี้ 10.The Last of Us Part II  – 29 พฤษภาคม  2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 สุดยอดเกมบนเครื่อง PlayStation ที่สาวก Sony และเกมเมอร์ทั่วโลกรอคอยหลังจากที่ตัวเกมภาคแรกได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงาน Masterpiece ไปแล้วกับเกม The Last of Us part II  ที่เราจะได้รับบทเป็น Ellie ในเวอร์ชันที่โตขึ้นพร้อมกับสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า ตัวเกมยังคงนำเสนอในรูปแบบ Third Person ที่มีกราฟิกที่สวยงามและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นจนระดับที่ว่าห้ามผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 เล่นเกมนี้เลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าปี 2020 ยังไม่พ้นครึ่งปีก็มีเกมเทพ ๆ รอให้เราได้เล่นกันอย่างมากมายแล้ว อีกทั้ง 10 เกมนี้ยังเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของเกมที่มีอยู่ในปีหน้า หากเพื่อน ๆ มีเกมไหนแนะนำก็บอกกันมาได้เลย
04 Dec 2019
ข่าวลือ: Ghost of Tsushima จ่อติดโรคเลื่อนตามหลัง The Last of Us 2
กลายเป็นเรื่องหวานขมไปซะแล้วสำหรับแฟนๆ ชาวไทยของเกม PlayStation Exclusive ในตำนานอย่าง The Last of Us Part 2 ที่แม้จะได้รับข่าวดีไปเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเกมจะสนับสนุนเมนูและบทบรรยายภาษาไทย แต่ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายพอๆ กันเมื่อผู้พัฒนา Naughty Dog ออกมายืนยันแล้วว่าเกม The Last of Us Part 2 จะถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ไปเป็นช่วงกลางปีแทน ล่าสุด ดูเหมือนว่า The Last of Us Part 2 อาจจะไม่ใช่เกม Exclusive เกมเดียวของ PlayStation ที่โดนเลื่อน เมื่อนักข่าวชื่อดังจากเว็บ Kotaku คุณ Jason Schreier ผู้ขึ้นชื่อเรื่องข่าววงใน ได้ออกมาเปิดเผยว่าผลงานเกมแอคชั่นจากค่าย Sucker Punch อย่าง Ghost of Tsushima  อาจจะต้องโดนเลื่อนออกไปเช่นเดียวกัน หลังจากที่มีแผนจะวางจำหน่ายเกมในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 BTW, Ghost of Tsushima doesnt have a public release date yet, but itll also be bumped later into 2020 to account for this delay. Dont expect them to suddenly turn it into a PS5 game or anything, but it was originally planned for the first half of the year - not anymore — Jason Schreier (@jasonschreier) October 24, 2019 โดยข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมาผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของคุณ Jason ที่ระบุว่าแม้ว่า Ghost of Tsushima จะยังไม่เคยประกาศช่วงเวลาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ผู้พัฒนาและ Sony เองก็มีวันวางจำหน่ายอยู่ในใจแล้วว่าจะเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2020 แน่นอน แต่แผนการนี้ต้องถูกเลื่อนออกไปเพราะการเลื่อนวันวางจำหน่ายของ The Last of Us Part 2 นั่นเอง ทั้งนี้ คุณ Jason กล่าวว่าการเลื่อนครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเกมทั้งสอง (Ghost of Tsushima และ The Last of Us Part 2) จะถูกดันให้กลายเป็นเกม PS5 แทน แต่แฟนๆ อาจจะต้องรอกันนานกว่าที่คาดคิดเอาไว้ก่อนที่จะได้สัมผัสเกม Exclusive ทั้งสองนี้ แหล่งข่าว: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Oct 2019
แฟนๆ Last of Us Part 2 เศร้าใจ เมื่อผู้พัฒนาประกาศว่าเกมจะไม่มีโหมด Multiplayer สุดฮิต!
แม้ว่าอาจจะไม่ใช่องค์ประกอบหลักที่คนส่วนใหญ่คาดหวังจากเกม The Last of Us Part 2 แต่โหมด Multiplayer ของเกม ที่ใช้ชื่อว่า Factions ในภาคแรกก็ถือเป็นโหมดที่มีผู้เล่นชื่นชอบค่อนข้างเยอะ ถึงขนาดที่ยังมีคนแวะเวียนเข้าไปกดอยู่จวบจนวันนี้ หลายปีหลังจากที่เกมวางจำหน่ายในเวอร์ชั่น Remastered ด้วยประการนี้เอง ทำให้แฟนๆ หลายคนต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อผู้พัฒนา Naughty Dog ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนของเว็บ USGamer ว่า The Last of Us Part 2 จะไม่มีโหมด Factions ให้เล่นกัน An update regarding multiplayer: pic.twitter.com/CUd98LgJGC — Naughty Dog (@Naughty_Dog) September 27, 2019 ผู้พัฒนาได้ให้เหตุผลเอาไว้ในโพสต์ทางทวิตเตอร์ว่าทีมต้องตัดสินใจนำโหมด Factions ออกไปจากเกมภาค 2 เพราะข้อปรับปรุงทั้งหมดที่ทีมงานตั้งใจจะเพิ่มเข้าไปในโหมดนั้นทำให้ Factions มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะสามารถรวมมาเป็นเกมเดียวกับ The Last of Us Part 2 ได้ เพราะตัวเกมตั้งต้นก็ใหญ่มากพออยู่แล้ว ถึงขนาดที่ผู้พัฒนาออกมายอมรับว่าเกม TLOU2 ถือเป็นเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดที่ค่ายเคยสร้างเลยทีเดียว ทั้งนี้ ผู้พัฒนาได้ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างมีความหวังว่าให้แฟนๆ รอติดตามโหมด Factions ที่ปรับปรุงใหม่ได้ในอนาคต แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเกมจะมาในรูปแบบไหน ซึ่งอาจจะสรุปได้ว่าโหมดจะกลายเป็น DLC เสริมสำหรับเกมตัวต้นที่ปล่อยให้โหลดกันทีหลัง เป็นเกมแยกกันไปเลยอีกเกม หรือกระทั่งอาจจะกลับมาอีกทีใน The Last of Us Part 3 เลยก็เป็นไปได้ อย่างน้อยๆ ผู้เล่นที่ตั้งหน้าตั้งตารอโหมด Factions ของเกมก็ยังอาจจะพอมีความหวังว่าโหมดจะกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งซักวัน คงต้องรอดูท่าทีของผู้พัฒนาในอนาคตว่าจะนำโหมดยอดนิยมกลับมาให้ผู้เล่นได้สนุกกันทางไหนกันแน่! The Last of Us Part 2 จะวางจำหน่ายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020 สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ ที่มา: USGamer ติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่:
27 Sep 2019
The Last of Us Part II รายละเอียดทั้งหมด (PlayStation 4)
Title: The Last of Us Part II Genre: Action Adventure , Survival Horror Platform: PlayStation 4 Release Date: 21 กุมภาพันธ์ 2020 Developer: Naughty Dog Director: Neil Druckmann, Anthony Newman, Kurt Margenau Designer: Emilia Schatz, Richard Cambier Writer: Neil Druckmann, Halley Gross Composer: Gustavo Santaolalla https://www.youtube.com/watch?v=btmN-bWwv0A https://www.youtube.com/watch?v=II5UsqP2JAk ประวัติการพัฒนา [caption id="attachment_29842" align="aligncenter" width="800"] รูปภาพจากเว็บไซต์ Kotaku[/caption] The Last of Us Part 2 เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 หลังจากที่ได้ปล่อยเกม The Last of Us เวอร์ชัน Remaster นำโดย Neil Druckmann ที่เป็นทั้งคนเขียนบทและผู้กำกับของเกมนี้ เดิมทีตัวเกมวางแผนว่าจะทำโหมด Multiplayer แต่ด้วย  Scale ของเกมที่ใหญ่มาก ทำให้ทีมงานตัดสินใจนำโหมดนี้ออกจากเกมและเน้นไปยังการสร้างโหมด Single Player ให้ออกมาดีที่สุด ตัวเกมเปิดตัวครั้งแรกในงาน PlayStation Experience ปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการถ่ายทำ Motion Capture ในปี 2017 และเปิดตัวอย่าง Gameplay ในงาน E3 ปี 2018 ก่อนที่จะประกาศวันวางจำหน่ายในงาน State of Play เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยฤกษ์วันวางจำหน่ายของเกมคือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020 เนื้อเรื่อง The Last of Us Part 2 จะเป็นเนื้อเรื่องหลังจากภาคแรก 5 ปีและหลังจากเหตุการณ์ Outbreak เป็นเวลา 25 ปี เราจะได้รับบทเป็น Ellie ในวัย 19 ปีที่อาศัยอบู่ในชุมชนแห่งหนึ่งนามว่า Jackson County รัฐไวโอมิงร่วมกับ Dina, Tommy , Jessie และ Joel แต่แล้วชีวิตที่แสนสงบสุขของเธอก็จบลงอย่างรวดเร็วหลังจากการเจอกับลัทธิที่ชื่อ Seraphites ที่ได้ทำร้ายชีวิตของเธอรวมถึงผู้คนรอบตัวเธอ ทำให้เธอต้องออกไปตามล่าลัทธินี้และสังหารให้หมดสิ้น พร้อมกับต่อสู้กับความโหดร้ายและความรุนแรงของโลกใบนี้ ระบบการเล่น The Last of Us Part 2 ยังคงระบบการเล่นคล้าย ๆ กับภาคแรกแต่ได้มีการพัฒนาให้มีความฮาร์ดคอมากขึ้น โดยในภาคนี้เราจะเน้นการลอบเร้นมากกว่าการปะทะโดยตรง เนื่องจากตัวละครของเราบางมากอีกทั้งยังไม่สามารถฟื้นฟูเลือดได้ในขณะที่บาดเจ็บและพลังชีวิตจะลดลงเรื่อย ๆ  ซึ่งจะต้องทำแผลเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะอัปเกรดทักษะของตัวละคร รวมถึงปรับแต่งอาวุธได้อีกด้วย ในส่วนของ AI ในเกมทางทีมงาน Naughty Dog ได้มีการปรับปรุงระบบนี้ให้ดีขึ้น โดย AI ของศัตรูดีขึ้น เช่น AI เพื่อนร่วมทีมของเราจะมีประโยชน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการต่อสู้กับศัตรู ในส่วนของ AI ศัตรูนั้นทางทีมงานก็ได้พัฒนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายมนุษย์ที่จะมีการประสานกันมากขึ้นเช่น หากเรายิงลูกธนูใส่ศัตรูแล้วไม่ตาย เขาจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากนั้น AI ศัตรูจะเริ่มราดตระเวนรวมถึงเกรี้ยวกราดมากขึ้นอีกด้วย การวางจำหน่าย The Last of Us part II จะวางจำหน่ายอยู่ 5 แพ็คเกจดังนี้ The Last of Us Part 2 standard Edition ประมาณ 1,838.10 บาท The Last of Us Part 2 Digital Deluxe Edition ประมาณ 2,144.52 บาท The Last of Us 2 Part 2 Special Edition 2,450.96 บาท The Last of Us Part 2 Collectors Edition 5,206.68 บาท The Last of Us Part 2 Ellie Edition 7,046.51 บาท น่าเสียดายที่ในตอนนี้ (27/09/2019) ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยประกาศเปิด Pre- Order แพ็ตเก็ตเหล่านี้ แต่เกมเมอร์ก็สามารถที่จะ Pre- Order ตัวเกมแบบ Digital ผ่าน PlayStation Store ได้แล้วที่นี่ โดยทุกแพ็คเกจหากซื้อแบบ Pre - Order จะได้รับไอเทมพิเศษในเกมคือ ammo capacity upgrade และ crafting training manual ในวันที่เกมเปิดให้เล่น นอกจากนี้หาก Pre - Order ผ่าน PlayStation Store จะได้รับ Avatar รูปรอยสักของ Ellie อีกด้วย เรียกได้ว่าน่าเล่นมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้หลังจากที่รอมา 7 ปี สำหรับเกมเมอร์ท่านไหนที่สนใจเกม The Last of Us Part II สามารถเล่นได้ผ่านแพลตฟอร์ม PlayStation 4 เท่านั้นในฐานะของเกม Exclusive และแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่จะลงแพลตฟอร์มอื่น
27 Sep 2019
The Last of Us Part II คือเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Naughty Dog
จากการสัมภาษณ์กับ Troy Baker ผู้ให้เสียง Joel จาก The Last of Us Part II เขาได้กล่าวเกี่ยวกับตัวเกมด้วยความตื่นเต้นว่า “สิ่งเดียวที่ผมบอกได้คือ The Last of Us Part II เป็นเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Naughty Dog ที่เคยทำมา มันมาไกลและยิ่งใหญ่กว่าที่ผมคิดว่ามันจะเป็นไปได้เสียอีก” นอกเหนือจากเรื่องนี้ ได้มีคำถามเกี่ยวกับการที่นักแสดงผู้รับบท Ellie, Ashley Johnson ได้เปรยเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายตัวเกมว่าเป็นเดือนกุมภาพันธ์ เขาตอบว่า “Naughty Dog ฉลาดพอที่จะไม่บอกพวกเราเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายตัวเกม เพราะพวกเราไม่สามารถเลื่อนวันวางจำหน่ายหรือทำอะไรบ้าๆได้ อย่างครั้งที่แล้วที่เราประกาศวันวางจำหน่าย เราก็ต้องเลื่อนและไม่อยากเลื่อนอีกรอบ” “ทุกคนล้วนรู้สึกว่าตัวเกมมันไม่สมบูรณ์ และเมื่อเราต้องออกวางจำหน่ายก็จะรู้สึกว่า พวกเรากำลังวางจำหน่ายเกมที่มันไม่เสร็จสมบูรณ์ นั่นแหละ ความบกพร่องในการทำเกมล่ะ” The Last of Us Part II ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย และวางขายบน PS4 เท่านั้น อ้างอิง: playstationlifestyle
30 Jul 2019
อดีตนักเขียนเว็บดังยืนยัน! The Last of Us Part 2 จะวางจำหน่ายปีนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแง่ของเกมสำหรับเกมคอนโซลนั้น โซนี่ยังคงได้เปรียบคู่แข่งหลักอย่าง Microsoft อยู่มากพอสมควร ด้วยเกม Exclusive ฟอร์มใหญ่ๆ ที่จ่อวางจำหน่ายอยู่อีกหลายเกม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ค่อยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเกมเหล่านี้เลยว่าจะออกมาให้ได้เล่นกันเมื่อไหร่ โดยเฉพาะเกม The Last of Us Part 2 ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายออกมาให้ลุ้นเลยซักนิด จนหลายคนพากันคิดว่าเกมอาจจะไม่ได้วางจำหน่ายในปี 2019 เผลอๆ อาจจะไปวางจำหน่ายบน PS5 เลยด้วยซ้ำ ล่าสุด ดูเหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้ต้องรอกันนานขนาดนั้นก็ได้ เมื่ออดีตนักเขียนเว็บข่าวเกมชื่อดัง IGN คุณ Alanah Pearce ได้ออกมายืนยันต่อแฟนๆ ในทวิตเตอร์ว่าเธอได้รับแจ้งจากแหล่งข่าววงในหลายคนว่าเกมจะวางจำหน่ายในปี 2019 แล้ว (ข้อความทั้งหมดถูกลบไปแล้ว) สำหรับข้อความด้านบนนั้นเป็นคำตอบที่คุณ Alanah ตอบแฟนๆ ที่ถามเธอว่า The Last of Us Part 2 ได้รับการยืนยันวันวางจำหน่ายในปี 2019 หรือยัง โดยคุณ Alanah ตอบอย่างมั่นใจว่า ยืนยันแล้ว 100% คุณ Alanah ได้ออกมายอมรับว่าเธออาจจะเผลอเปิดเผยข้อมูลลับออกไปซะแล้วในทวิตต่อมา โดยบอกว่าเธอมักจะสับสนระหว่างข้อมูลที่ยืนยันต่อสาธารณะแล้ว และข้อมูลวงในที่แหล่งข่าวในวงการแอบบอกอย่างลับๆ ทั้งนี้ คุณ Alanah ได้ออกมาบอกให้แฟนๆ อย่าเพิ่งคาดหวังสูงจนเกินไปนัก เพราะการตัดสินใจเรื่องวันวางจำหน่ายเกมเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจนกว่าจะมีการประกาศจากผู้พัฒนาเอง แม้ว่าเธอจะได้รับข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งข่าวมากกว่าหนึ่งคนก็ตาม   ถือว่ายังคงเป็นเรื่องให้ลุ้นกันสนุกๆ อยู้ในขณะนี้ แต่ก็หวังว่าคุณ Alanah จะไม่ได้ขี้จุ๊ไปเองนะ! (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
07 Jan 2019
หลุดรายละเอียดโหมด Multiplayer เกม The Last of Us 2
แม้ว่าเกม The Last of Us จะเป็นที่รู้จักจากโหมด Campaign (เนื้อเรื่อง) อันยอดเยี่ยมของเกม แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้คาดคิดเอาไว้คือความนิยมของโหมด Multiplayer (สู้กันเอง) ของเกม ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังคงมีคนเข้าไปเล่นกันอย่างคึกคักแม้ว่าเกมจะมีอายุเกือบ 5 ปีแล้วก็ตาม ในขณะที่หลายๆ คนกำลังรอเกม The Last of Us Part 2 อยู่อย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งสิ่งที่หลายคนน่าจะสงสัยกันก็คือรายละเอียดของโหมด Multiplayer ของเกม ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่เคยถูกกล่าวถึงโดยผู้พัฒนาเลย จนถึงบัดนี้ เมื่อมีคนเข้าไปพบกับรายละเอียดของโหมดในใบรับสมัครผู้พัฒนาตำแหน่ง Multiplayer Server Programmer (โปรแกรมเมอร์เซิฟเวอร์มัลติเพลย์เยอร์) ของค่าย ที่เปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับโหมดเป็นครั้งแรก สำหรับประเด็นหลักๆ ที่สามารถสรุปได้จากคำประกาศดังกล่าวคือโหมด Multiplayer ของเกม The Last of Us Part 2 จะให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งหน้าตาของตัวละครตัวเองได้ และจะมีร้านค้า Online Store ในเกมที่ขายของตกแต่งเหล่านี้อีกด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าร้านค้าดังกล่าวจะต้องใช้เงินจริงซื้อ หรือสามารถใช้เงินในเกมได้ด้วย The Last of Us Part 2 ยังไม่มีข้อมูลวันวางจำหน่ายแต่อย่างใด ยังมีแนวโน้มว่าจะวางจำหน่ายปีหน้า (2020) ด้วยซ้ำ คงต้องรอดูกันไปอีกยาวๆ ว่าโหมด Multiplayer ของเกมภาคใหม่จะยังคงตรึงใจผู้เล่นเป็นปีๆ ได้เหมือนภาคแรกหรือไม่! (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
07 Jan 2019
ผู้รับบท Ellie ใน The Last of US Part II กล่าว !! ถึงงานหนักแต่หัวใจเต็มร้อย
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางผู้พัฒนาได้ปล่อยภาพการถ่ายทำคัดซีนเกม The Last of US Part II ออกมาพร้อมคำอธิบายประกอบว่านี่มันเป็นฉากที่ซับซ้อนและกระฉากชากใจมากที่สุด ดูข่าวคลิ๊ก และล่าสุดทางนักแสดงที่รับบทเป็นสาวน้อย Ellie อย่างคุณ Ashley Johnson ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อฉากนี้ด้วยว่า การทำงานนี่มันหนักมาก แต่หัวใจเธอเต็มร้อย "การทำสิ่งต่างๆ ในสัปดาห์ เราถ่ายทำกันหนักมาก มีอะไรหนักหนาไปหมด ร่างกายฉันเหนื่อยมากแต่ทุกๆ ท่านหัวใจฉันเนี่ยเต็มร้อยเลย งานเสร็จแล้วได้เวลาเปิดใช้งานโหมดวันหยุด รักนะทุกๆ ท่าน" What a week. We shot some heavy, heavy stuff. My body’s tired, but man oh man, my heart is full. Work is done and vacation mode is activated. Happy Holidays. Love you, fam. ? by @grosstastic. https://t.co/OlAscmoIM0 — Ashley Johnson (@TheVulcanSalute) 22 ธันวาคม 2561 ซึ่งเกม The Last of US Part II ตอนนี้ยังไม่ได้มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่แน่นอนว่าจะลงในปี 2019 นี้ ซึ่งตัวเกมภาคแรกได้รับคำชมเป็นอย่างมากในเรื่องเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยม และเกมเพลย์ที่ไร้ที่ติ โดยตัวเกมลงให้กับเฉพาะเครื่อง PS4 ที่มา 
27 Dec 2018
ปาดน้ำตา !! The Last of Us 2 จะไม่เข้าร่วมโชว์ในงาน The Game Awards
น้ำตาไหลพรากกันอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ทาง CD Projekt Red ได้ประกาศออกมาว่าตัวเกม Cyberpunk 2077 จะไม่ไปเปิดตัวในงาน The Game Awards 2018 แน่นอน และล่าสุดทาง Naughty Dog เองก็ได้ออกมาประกาศเช่นกันว่าเกม The Last of Us 2 นั้นก็จะไม่ได้เข้าร่วมในงานเหมือนกัน ยืนยันจากทาง Twttier ของผู้พัฒนา "เรากำลังตั้งตาดูการเฉลิมฉลองกับปีที่มีแต่เกมเจ๋งๆ ออกมาใน The Game Awards วันพฤหัสบดีนี้ (ในไทยวันศุกร์เช้า) แต่อย่างไรก็ตามพวกเราเองไม่มีอะไรใหม่มาแชร์เกี่ยวกับเกม The Last of US 2 ในงานนี้ โดยเราทำงานอย่างหนักและรอคอยที่จะเปิดเผยเกมมากขึ้นเมื่อถึงเวลา" We’re looking forward to celebrating a year of incredible games at #TheGameAwards this Thursday, however, we won’t have anything new to share from The Last of Us Part II. We’re hard at work and looking forward to revealing more when the time is right! pic.twitter.com/6iP1AA8ncT — Naughty Dog (@Naughty_Dog) 4 ธันวาคม 2561 โดยตัวเกม The Last of US 2 เป็นเกมแนว Action Adventure ที่ลงเฉพาะเครื่อง PS4 โดยเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นสองตัวละครอย่าง Joel และ Ellie ที่จะเป็นเรื่องราว 5 ปีหลังจากภาคแรก ตัวเกมได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากๆ ในเรื่องของเนื้อเรื่องที่ดีงาม และเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ได้รับคะแนนรีวิว 10/10 จากสื่อหลายๆ สำนัก ที่มา Gamingbolt
05 Dec 2018
รวมข้อมูลใหม่เกม The Last of Us 2 จากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา!
เมื่อเร็วๆ นี้เว็บข่าว Games Radar ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้พัฒนา Naughty Dog ผู้สร้างเกม The Last of Us 2 นั่นเอง โดยเว็บได้ตีพิมพ์ข้อมูลใหม่ๆ จากปากผู้พัฒนามากมาย ทั้งเกี่ยวกับตัวเอกภาคใหม่อย่าง Ellie และการกลับมาของตาลุง Joel จากภาคแรกด้วย! Ellie ไม่ต้องการให้คนรู้ว่าเธอมีภูมิต้านทานเชื่อซอมบี้ สำหรับข้อมูลชิ้นแรกนั้น ผู้เล่นบางคนอาจจะสังเกติเห็นรอยสักบนแขนของ Ellie ที่เพิ่มมาใหม่ในภาคนี้ โดยคุณ Kurt Margenau หนึ่งในผู้กำกับเกมเผยว่า Ellie ได้ตัดสินใจสักรอยดังกล่าวเพื่อกลบร่องรอยการถูกกัดจากภาคแรก เพราะเธอต้องการจะปกปิดความจริงเกี่ยวกับภูมิต้านทานเชื้อซอมบี้ในตัวเธอ ส่วนเหตุผลที่ Ellie ต้องปกปิดนั้น คุณ Kurt ไม่ได้อธิบาย แต่ทางผู้เขียนจาก Games Radar วิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้เหล่า Fireflies จากภาคแรกค้นหาตัวเธอและ Joel เจอ จึงต้องปกปิดความลับไม่ให้เผยแพร่ออกไป Ellie จะมีความโหดเหี้ยมมากขึ้น และมีความสร้างสรรค์ในวิธีฆ่าคนมากขึ้น จากที่เห็นวีรกรรมอันโชกเลือดของเธอมาแล้วในเทรลเลอร์ของเกม Ellie ในเกม The Last of Us 2 จะมีความโหดเหี้ยมกว่าเก่ามาก แถมยังจะมีลูกเล่นใหม่ๆ เอาไว้จัดการกับเหล่าซอมบี้และผู้รอดชีวิตไม่ประสงค์ดีอีกด้วย โดยผู้กำกับเกมอีกคนคุณ Anthony Newman กล่าวว่า Ellie ในเกมนี้คือคนที่คุณไม่อยากแหยมด้วยแน่นอน เธอเก่งกาจมาก แถมยังเรียนรู้ลูกเล่นใหม่ๆ มากมายตลอดระยะเวลาหลายปี แถม Ellie เองก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่ได้เป็นนักสู้แบบเดียวกับ Joel เธอจึงต้องเรียนรู้ที่จะใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอดมากกว่า Joel จะกลับมา และจะมีบทบาทใหญ่ในเกมอีกครั้ง หนึ่งในคำถามแรกๆ ที่น่าจะคาใจแฟนเกมภาคก่อนคือ แล้ว Joel ไปไหน โดยผู้พัฒนาทั้งสองเผยว่า Joel จะกลับมาในเกมภาคใหม่แน่นอน แต่จะกลับมาแบบไหนยังไม่เปิดเผย ถ้าสังเกติจากสื่อการตลาดที่เราปล่อยออกไป บางคนอาจจะสังเกติว่าเรากำลังพยายามปูเนื้อเรื่องคู่ขนานกันอยู่ ทีมงานของเรามีความซีเรียสกับการเปิดเผยข้อมูลเนื้อเรื่องเกมมากๆ เราคุยกันตลอดเวลาว่าจะปล่อยข้อมูลอะไรเมื่อไหร่บ้าง และข้อมูลทุกชิ้นที่เราเปิดเผยออกมาก็ผ่านการวางแผนมาแล้วมากมาย เพราะเราต้องการจะสร้างประสบการณ์บางอย่างให้ผู้เล่นที่รอเกมของเราอยู่ ส่วนคำถามที่ว่าแล้วตกลงลุง Joel อยู่ไหน อาจจะต้องรอติดตามกันต่อไป คำถามทั้งหมดที่คุณเคยมีในใจจากภาคแรกจะถูกตอบอย่างละเอียดในภาคใหม่แน่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Ellie และ Joel ก็ยังคงเป็นแกนสำคัญของเกมอยู่เหมือนเดิม คำพูดเกี่ยวกับ เนื้อเรื่องคู่ขนาน อาจจะหมายความว่าเราจะได้เล่นเป็น Joel ในเนื้อเรื่องอีกเส้นที่เล่าพร้อมกันก็ได้ แต่ในอีกแง่หนึ่งการที่ Joel จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะยังไม่ตายเช่นกัน Ellie กับ Joel มีเรื่องบาดหมางกันบางอย่างตอนเริ่มเกม แม้ว่าลุง Joel จะยังอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้เดินทางร่วมกับลุงซะแล้ว เมื่อผู้พัฒนาทั้งสองเปิดเผยว่าเกมจะเริ่มขึ้นในจุดที่ความสัมพันธ์ระหว่าง Ellie และ Joel กำลังถึงจุดต่ำสุด ผลลัพธ์จากการกระทำของ Joel ในภาคแรกจะถูกสำรวจอย่างละเอียดในเกมนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราเรียกเกมนี้ว่าเป็น Part 2 มากกว่าเป็นภาคแยกกันไปเลย เพราะเราไม่ได้มองว่านี่เป็นภาคต่อ แต่เป็นการเล่าเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกโดยตรงเลย โดยเราจะได้เห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างไรจากเหตุการณ์ในภาคแรก เราจะได้สำรวจสิ่งที่ Ellie ได้รับจาก Joel สิ่งที่ Ellie ปฏิเสธในตัว Joel และผลกระทบของความสัมพันธ์นั้นต่อความสัมพันธ์อื่นๆ ในชีวิตของ Ellie ด้วย การลอบเร้นในเกมเปลี่ยนไปจากภาคแรกมาก เพราะ Ellie เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ต่างจากร่างกายกำยำของลุง Joel ในภาคแรก ทำให้ Ellie สามารถรับความเสียหายได้น้อยกว่า Joel เยอะ เพื่อช่วยเสริมการลอบเร้นของเกม ผู้พัฒนาจึงได้ใส่ระบบการลอบเร้นที่สมจริงขึ้น โดยผู้เล่นจะสามารถใช้หญ้าสูงหรือพุ่มไม้ในการพรางตัวได้ และความหนาของพุ่มไม้หรือหญ้าก็จะทำให้ศัตรูมองเห็นเรายาก-ง่ายอย่างสมจริงด้วย เช่นการหลบซ่อนในพุ่มไม้หนาก็ย่อมให้ผลดีกว่าการซ่อนในกอหญ้าใบเรียวๆ แน่นอน ศัตรูจะฉลาดและอันตรายมากขึ้นเยอะ เป็นเรื่องตลกขบขันให้ล้อกันมาเนิ่นนานกับ AI ศัตรูในเกมภาคแรก ที่ค่อนข้างมีความเฟอะฟะสูงจนบางทีก็ทำให้เกิดสถานการณ์ตลกๆ ขึ้นมาได้บ่อยๆ แต่ผู้พัฒนายืนยันว่าศัตรูในภาคนี้จะร้ายกาจกว่าเดิมมาก ผู้พัฒนาได้เพิ่มชนิดของศัตรูเข้าไปมากมาย แถมยังมีสถานะผิดปกติต่างๆ อย่างในเทรลเลอร์เกมเพลย์ที่ Ellie โดนลูกธนูปักคาอยู่ในแขน โดยผู้พัฒนาเผยว่าการมีธนูปักตัวจะทำให้เราไม่สามารถตั้งสมาธิใช้ Listen Mode ได้ และจะทำให้การยิงปืนยากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ศัตรูในเกมนี้จะสามารถสื่อสารกันได้อย่างสมจริง ศัตรูจะรู้ตำแหน่งของเราก็ต่อเมื่อมีศัตรูตัวอื่นตะโกนบอกเท่านั้น แถมศัตรูยังจะมีภาษาลับไว้ส่งสัญญาณกันด้วย ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม โดย AI ของศัตรูจะได้รับการปรับปรุงเพื่อตามความสามารถที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นด้วย การต่อสู้กับศัตรูผู้ติดเชื้อจะเปลี่ยนไปเช่นกัน แม้ว่าผู้พัฒนาจะไม่ได้เผยรายละเอียดตรงจุดนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีศัตรูผู้ติดเชื้อชนิดใหม่มากขึ้น แถม AI ของศัตรูก็น่าจะได้รับการปรับปรุงไม่ต่างจาก AI มนุษย์ แค่คิดก็หลอนแล้ว! ยาต้านทานเชื้อซอมบี้จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องเกมอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถามเกี่ยวกับยาแก้เชื้อซอมบี้ในภาคแรก ผู้กำกับทั้งสองได้แต่นั่งเงียบและยิ้มให้กันเบาๆ ก่อนจะตอบว่า คุณคงต้องไปถาม Neil (Druckmann ผู้กำกับใหญ่ของเกม) เอาเองแล้วล่ะ ซึ่งทำให้น่าคิดว่ายาแก้เชื้อจะต้องมีความสพคัญต่อเนื้อเรื่องแน่นอน มากถึงขนาดที่ทำให้ผู้กำกับทั้งสองใบ้กินกันไปเลย! เกม The Last of Us Part 2 ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย
20 Nov 2018
เผยเบื้องหลังหมาป่าในภาพฉลอง Outbreak Day เกม The Last of US 2
เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ค่ายพัฒนา Naughty Dog ได้ทำการฉลองวัน Outbreak Day หรือก็คือวันที่เชื้อราซอมบี้ในเกม The Last of Us เริ่มแพร่กระจายครั้งแรกตามเนื้อเรื่องของเกม โดยนอกจากจะมีการลดราคาเกม The Last of Us และ DLC ทั้งหมดแล้ว ทางค่ายยังได้เผยภาพ Artwork ใหม่จากเกม ซึ่งเป็นภาพวาดชายวัยกลางคนที่น่าจะเป็นลุง Joel กำลังเล่นกีต้าร์อยู่ในป่าโดยที่มีหมาป่าปริศนาอยู่ข้างๆ แฟนๆ ในอินเตอร์เน็ตก็พากันคาดเดาไปมากมายว่าหมาป่าตัวนี้พยายามจะสื่อถึงอะไร โดยหลายคนเชื่อว่าอาจจะหมายถึง Ellie หรือเปล่า อิงจากวีดีโอเกมเพลย์งาน E3 2018 ที่เหล่าศัตรูพากันเรียก Ellie ว่า Wolf หรือหมาป่านั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=btmN-bWwv0A อีกกระแสหนึ่งที่มีความเป็นไปได้คือเจ้าหมาป่าตัวนี้อาจจะเป็นเพื่อนร่วมทางในเกมหรือเปล่า เพราะผู้กำกับเกมอย่างคุณ Neil Druckmann ก็เคยปล่อยภาพที่แสดงให้เห็นหมาดำตัวใหญ่ในชุด Motion Capture ออกมาเช่นกัน เผลอๆ นี่อาจจะเป็นวีดีโอเกมแรกๆ ที่ใช้การ Motion-capture สัตว์ตัวเป็นๆ ไปไว้ในเกมก็ได้นะ! #YearOfTheDog pic.twitter.com/5UpWwkDRMB — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) February 17, 2018 The Last of Us 2 ยังไม่มีกำหนดการณ์วางจำหน่ายใดๆ แต่คาดจะวางจำหน่ายสำหรับ PS4 โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
01 Oct 2018
ขิงไปเรื่อย! เมื่อ Sony บอกว่า The Last of Us คือเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ถ้าจะถามคน 10 คนว่าเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาคือเกมอะไร เชื่อว่าก็คงได้คำตอบไม่เหมือนกัน 10 คำตอบ เป็นประเด็นที่เถียงกันยังไงก็ไม่มีวันจบเลย ล่าสุด บริษัทโซนี่เองดูจะมีคำตอบในใจแล้ว โดยได้เผยคำตอบในบทความทวิตเตอร์สุดขิง: Greatest video games, ranked: 20. Honestly 19. you 18. cant 17. rank 16. them 15. because 14. each 13. is 12. amazing 11. and 10. nuanced 9. and 8. delivers 7. fun 6. and 5. challenges 4. in 3. different 2. ways 1. The Last of Us — Sony (@Sony) June 26, 2018 คงไม่มีใครเถียงว่า The Last of Us เป็นเกมที่ดีเยี่ยมมากๆ เกมหนึ่งของวงการเกมยุคปัจจุบัน แต่จะถึงขั้นเป็นเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เลยหรือ? เพื่อนๆ อ่านแล้วคิดว่าเกมที่คู่ควรกับตำแหน่งเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คือเกมอะไร คอมเมนต์เข้ามาคุยกัน!
02 Jul 2018
Naughty Dog เผย The Last of Us 2 อาจจะมีตัวละครให้เล่นมากกว่าหนึ่งตัว
แฟนเกมที่ติดตามข่าวคราวของ The Last of Us 2 น่าจะรู้กันแล้วว่าผู้เล่นจะได้รับบทเป็นน้อง Ellie เป็นหลักในเกม แต่ล่าสุด ผู้พัฒนาจาก Naughty Dog ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับเว็บ Jeuxactu ของฝรั่งเศษว่าค่ายอาจจะแสดงเกมเพลย์ของตัวละครอื่นๆ ด้วยในอนาคต! ข้อมูลในครั้งนี้ได้เปิดเผยโดยหัวหน้าฝ่ายออกแบบเกมเพลย์คุณ Emilia Schatz โดยคุณ Emilia เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในขณะนี้ค่ายไม่พร้อมจะแสดงเกมเพลย์จากตัวละครอื่นๆ แต่อาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ Ellie นั้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดถึงลุง Joel เป็นอันดับแรก เพราะลุงยังไม่เคยได้โผล่ออกมาแสดงตัวให้เห็นชัดๆ เลยจนถึงบัดนี้ แม้จะเป็นตัวละครหลักจากภาคแรกก็ตาม (แต่ผู้พัฒนายืนยันว่า Joel ยังมีตัวตนอยู่ที่ไหนซักแห่ง อ่านที่นี่) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นตัวละครหญิงปริศนาจากเทรลเลอร์ของเกมที่ปล่อยออกมาในงาน Paris Games Week ปีที่แล้ว ที่แฟนๆ หลายคนเชื่อว่าคือ Anna แม่ของ Ellie นั่นเอง (อ่านข้อมูลได้จากบทความเจาะลึก The Last of Us 2 ที่นี่) ทั้งนี้ ทางผู้เขียนบทและกำกับเกมอย่างคุณ Neil Druckmann ได้เคยออกมาพูดอย่างหนักแน่นว่า Ellie จะเป็นตัวละครตัวเดียวที่ผู้เล่นจะได้เล่น แต่ตัวคุณ Neil เองก็เคยพูดไว้ตอนเกมภาคแรกเช่นกันว่าผู้เล่นจะสามารถเล่นเป็น Joel ได้เท่านั้น แต่ในเกมจริงสุดท้ายก็มีช่วงที่ให้ได้เล่นเป็น Ellie เหมือนกัน จึงเป็นไปได้ว่าคุณ Neil อาจจะกำลังพยายามสับขาหลอกแฟนๆ อีกก็ได้ คงต้องรอดูกันต่อไปแหละ!
27 Jun 2018
ข้อมูลใหม่จากผู้พัฒนา The Last of Us 2
หลังจากที่เปิดตัวเดโมเกมเพลย์สร้างเสียงฮือฮาในงานแถลงข่าวของโซนี่เมื่อเร็วๆ นี้ ล่าสุดทางทีมงานผู้พัฒนาเกม The Last of Us 2 จากค่ายหมาซน Naughty Dog ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเนื้อเรื่องและระบบการเล่นในเกมภาคใหม่ในงานเสวนา E3 Coliseum สามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้: เกมจะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนที่ไปมาตามฉากมากขึ้น ผู้เล่นจะต้องใช้สิ่งของตามฉากเพื่อหลบซ่อนหรือเอาตัวรอดจากศัตรูมากกว่าภาคที่แล้ว (อย่างในเดโมที่เห็น Ellie คลานไปใต้ท้องรถ หรือกระโดดลอดช่องระหว่างชั้นวางของ) เกมจะเพิ่มปุ่มกระโดดเข้าไป ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในภาคแรก ระบบการหลบหลีกการโจมตีที่แสดงในเดโมจะมีความสำคัญมากๆ ในเกม A.I. ศัตรูจะฉลาดมากขึ้น สามารถสื่อสารกันเองได้อย่างละเอียดสมจริงมากขึ้น ถึงขนาดเรียกกันด้วยชื่อเลยทีเดียว! ผู้พัฒนาต้องการจะสื่อถึงความทุรนทุรายของ Ellie ในการดิ้นรนเอาตัวรอด การหลบซ่อน (Stealth) จึงมีความสำคัญมากในเกม การหลบซ่อนตามพุ่มไม้จะต้องคำนึงถึงความหนาและความสูงของพุ่มด้วย ไม่งั้นศัตรูอาจจะมองเห็นได้อยู่ดีถ้าเข้ามาใกล้เกินไป เกมจะยังคงดำเนินไปแบบเป็นเส้นตรงตายตัว (Linear Progression) แต่จะเพิ่มความกว้างเข้าไปในฉากต่างๆ เพื่อให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการรับมือกับศัตรูมากขึ้น ระบบการสร้างอุปกรณ์ (Crafting) ในเกมได้ถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยผู้เล่นจะสามารถสร้างกระสุนชนิดพิเศษได้หลายชนิด (เช่นธนูระเบิดที่แสดงในเดโม) เอาไว้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ กราฟิคของเกมได้รับการปรับปรุงอย่างมาก จากการพัฒนาของเทคโนโลยี Motion Capture ที่สามารถแสดงสีหน้าและแววตาได้สมจริงกว่าเกมอื่นๆ ของค่ายอย่าง Uncharted 4 ซะอีก ผู้พัฒนาเปรียบเทียบเนื้อเรื่องขอเกมภาคใหม่ไว้ว่าจะมีความคล้ายคลึง DLC Left Behind ของภาคแรก เหตุการณ์ในโบสถ์ในฉากจบของเดโมเกิดขึ้น 4 ปีหลังจากจบภาคแรก ในเมือง Jackson (ที่ Joel พา Ellie ไปซ่อนตอนจบเกม) Joel ยังคงมีตัวตนอยู่ที่ไหนซักแห่งใน Jackson The Last of Us 2 ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่าย แต่ถ้ามีข่าวคราวอะไรเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลเกมได้ที่เว็บ GameFever แน่นอน! ชมเดโมเกมเพลย์ได้ ที่นี่
13 Jun 2018
เจาะลึกเกม E3 2018: The Last of Us 2
วันวางจำหน่าย: ไม่มีข้อมูล Platform: PS4 เปิดตัววันแรก: 3 ธันวา 2016 (ข่าวลือมาตั้งแต่มิถุนา 2015) แนว: Third-person Action งาน E3 ของทุกปีถือเป็นอีเวนท์ที่ใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของเกมเมอร์ตัวจริงทุกคน โดยในปีนี้อาจจะน่าสนใจเป็นพิเศษเพราะมีภาคต่อของเกมระดับเทพหลายเกมพากันมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้เราได้เห็นจะๆ กันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น The Division 2 หรือ Kingdom Hearts 3 ที่จะเปิดให้ผู้เล่นทั่วไปอย่างเราๆ ได้เห็นหน้าตากันจริงๆ ในงาน แน่นอนว่าหนึ่งในเกมภาคต่อที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับขา Playstation ตัวจริงทุกคน คือเกม The Last of Us 2 ภาคต่อของเกมในตำนานจากค่าย Naughty Dog ที่หลายๆ คนยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดของเครื่อง PS3 เลยทีเดียว (ขนาดภาค PS4 ยังมีคนเล่นเต็มเลย) ก่อนหน้าจะถึงงาน E3 ที่จะจัดขึ้นภายในไม่กี่อาทิตย์นี้แล้ว ทีมงาน GameFever จึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับเกมมาไว้ในบทความนี้ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันแบบง่ายๆ ก่อนจะไปรับฟังรายละเอียดเกมเต็มๆ ในงาน E3 ประวัติซีรี่ย์ คิดว่าเกมเมอร์หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับเกม The Last of Us อยู่บ้างไม่มากก็น้อย เกมแนวแอคชั่นจากบั้นปลายของยุค PS3 ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เล่นทั่วโลกด้วยคุณภาพอันน่าทึ่ง ทั้งในเรื่องของกราฟิค เนื้อเรื่อง ไปจนถึงระบบการเล่น ที่แม้จะไม่ได้หวือหวาแต่ก็ช่วยเอื้อในการสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของเกมในระดับที่น้อยเกมจะสามารถเทียบได้ในตอนนั้น แม้ว่าเนื้อเรื่องของการเอาตัวรอดในโลกซอมบี้จะไม่ได้ใหม่อะไร แต่เกมกลับเลือกที่จะสนใจความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เล่าออกมาได้อย่างลึกซึ้งและน่าติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากนี้ เกมยังมีระบบ Multiplayer ออนไลน์ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยการนำคอนเซปของการเป็น ‘ผู้รอดชีวิต’ มาใส่ในโหมด ทำให้ผู้เล่นทุกคนมีกระสุนและทรัพยากรณ์จำกัดเหมือนกับตอนเล่นคนเดียว ทำให้ต้องระมัดระวังและใจเย็นมากกว่าเกม Multiplayer อื่นๆ ซึ่งทำให้โหมดยังคงรักษาฐานผู้เล่นไว้ได้นานมากๆ แม้กระทั่งในเวอร์ชั่น Remastered ของเกมในเครื่อง PS4 สำหรับภาคใหม่นี้ ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับเกมจริงๆ น้อยมากๆ โดยข้อมูลที่ผู้พัฒนาเคยเปิดเผยมีเพียงแค่ว่าเนื้อเรื่องของภาคใหม่นี้จะเกิดขึ้น 5 ปีหลังจากภาคแรก และจะเกี่ยวข้องกับ ‘ความเกลียดชัง’ เป็นหลัก ต่างจากภาคก่อนที่เกี่ยวกับ ‘ความรัก’ และเราจะได้รับบทเป็น Ellie เด็กสาวผู้ติดตามตัวละครผู้เล่นหรือ Joel จากภาคแรก แทนที่จะได้เล่นเป็น Joel อีกครั้ง วิเคราะห์เทรลเลอร์ เกมปล่อยเทรลเลอร์ตัวแรกช่วงปลายปี 2016 ที่งาน PSX (Playstation Experience) 2016 ความยาวประมาณ 4 นาที ซึ่งเนื้อหาในเทรลเลอร์จะเป็นการเห็น Ellie ผู้ซึ่งอายุ 19 แล้ว กำลังเล่นกีต้าร์ในบ้านที่เต็มไปด้วยศพคนตาย ซึ่งดูเหมือน Ellie จะเป็นคนฆ่าเองทั้งหมด แม้ว่าในเทรลเลอร์จะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ยังคงมีแฟนๆ มากมายที่พยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวของเกมจากเทรลเลอร์ เช่น จากฉากที่เห็นมือของ Ellie สั่นๆ อาจจะแปลว่าเชื้อซอมบี้ในร่างกายของเธอกำลังแพร่กระจายไปก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ Ellie ดูจะมีความโหดเหี้ยมมากขึ้น แถมยังมีฉากที่แสดงให้เห็นว่า Ellie อาจจะโดนผู้ติดเชื้อกัดเข้าอีกครั้งตรงคอ หลังจากที่เคยโดนกัดที่แขนในเกมภาคแรก ทางเว็บ IGN เคยวิเคราะห์เพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า การที่เทรลเลอร์ไม่แสดงหน้าของ Joel ให้เห็นเลย แถม Joel ยังดูจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับศพที่เกลื่อนอยู่รอบตัวของ Ellie อาจจะหมายความว่า Joel ในเทรลเลอร์อาจจะเป็นภาพหลอนที่ Ellie สร้างขึ้น และเหล่าศพที่นอนอยู่รอบๆ อาจจะเป็นสมาชิกกลุ่ม Firefly ที่ฆ่า Joel ก็เป็นได้เหมือนกัน ประมาณหนึ่งปีหลังจากที่ปล่อยเทรลเลอร์ตัวแรก เกมก็ได้เปิดตัวเทรลเลอร์ตัวที่สองที่งาน Paris Games Week ที่จัดขึ้นช่วงปลายปี 2017 ซึ่งเนื้อหาในเทรลเลอร์แสดงถึงตัวละครหญิงหน้าใหม่ 4 ตัวที่กำลังโดนจับมาทรมานโดยมนุษย์กลุ่มนึง โดยนักวิเคราะห์ชาวเน็ตทั้งหลายมองว่าเทรลเลอร์นี้อาจจะเป็นฉากย้อนหลังไปถึงตัวแม่ของ Ellie หรือ Anna ตัวละครที่มีการกล่าวถึงทั้งในเกมหลัก และใน DLC ต่างๆ ของเกมภาคแรก โดยทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากข้อความในทวิตเตอร์ของผู้พัฒนา Naughty Dog ที่ไม่ยอมเฉลยชื่อตัวละครตัวหนึ่ง แม้ว่าจะเฉลยชื่อของตัวละครตัวอื่นๆ ในเทรลเลอร์ไปหมดแล้ว จากภาพเห็นได้ว่าตัวละครมีชื่อที่สะกดด้วยตัวอักษรสี่ตัว (เหมื่อนชื่อ Anna) แถมตัวละครตัวนี้ยังดูเหมือนจะท้องลูกอยู่ด้วย จากที่มีตัวละครผู้หญิงตัวหัวหน้ากลุ่มมนุษย์ชี้ไปที่ท้องของเธอในตอนต้นของเทรลเลอร์ด้วย แฟนๆ ที่เล่นภาคแรกอาจจะจำได้ว่าแม่ของ Ellie คลอดเธอออกมาหลังจากที่เชื้อราซอมบี้ได้แพร่ไปทั่วแล้ว จึงคิดได้ว่าเกมอาจจะมีการเล่าย้อนไปถึงช่วงที่เชื้อเริ่มแพร่ใหม่ๆ ก่อนที่เหตุการณ์ในเกมภาคแรกจะเกิดอีกด้วย! อีกหนึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจสำหรับผมคือการที่มีตัวละครผู้หญิงที่ดูจะเป็นพวกเดียวกันอยู่ 4 คน แถมเทรลเลอร์ยังจบด้วยฉากที่ผู้หญิงทั้งสี่เตรียมรับมือกับฝูงซอมบี้ที่กำลังถาโถมเข้ามาจากทุกทิศ ผมจึงเดาไปเองว่านี่อาจจะเป็นการโชว์ถึงโหมด co-op horde mode ในเกมหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นแค่ฉากเล่าย้อนตามเนื้อเรื่องก็ได้ คงต้องรอดูในงาน E3 2018 นี้ ในงานประชุมของโซนี่ ที่จะจัดในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เวลา 8.00 น. สาระน่ารู้อื่นๆ: - เกมภาคแรกเคยได้รับการสร้างเป็นเวอร์ชั่นละครเวที ที่เขียนและกำกับโดยคุณ Neil Druckmann ผู้เขียนเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งในตอนจบของละครเป็นฉากที่ Joel มอบกีต้าร์ให้ Ellie ตามที่สัญญาเอาไว้ว่าจะสอน Ellie เล่น เป็นที่มาของกีต้าร์ในเทรลเลอร์ตัวแรก - เนื้อเรื่องเกมภาคสองได้รับการร่วมมือจากคุณ Halley Gross ผู้เขียนบทซีรี่ย์เรื่อง Westworld ของช่อง HBO ด้วย - เพลงที่ Ellie ร้องในเทรลเลอร์ชื่อว่าเพลง ‘Through the Valley’ ของศิลปิน Shawn James ซึ่งเป็นเพลงที่มียอดฟังและรีวิวดีที่สุดของศิลปินคนนี้บน Spotify หลังจากที่เทรลเลอร์เกมปล่อยออกมา อ่านบทความเจาะลึกเกมอื่นๆ ได้ที่นี่
30 May 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "The Last of Us Part II"
ข่าวลือ: โหมด Multiplayer ของเกม The Last of Us Part II อาจเปิดให้เล่นแบบ F2P?!
สำหรับแฟนๆ ของโหมด Multiplayer อันยอดเยี่ยมของเกม The Last of Us ภาคแรกหรือ 'Factions' น่าจะผิดหวังไม่น้อยที่เกม Part II ไม่ได้มีโหมดนี้ออกมาให้เล่นอีกครั้ง และแม้ว่าผู้พัฒนา Naughty Dog จะเคยยืนยันแล้วว่าโหมด Factions จะกลับมาอีกครั้งในฐานะเกมแยกของตัวเองในอนาคต แต่ก็ยังไม่เคยมีข่าวคราวความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับเกมออกมาเลยจนถึงบัดนี้ เมื่อข้อมูลจากประกาศรับสมัครงานของค่าย Naughty Dog บ่งชี้ว่าเกม Multiplayer ที่ว่านี้อาจจะเปิดให้บริการแบบ Free-to-play?!สำหรับตำแหน่งที่กำลังพูดถึงคือตำแหน่ง 'นักออกแบบระบบการเงินและเศรษฐกิจในเกม' (Senior Monetization / Economy Designer) ซึ่งมีหน้าที่ในการออกแบบโมเดลการเก็บเงินของเกม รวมไปถึงออกแบบระบบการซื้อขายภายใน 'เกม Multiplayer เต็มตัวเกมแรกของ Naughty Dog' ซึ่งแม้จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าคือเกม 'Factions' แต่เกมดังกล่าวก็เป็นเกม Multiplayer เกมเดียวที่ค่ายเคยยืนยันว่าพัฒนาอยู่ จึงเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นเกมนี้ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเกมอาจจะใช้ระบบ 'Free-to-play' (เล่นฟรี) มาจากความรับผิดชอบข้อหนึ่งในประกาศรับสมัครงาน ที่ระบุว่าผู้รับตำแหน่งจะมีหน้าที่ในการออกแบบระบบ 'Monetization' (การทำเงิน) สำหรับเกม ซึ่งจะเปิดให้ผู้เล่นสามารถซื้อไอเทมได้ด้วย 'ค่าเงินที่หาได้จากการเล่นเกม และการซื้อด้วยเงินจริง' ซึ่งฟังดูเหมือนโมเดลธุรกิจของเกม Free-to-play มากกว่าเกมราคาเต็ม นอกจากนี้ ผู้สมัครตำแหน่งดังกล่าวยังต้องมีความเข้าใจใน 'จิตวิทยาของผู้เล่น' รวมไปถึง 'เข้าใจแนวทางการเล่าเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Naughty Dog' อีกด้วยต้องยอมรับว่าแม้ PlayStation จะประสบความสำเร็จมากๆ ในส่วนของเกม Singleplayer ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่เกม Multiplayer เต็มรูปแบบของค่ายกลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักเมื่อเทียบกับเกมเล่นคนเดียวทั้งหลาย ซึ่งเกม The Last of Us Part II Multiplayer นี้จะประสบความสำเร็จได้เท่ากับภาคแรกหรือไม่ คงต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ จ้าแหล่งข่าว: Dexerto
06 Jan 2022
The Last Of Us Part II มีภาพ GIF ให้ทุกคนได้เอาไปใช้กันแล้ว !!
หนึ่งในการสื่อสารบางครั้งเชื่อว่าหลายๆ คนอยากเพียงส่งภาพบางอย่างให้อีกฝั่งรับรูปถึงความรู้สึกในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมไม่น้อยในปัจจุบัน และถือว่าเป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจ และเห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย และถ้าหากคุณชื่นชอบเกมอย่าง The Last Of Us แล้วหล่ะก็ทางผู้พัฒนาแจกภาพ GIF ให้แฟนๆ ได้ใช้แล้วหล่ะ ซึ่งภาพ GIF ดังกล่าวถูกปล่อยออกมาโดย Naughty Dog ทีมพัฒนาตัวเกม The Last Of Us มาจนถึงภาคปัจจุบันโดยคอลเลกชั่นรูปจากภาพดังกล่าวจะเป็น GIF ของ The Last Of Us Part II ที่ทางผู้พัฒนาปล่อยออกมาเพิ่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จที่หลากหลายคนต่างชื่นชอบในตัวเกม via GIPHY ตัวไฟล์ GIF มีให้ใช้กันมากมายคุณสามารถเลือกเอาภาพเหล่านั้นไปใช้ตอบคอมเม้นในโซเชียลได้ตามความต้องการ ถือเป็นของขวัญให้กับแฟนๆ ที่น่ารักไม่น้อยเลยหล่ะ Credit: Gameinformer
29 Sep 2020
รวมข่าวคราวและเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากงาน The Last of Us Day 2020
สำหรับแฟนๆ ของซีรี่ส์ The Last of Us นั้น วันที่ 26 กันยายนของทุกปีถือเป็นวันพิเศษ เพราะตรงกับวัน "The Last of Us Day" (เปลี่ยนชื่อจาก Outbreak Day ซึ่งหมายถึงวันที่ไวรัส Cordyceps เริ่มแพร่) ซึ่งเปรียบเสมือนวันที่เหล่าเกมเมอร์จะร่วมกันเฉลิมฉลองซีรี่ส์แอคชั่นชื่อดังของผู้พัฒนาค่าย Naughty Dog สำหรับงาน "The Last of Us Day 2020" ครั้งล่าสุดนี้ แม้จะยังเร็วไปที่จะคาดหวังข่าวคราวของเกมภาคต่อ แต่ก็ยังมีข่าวคราวและเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับซีรี่ส์ออกมาให้แฟนๆ ได้ตื่นเต้นกันอยู่พอสมควร โดยเราได้รวบรวมเอาข้อมูลทั้งหมดในงานมาสรุปให้แบบง่ายๆ แล้วตรงนี้ จะมีอะไรบ้าง ไปดู! ภาพปกเกมโดย Yoji Shinkawa (Kojima Productions) สำหรับเซอร์ไพรส์ชิ้นแรก เป็นผลงานภาพวาดปกเกมโดยคุณ Yoji Shinkawa ผู้ซึ่งเคยเป็น Lead Character Designer (หัวหน้าทีมออกแบบตัวละคร) ของซีรี่ส์ Metal Gear นั่นเอง! แน่นอนว่าโปสเตอร์ก็ทำออกมาในสไตล์ของปกเกม Metal Gear Solid ภาคคลาสสิค ดูแปลกใหม่สวยงามสไตล์ญี่ปุ่นมากๆ เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถโหลดภาพนี้มาใช้เป็นพื้นหลังของคอมพิวเตอร์หรือมือถือได้ตามลิงค์ด้านล่าง: PC Mobile เผชิญโลกอันโหดร้ายในรูปแบบบอร์ดเกม! สำหรับเกมเมอร์สายบอร์ดเกมทั้งหลาย ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ประกาศในงานว่ากำลังจะมี The Last of Us ฉบับเกมกระดานมาให้เล่นกันแล้ว! โดยบอร์ดเกมดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาร่วมกับบริษัทผลิตบอร์ดเกม CMON ผู้ซึ่งเคยพัฒนาบอร์ดเกม Bloodborne: The Board Game และ God of War: The Card Game มาก่อนนั่นเอง ในขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดมากไปกว่านี้ เพราะเกมยังอยู่ในกระบวนการพัฒนาขั้นต้นเท่านั้น แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอแน่นอน! รับบทสาวล่ำอย่างมั่นใจ ด้วยไกด์ Cosplay Guide ทางการจากผู้พัฒนา! เมื่อปีที่แล้ว ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ก็ได้แสดงการสนับสนุนแฟนเกมสายคอสเพลย์ด้วยการปล่อย Cosplay Guide สำหรับตัวละคร Ellie ออกมา ซึ่งแสดงให้เห็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละคร เพื่อให้สามารถใช้อ้างอิงสำหรับคนที่ต้องการแต่งตัวเป็น Ellie นั่นเอง ในปีนี้ ทางผู้พัฒนาก็ยังคงสนับสนุนวงการคอสเพลย์ตามเคย ด้วยการปล่อย Cosplay Guide สำหรับตัวละคร Abby ออกมาบ้าง (สามารถโหลดฟรีได้ ที่นี่) ให้ทุกคนสามารถคอสเพลย์เป็น Abby ได้อย่างสมจริงที่สุดไปเลยจ้า หุ่นฟิกเกอร์ Joel และ Ellie จาก The Last of Us / The Last of Us Part II เกมเมอร์สายนักสะสมห้ามพลาด กับหุ่นฟิกเกอร์ตัวละคร Joel และ Ellie งานละเอียดจากบริษัท Gaming Heads โดยจะผลิตออกมาสองชนิดหลักๆ ด้วยกันคือหุ่น Ellie (The Last of Us Part II) และหุ่น Joel & Ellie (The Last of Us) สำหรับหุ่น Ellie (The Last of Us Part II) จะวางจำหน่ายสามชุดด้วยกัน ชุดพื้นฐานจะเป็น Ellie ที่ถือมีด ในขณะที่ชุดพิเศษ Stealth Edition จะมาพร้อมกับชิ้นส่วนแขน มือ และธนูให้สามารถตกแต่งหุ่นได้ ส่วนชุดพิเศษสุด Hunter Edition จะมาพร้อมกับของแถมทั้งหมดจาก Stealth Edition แต่ตัวหุ่นฟิกเกอร์จะได้รับการทำสีสูตรพิเศษต่างจากชุดอื่นๆ ฟิกเกอร์ทั้งสามชุดผลิตจำนวนจำกัด และสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้วทางเว็บไซต์ Gaming Heads โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ชุดละ $499 (ราวๆ 15,000 บาท) นอกจากหุ่น Ellie ด้านบน ยังมีชุดหุ่นฟิกเกอร์ Joel & Ellie (The Last of Us) ขนาด 1/9 ด้วย โดยแม้จะไม่มีชิ้นส่วนให้สับเปลี่ยนได้เหมือนชุดด้านบน แต่ทั้งหุ่น Joel และ Ellie ในชุดจะมาพร้อมกับฐานวางเฉพาะตัว ที่สามารถถอดเป็นหุ่นแยกกันสองตัว หรือจะต่อกันเป็นฉากเดียวก็ได้ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ทางเว็บ Mamegyorai ในราคา $350 (ราวๆ 12,000 บาท) และจะทำการจัดส่งในช่วงเดือนมีนาคม 2021 แจกฟรี! ธีม PS4 ใหม่ล่าสุดจากเกม อีกหนึ่งของแถมสุดพิเศษจากงานก็คือธีม PS4 อันใหม่ล่าสุดจากเกม The Last of Us Part II ซึ่งเป็นฉากเรือบนชายหาดที่ผู้เล่นจะได้เห็นเมื่อเล่นเนื้อเรื่องของเกมจบนั่นเอง โดยผู้พัฒนากล่าวว่าพวกเขาอยากให้ธีมนี้เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจให้กับผู้เล่น ให้พวกเขาหวนคิดถึงการเดินทางของ Ellie และข้อคิดมากมายที่ได้รับระหว่างทาง โดยผู้เล่นทุกคนสามารถเข้าไปโหลดธีมนี้ได้ฟรีๆ ทางร้านค้า PS Store สัมผัสจุดเริ่มต้นของการเดินทาง: ลดราคาเกม The Last of Us Remastered / DLC Left Behind เพื่อให้เกมเมอร์ที่อาจจะยังไม่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกได้มีโอกาสสัมผัสซีรี่ส์เกมในตำนานนี้ ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ประกาศลดราคาเกม The Last of Us Remastered รวมไปถึง DLC Left Behind ทางร้านค้า PS Store แล้ว โดยจะได้ลดราคาลงถึง 50% ตลอดระยะเวลาโปรโมชั่น นอกจากนี้ ผู้ที่สนใจของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จากเกม สามารถพบกับสินค้าจาก The Last of Us ในราคาพิเศษได้ทางร้านค้าออนไลน์ PlayStation Gear Store ประกวดแชะภาพเกม The Last of Us Part II ลุ้นรับของรางวัลแบบ Limited Edition ไม่ต้องบอกก็น่าจะเห็นๆ กันอยู่แล้วว่าเกม The Last of Us Part II มีกราฟิกสวยงามมาก ทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนสามารถแชะภาพอันสวยงามด้วย Photo Mode ของเกมเต็มไปหมด สำหรับคนที่มีภาพสวยๆ จากเกม The Last of Us Part II อยู่ สามารถเข้าร่วมงานประกวด The Last of Us Part II Photo Mode Contest* ซึ่งให้ทุกคนอัพโหลดภาพถ่ายจากเกมเข้าไปที่เว็บ NaughtyDog.com/ugc โดยผู้พัฒนาจะทำการเลือกภาพในดวงใจสัปดาห์ละ 1 ภาพตลอดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเจ้าของภาพที่ได้รับเลือกจะได้รับของรางวัลสุดพิเศษสองชิ้น คือจอย The Last of Us Part II Limited Edition DualShock 4 และหุ่นฟิกเกอร์ Ellie ชุดพื้นฐานจาก Gaming Heads ด้วย *เปิดให้เฉพาะผู้ที่อยู่ในประเทษ USA และแคนาดาเท่านั้น ผู้กำกับแย้ม อาจมีของใหม่มาโชว์เร็วๆ นี้! แม้จะไม่ใช่สิ่งที่ประกาศในงานซะทีเดียว แต่ก็เป็นข้อมูลน่าตื่นเต้นที่เปิดเผยออกมาหลังงานจบ เมื่อผู้กำกับ Neil Druckmann ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เพื่อขอบคุณเหล่าแฟนๆ ที่สนับสนุนเกมมาตลอด ก่อนจะทิ้งคำใบ้เล็กๆ เอาไว้ถึง "อีกเรื่องหนึ่ง" ที่เขารับประกันว่าคุ้มค่าการรอคอยแน่นอน! Thank you to all the wonderful fans for an incredible #TheLastofUsDay ! Your positivity and love is incredibly inspiring. Oh... and about that other thing... be patient. It’ll be worth it. ❤️ — Dr. Uckmann (@Neil_Druckmann) September 27, 2020 ทั้งนี้ คงได้แต่เดากันไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งที่คุณ Neil บอกให้อดใจรอคืออะไรกันแน่ อาจจะเป็นเกม The Last of Us Part II เวอร์ชั่น PS5 หรืออาจจะเป็นส่วนเสริม Multiplayer ที่เคยบอกว่าจะออกตามมาทีหลังก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือแฟนซีรี่ส์ The Last of Us ยังมีอะไรให้รอติดตามกันในอนาคตอันใกล้แน่นอน! Credit: IGN
28 Sep 2020
ว่าด้วยเรื่องของ เกม และ การเมือง : มิติใหม่ หรือเชื้อไฟที่ไม่ควรยุ่ง?
เมื่อหลายพันปีมาแล้ว ปราชญ์ชาวกรีกอย่าง อริสโตเติล ได้กล่าวถึงธรรมชาติของมนุษย์เอาไว้ข้อหนึ่งว่า ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ อันหมายถึง มนุษย์จะพัฒนาความเป็นมนุษย์ได้ ก็ต่อเมื่อรวมตัวกันเป็นสังคม เป็นเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการพัฒนาธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ นั่นทำให้กฎระเบียบ ความคิด และความเชื่อ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำกับควบคุม และคำว่า ‘การเมือง’ ของอริสโตเติล จึงไม่ใช่แค่ระบอบใดระบอบหนึ่ง แต่ครอบคลุมถึงการกระทำและกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในสังคม ภายใต้กติกาและเงื่อนไขเดียวกัน     มาในปัจจุบัน สังคมทวีความหลากหลายในมิติต่างๆ มากยิ่งขึ้น และสื่อบันเทิงอย่างวิดีโอเกม ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญภายในครัวเรือน และมีพลังมากพอในการที่จะฉายภาพแห่งจินตนาการต่างๆ ออกมาได้อย่างสมจริง และนั่น ก่อให้เกิดคำถามหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา ว่าโดยธรรมชาติของวิดีโอเกมนั้น ควรหรือไม่ที่จะเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงไม่นานมานี้ กับประเด็นที่ละเอียดอ่อนอย่างมากในชิ้นงานล่าสุดของ Naughty Dog อย่าง The Last of Us Part II ที่ก่อให้เกิดกระแสต่างๆ ทั้งทางบวกและทางลบอย่างต่อเนื่องแม้ในขณะที่ผู้เขียนพิมพ์บทความชิ้นนี้     บทความชิ้นนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำว่าคุณผู้อ่านควรจะคิดเห็นอย่างไร มากไปกว่าความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อนิยามของคำว่า ‘การเมือง’ ที่ถูกสอดแทรกเข้ามาในชิ้นงานวิดีโอเกมยุคปัจจุบัน ว่ามันเป็นไปในลักษณะใด และจะช่วยให้แวดวงได้ก้าวเดินอย่างมีวุฒิภาวะอย่างไรในอนาคตภายภาคหน้า     จุดเริ่มต้นของวิดีโอเกมกับ ‘การเมือง’     ถ้าหากจะนับวิวัฒนาการของวิดีโอเกมตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 80 แล้วนั้น มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีบริบทอื่นใดที่สลับซับซ้อน เป็นเพียงความสนุกเนื้อๆ ด้วยกฎและกติกาอย่างง่ายๆ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของเทคโนโลยีในช่วงเวลาดังกล่าว ทำให้หลายความคิดและจินตนาการไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างที่ใจคิด     แต่เมื่อก้าวล่วงเข้ามาถึงทศวรรษที่ 90 การพัฒนาวิดีโอเกมอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านภาพ เสียง เนื้อหา ทำให้การรังสรรค์ชิ้นงานต่างๆ เริ่มทวีความหลากหลาย และนั่น ทำให้มันฉายภาพที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงขึ้นมากกว่าจุดเริ่มต้นของมัน และ ‘การเมือง’ ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญกับแวดวงในเวลานั้น     แน่นอนว่าการเมืองที่ว่า คือความห่วงกังวลที่มีต่อ ‘ความรุนแรง’ ที่เกิดขึ้นในชิ้นงานวิดีโอเกม ไม่ว่าจะด้วยผลงานอย่าง Doom ในปี 1993 หรือ Mortal Kombat ในปีเดียวกัน ความสมจริงที่กลายสภาพมาเป็นความรุนแรง ก่อให้เกิดความกังขาและความกังวลในระดับการเมืองเป็นครั้งแรก จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น (เช่น เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Columbine Highschool ในปี 1999) และเป็นก้าวสำคัญ ที่แวดวงวิดีโอเกม ที่เคยแยกขาดออกจากกัน ได้รวมตัวกันภายใต้ธงของ Entertainment Software Association (ESA) ในปี 1994 เพื่อให้อุตสาหกรรมวิดีโอเกมได้มีปากมีเสียงในพื้นที่ทางสังคมมากขึ้น (และเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดเรทเกมด้วยระบบ ESRB จนถึงการจัดมหกรรม Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ขึ้นมาในภายหลัง)     และมันคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า ‘การเมือง’ ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมวิดีโอเกมอย่างไม่อาจแยกขาดนับจากเวลานั้นเป็นต้นมา และมักจะมีประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่เนืองๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือความพยายามของวุฒิสมาชิก Jack Thompson ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับค่ายอย่าง Rockstar North และซีรีส์ Grand Theft Auto หรือ GTA ที่พยายามจะผลักดันให้เกิดกฎหมายการควบคุมขึ้นมาอย่างจริงจัง (แต่แน่นอนว่า ผลการวิจัย และอุตสาหกรรมวิดีโอเกมที่เติบโตขึ้นเป็นระดับหลักพันล้าน ก็ทำให้การตีฆ้องร้องป่าวของท่านวุฒิสมาชิกต้องเงียบหายและร้างลาจากเวทีไปโดยปริยาย)     ความซับซ้อนที่ทวีมากยิ่งขึ้น     แต่แม้ว่า ‘การเมือง’ จะสอดแทรกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิดีโอเกม (ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงเฉพาะฐานคิดของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่รวมถึงค่านิยมทางสังคมต่างๆ ที่เคลื่อนตัวไปในปัจจุบัน) แต่ดูเหมือนว่า ‘การเมือง’ จะยังเป็นของแสลงสำหรับกลุ่มนักพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย หลายต่อหลายครั้ง พวกเขามักออกตัวปฏิเสธกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าผลงานต่างๆ นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือขั้วความคิดข้างใดข้างหนึ่งเป็นสำคัญ     แต่มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?     ภายใต้ความซับซ้อนของชิ้นงานวิดีโอเกมหนึ่งๆ ที่ผ่านการพัฒนาด้านความสมจริงจนถึงขีดสุด เราคงไม่อาจมองข้ามได้เลยว่า ภาพที่ปรากฏ ระบบที่มี กติกาที่กำหนด ต่างซุกซ่อนนัยยะทางการเมืองเอาไว้แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยเกมแนวสงครามอย่างซีรีส์ Call of Duty ก็ดี ซีรีส์ผจญภัยข้ามโลกข้ามยุคอย่าง Assassin’s Creed ก็ดี ซีรีส์แฮ็คเกอร์ผจญภัย Watchdogs เกม JRPG อย่าง Persona 5 ไปจนถึงเกมแนว Shooter-Looter ชื่อดังอย่างซีรีส์ Tom Clancy’s The Division เหล่านี้ ต่างมี ‘ข้อความ’ ที่ชวนให้เราฉุกใจคิดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น ภายใต้ความเป็นไปได้ทาง ‘การเมือง’ ด้วยกันแทบทั้งสิ้น เรารับบทเป็นทหารสัมพันธมิตรในสงครามโลก เราสู้เพื่ออุดมการณ์บางอย่าง หรือใบอนุญาตสั่งฆ่าในยามที่บ้านเมืองไร้ขื่อแป ทั้งหมด ถ้าไม่ใช่ ‘การเมือง’ แล้ว จะเรียกว่าอะไร     เหล่านี้ ยังไม่นับเกมอินดี้อีกหลายต่อหลายชิ้นงาน ที่ไม่ปิดบังนัยยะทาง ‘การเมือง’ ของตนเอง เกมอย่าง Paper, Please หรือ Riot : Civil Unrest ก็ถูกสร้างขึ้นโดยผู้พัฒนาที่มีส่วนเกี่ยวข้องและความเชื่อทางการเมืองของตนเองอย่างเหนียวแน่น (โดยเฉพาะ Riot : Civil Unrest ที่ผู้พัฒนาไปเดินขบวนประท้วงและลิ้มรสแก๊สน้ำตาติดขอบสนามมาแล้ว…) และยิ่งแวดวงวิดีโอเกมเติบโตขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ความสลับซับซ้อนและความสามารถในการสร้างเรื่องราวผสมผสานกับความสมจริงทางภาพ เสียง และการเล่น ก็ยิ่งทำให้มันเข้าใกล้กับ ‘การเมือง’ มากยิ่งขึ้น     แต่ถ้าทุกอย่างดำเนินไปโดยธรรมชาติของมัน ถ้าหากวิดีโอเกมคือเครื่องมือหนึ่งทาง ‘การเมือง’ อย่างไม่อาจปฏิเสธได้แล้ว อะไรคือปัญหาที่เรากำลังประสบพบเจออยู่ในขณะนี้? อะไรที่ทำให้การเมืองเป็นของ ‘แสลง’ สำหรับทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย?     บางที มันอาจจะเป็นเรื่องที่เรียบง่ายกว่าที่เราคิดเอาไว้มากก็เป็นได้     อะไรคือปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อ ‘การเมือง’ มาเกี่ยวข้องกับ ‘วิดีโอเกม’     จากหัวข้อที่แล้ว ที่กล่าวว่า ทีมพัฒนาและบริษัทจัดจำหน่าย มักจะหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ โดยตรง และออกตัวกันเสียแต่เนิ่นๆ ว่าทุกอย่างดำเนินไปด้วย ‘ความสนุก’ เป็นที่ตั้งนั้น บางที ปัญหาที่ทำให้การเมืองเป็นของแสลงสำหรับแวดวงวิดีโอเกม ก็อาจจะอยู่ที่คำว่า ‘ความสนุก’ ที่ว่านั้นก็เป็นได้     ไม่ได้หมายความว่าวิดีโอเกมควรจะเป็นอุปกรณ์โฆษณาชวนเชื่อหรือเผยแพร่ Propaganda อย่างตรงไปตรงมา แต่การปฏิเสธถึงความเกี่ยวพันของ ‘การเมือง’ ที่มีในชิ้นงานวิดีโอเกม มันเป็นความลักลั่นที่เริ่มจะเผยตัวให้เห็นมากยิ่งขึ้นไปทุกทีๆ เพราะในทางหนึ่ง วิดีโอเกมเดินหน้าไปสู่ขอบเขตของความสมจริง แต่ในอีกทางหนึ่ง มันก็วางตัวเองให้ออกห่างจากผลลัพธ์ของการนำเสนอจากความสมจริงนั้นๆ     ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็อาจจะหนีไม่พ้นซีรีส์อย่าง Call of Duty และซีรีส์ Grand Theft Auto ที่ที่มันได้นำเสนอประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์สงครามสุดสมจริง หรือการยั่วล้อวัฒนธรรมยุคโมเดิร์นอย่างเจ็บแสบ และนั่นทำให้ประโยคที่บอกว่าวิดีโอเกมไม่เกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ นั้น ฟังดูไม่มีน้ำหนักมากขึ้นไปทุกทีๆ เพราะแค่สองตัวอย่าง มันก็อิงแอบอยู่กับการเมืองไปแล้วโดยนัย     หรืออย่างในกรณีที่เป็นปัญหาล่าสุดอย่าง The Last of Us Part II ที่ถูกกลุ่มนักเล่นบางส่วนต่อต้านอย่างรุนแรงจากการสอดแทรกประเด็นทางความเชื่อที่แตกต่างจากชิ้นงานวิดีโอเกมอื่นอย่างสุดสเปคตรัม (จนถึงขั้นมีข้อความและจดหมายขู่ฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตชนิดที่เท่าเทียมและทั่วถึง) มันก็คือผลลัพธ์จากการวางตำแหน่งของวิดีโอเกมเอาไว้ว่า จะต้องดำเนินไปเพื่อความ ‘สนุก’ เป็นที่ตั้ง ออกให้ห่างจากการแตะประเด็นที่ละเอียดอ่อนที่สุด และต้องมีรูปแบบและแนวทางที่ผู้เล่นคุ้นเคย แบ่งชัดเจนขาวดำ จนนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่น่าเศร้าใจอย่างในปัจจุบันขณะ ณ ตอนนี้     แต่เราต้องอย่าลืมว่า วิดีโอเกมนั้น เป็นสื่อความบันเทิงที่มีอายุถึงสี่ทศวรรษ และอัตราการเติบโตของมันก็ทวีมากยิ่งกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ จะเทียบได้ ในไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องถึงจุดที่มันจะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับ ‘การเมือง’ ในฐานะที่มันเป็นสื่อที่จำลองและสะท้อนโลกแห่งความเป็นไปได้ของความเป็น ‘มนุษย์’ อย่างถึงที่สุดชิ้นหนึ่งที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ     มันอาจจะถึงเวลาที่เราต้องทบทวนท่าทีที่เรามีต่อวิดีโอเกมครั้งใหญ่ ที่ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องเดินทางมาถึง     ก้าวต่อไปของวิดีโอเกม เมื่อ ‘การเมือง’ อยู่ใกล้กว่าที่เราคิด     อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านั้น บทความชิ้นนี้ของผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะชี้ว่าสิ่งใดถูกหรือผิด แต่เป็นการฉายภาพของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกแห่งวิดีโอเกม ที่ที่ความเป็น ‘การเมือง’ อาจจะไม่ใช่สิ่งไกลตัว และเมื่อถึงเวลา มันจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสื่อบันเทิงที่เรารักชิ้นนี้อย่างช่วยไม่ได้     ‘คุณพูดถึงการเมืองในชิ้นงานได้ แต่ไม่ใช่การสั่งสอนชี้นำ’ Mike Pondsmith ผู้สร้างซีรีส์ Cyberpunk 2020 และโปรดิวเซอร์ร่วมของ Cyberpunk 2077 กล่าวเมื่อถูกถามถึงการมีส่วนร่วมของการเมืองในชิ้นงานวิดีโอเกม นั่นก็เป็นสิ่งที่เข้าใจกันได้ เพราะถ้าการเมืองเป็นเรื่อง ‘ละเอียดอ่อน’ แล้ว คงไม่มีใครชื่นชอบ ที่จะถูกชี้หน้าแล้วบอกว่าความคิดและความเชื่อของตนเองนั้นผิด ไม่ถูกต้อง     แต่ผู้เขียนขออนุญาตเสริมในจุดนี้สักนิดหนึ่งว่า บางที มันอาจจะไม่เสียหาย ถ้าชิ้นงานวิดีโอเกม จะนำเสนอแนวคิดทางการเมืองและความเชื่อของทีมสร้าง (เช่นที่เกิดขึ้นกับ The Last of Us Part II) มันเป็นสิทธิ์ที่ทีมพัฒนาจะสามารถพึงกระทำได้ และเราในฐานะผู้เล่น ก็มีสิทธิ์อีกเช่นกัน ที่จะแสดงความไม่เห็นด้วย ไปจนถึงอาจจะไม่ชื่นชอบสารที่สื่อออกมา (และดูเหมือนว่า ทีมพัฒนาจะคิดไปไกล และลึกกว่าที่เราคาดเอาไว้มากนัก)     แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่า วิดีโอเกมคือความหลากหลาย และมันสมควรที่จะเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ และไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยนหลบหลีกคำว่า ‘การเมือง’ ทั้งที่มันเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการสร้างมานับสิบกว่าปี และต้องมีพื้นที่ให้กับการส่งเสียงทางความคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันอย่างเสรี  (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบัน ที่แนวคิดและอุดมการณ์ต่างๆ เช่นความเท่าเทียมทางเพศ, LGBTQ+ และความโปร่งใสในกระบวนการทำงานเริ่มมีบทบาทและส่งเสียงในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมากขึ้นทุกขณะ)     สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเห็น (แม้มันจะยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน กว่าที่จะไปถึง) คือการถกเถียงพูดคุยกันอย่าง Constructive ว่าชอบ หรือไม่ชอบ เพราะเหตุใด ไม่มีการชี้หน้าด่าทอ ใครที่ชอบก็ออกมาบอกว่าชอบเพราะอะไร ใครที่ไม่ชอบ ก็โต้แย้งว่าไม่ชอบที่ตรงไหน ต่อยอดไปสู่ความเข้าใจใหม่ๆ (แน่นอน เหตุการณ์ที่ทีมงาน Gamespot ด่า Angry Joe ที่ให้คะแนน The Last of Us Part II ต่ำกว่าเจ้าอื่นๆ เป็นพวกเหยียดเพศนั้นก็จัดว่าเป็นอะไรที่ไม่สร้างสรรค์เลยแม้แต่น้อย…)     และผู้พัฒนา สมควรที่จะสร้างสรรค์ชิ้นงานได้โดยปราศจากความกลัว ให้โลกของวิดีโอเกมมีความหลากหลาย ไม่แตกต่างอะไรกับแวดวงภาพยนตร์ ที่มีทั้งชิ้นงานป็อบคอร์น Blockbuster จนถึงงานระดับเชิงศิลป์สุดโต่ง ความหลากหลายเหล่านี้ จะทำให้แวดวงวิดีโอเกมเติบโต และมีงานสร้างสรรค์ที่น่าสนใจออกมาอีกมากมายในอนาคต มันอาจจะถึงเวลาแล้ว ที่มันจะต้องก้าวต่อไป เรียนรู้จากมัน อันนำไปสู่การเติบโตทางความคิดที่เปิดกว้างของตัวผู้เล่นในอีกทางหนึ่งด้วย     ดังที่อริสโตเติลกล่าวเอาไว้ ‘มนุษย์เป็นสัตว์การเมือง’ และผลลัพธ์ที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คน ผ่านสื่ออย่างวิดีโอเกมนั้น ก็ยากที่จะออกห่างจาก ‘การเมือง’ ไปได้ในอนาคต เราอาจจะสมควรที่จะต้องติดอาวุธทางความคิด พร้อมรับกับวุฒิภาวะที่มากขึ้น เพื่อให้แวดวงวิดีโอเกมก้าวต่อไป และถ้าการเมืองเป็นเหมือน ‘ไฟ’ ที่พร้อมสร้างอันตรายได้ในทางหนึ่งแล้วนั้น… ‘มันก็มีคุณประโยชน์ที่จะนำพาไปสู่การพัฒนาต่อยอด ถ้าหากใช้มันได้อย่างถูกวิธี และมีแนวทางที่เหมาะสมชัดเจนในการเข้าหามันเช่นนั้นเอง…’
24 Jul 2020
Naughty Dog กำลังจ้างคนเพื่อทำเกมใหม่ของ PS5
หลังจากที่ Naughty Dog ได้วางจำหน่าย The Last of Us Part II ที่ใช้เวลาพัฒนานานหลายปี พวกเขาก็ได้หยุดพักก่อนที่จะทำโปรเจคต่อไป ถึงยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นเกมอะไรแต่ที่แน่ๆ มันจะเป็นเกมของ PS5 ครับ เมื่อไม่นานมานี้หน้าเว็บรับสมัครงานของ Naughty Dog ได้ประกาศรับหลายตำแหน่ง และในรายละเอียดของตำแหน่ง Tools Programmer มีการกล่าวถึงการทำงานว่า "วิเคราะห์กราฟิกรุ่นต่อไปของเรา" ในขณะเดียวกันรายละเอียดของตำแหน่ง Melee / Gameplay Animator นั้นค่อนข้างชัดเจนในเรื่องของการวางแผนที่จะพัฒนาโปรเจคใหม่ Naughty Dog กำลังมองหาอนิเมเตอร์ที่มีความสามารถเพื่อช่วยพวกเขาสร้างเกมที่น่าสนใจสำหรับโปรเจคในอนาคต ซึ่งหน้าที่ของตำแหน่งนี้อาจรวมถึงการช่วยกำหนดรูปแบบการต่อสู้ด้วยมือเปล่า หรือต้นแบบของศัตรูต่างๆ และทาง Creative Director ของ The Last of Us Part II และคุณ Neil Druckmann รองประธานของ Naughty Dog กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเกมต่อไปของพวกเขาอาจจะเป็นแฟรนไชส์ใหม่ หรือ The Last of Us Part 3 ก็ได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันพวกเขาจะยังไม่มีความคิดว่าจะใช้วิธีไหนในการนำเสนอเนื้อเรื่องต่อไปดี ซึ่งมันก็น่าตื่นเต้นทั้งสองแบบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์ใหม่หรือว่าเป็น The Last of Us Part 3 แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังต้องติดตามต่อไปว่าโปรเจคใหม่ของพวกเขานั้นจะเป็นเกมอะไรแน่ Credit: Gamingbolt
10 Jul 2020
ผู้กำกับ Neil Druckmann เปิดหมดเปลือกกับธีมและตอนจบของเกม The Last of Us Part II
***บทความนี้จะสปอยเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II เยอะมาก รวมถึงตอนจบด้วย*** เกม The Last of Us Part II อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเกมยอดเยี่ยมที่มีคนเกลียดมากที่สุดเกมหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านเนื้อเรื่องของเกม ที่ทำลายความคาดหวังของผู้เล่นหลายๆ คนไปอย่างเลือดเย็น หรือประเด็นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตา หรือกระทั่งเพศสภาพของตัวละคร ที่หลายคนมองว่าเป็นการผลักใสประเด็นทางการเมืองของผู้พัฒนาใส่ผู้เล่น จนเกิดเป็นการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่ที่ข้อมูลเนื้อเรื่องหลุดออกมาก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย จนถึงปัจจุบันที่เกมวางจำหน่ายไปแล้วเกือบ 3 สัปดาห์ด้วยกัน ในช่วงก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย (แต่หลังจากที่ข้อมูลด้านเนื้อเรื่องหลุดออกมาแล้ว) ทางเว็บไซต์ Eurogamer ได้มีโอกาสในการสัมภาษณ์คุณ Neil Druckmann ผู้กำกับและผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II เกี่ยวกับสิ่งที่เกมต้องการจะสื่อผ่านเนื้อเรื่อง ไปจนถึงประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับตัวละครใหม่ๆ อย่างแอ๊บบี้และเลฟ ซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก เราจึงอยากจะแปลบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันจ้า! ในช่วงครึ่งหลังของเกม (ที่คุณรับบทเป็นแอ๊บบี้) มันน่าเศร้ามากที่คุณได้พบกับผู้คนและสุนัขที่คุณฆ่าตายไปก่อนหน้านี้ในฐานะเอลลี่ และมันทำให้ผมรู้สึกละอายใจขึ้นมาอย่างไรไม่รู้ ผมรู้สึกผิดต่อพวกเขา ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ผมไม่ค่อยพบในวิดีโอเกมเท่าไหร่ มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย ND: คุณพูดถึงประเด็นเรื่องความละอายและความรู้สึกผิด ทั้งสองอย่างนี่มันช่างเป็นอะไรที่มีความเป็นเกมสูงเนอะว่าไหม เพราะเกมเท่านั้นที่ให้ผู้เล่นได้ลงมือกระทำอะไรซักอย่างด้วยการตัดสินใจของตัวเอง และทำให้พวกเขาได้เห็นผลของการกระทำนั้นๆ และสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อตัวละครอื่นๆ เอาเข้าจริง ในการโฆษณาเกม เรามักจะบอกว่าเกม Part II นี้มันเกี่ยวกับความแค้นและความเกลียดชัง ซึ่งมันไม่จริงเลย เกมนี้เป็นเกมเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจ เกี่ยวกับการให้อภัยต่างหาก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถสร้างความรู้สึกเกลียดชังสุดขีดในใจของผู้เล่นได้ เพื่อให้พวกเขาอดใจไม่ไหวที่จะได้เห็นกลุ่มคนเหล่านั้นต้องชดใช้ต่อการกระทำ และมันก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมออนไลน์ตอนนี้ คุณเห็นวิธีที่พวกเขาพูดถึงข้อมูลหลุด วิธีที่พวกเขาพูดจาและกระทำต่อแอ๊บบี้ราวกับเธอไม่ใช่มนุษย์ มันน่ากลัวมาก แต่มันก็คือธรรมชาติของมนุษย์ ที่เราทุกคนล้วนเคยกระทำ เราเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราได้เห็นบทสัมภาษณ์ของคนที่สูญเสียคนรักหรือบุตรให้กับความรุนแรง พวกเขามักจะพูดทำนองว่า ถ้าชั้นจับไอ้คนกระทำมาอยู่ตรงหน้าได้ ชั้นคงถลกหนังมันทั้งเป็น และผมเชื่อพวกเขานะ ผมเชื่อว่าในสถานการณ์ที่ถูกต้อง มนุษย์ธรรมดาอย่างเราล้วนกระทำอะไรแบบนั้นได้ทุกคน ซึ่งสิ่งที่เราอยากจะทดลองในเกมนี้ก็คือ เราจะสามารถนำพาผู้เล่นไปอยู่ในจุดนั้น ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง และทำให้พวกเขาต้องหยุดคิดและสำรวจจิตใจของตัวเองได้อย่างไร และบางทีมันอาจจะทำให้เมื่อมีอะไรซักอย่างเกิดขึ้นนอกเกม คุณอาจจะมีสติและความเห็นอกเห็นใจมากพอที่จะหยุดและตั้งคำถามกับตัวเองถึงมุมมองที่ต่างจากคุณ ฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายระหว่างเอลลี่และแอ๊บบี้มันช่างให้ความรู้สึกกระเสือกกระสนและว่างเปล่าเหลือเกิน เหมือนว่ามันไม่สามารถมีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะได้เลย ผมรู้สึกโกรธเอลลี่มาก และผมก็พร้อมจะเกลียดแอ๊บบี้มาตั้งแต่ต้นเกม แต่ในจุดนั้นมุมมองของผมมันพลิกกลับด้านไปหมดเลย คุณพยายามจะสื่อว่าเอลลี่คือตัวร้ายอยู่ใช่ไหมในฉากนั้น ND: สำหรับผม การจำกัดความตัวละครว่าเป็น "ตัวดี" หรือ "ตัวร้าย" มันเป็นการตัดสินตัวละครมากไปหน่อย สิ่งที่เราต้องการจะสื่อมากกว่าก็คือ นี่คือกลุ่มคนที่ไม่สมบูรณ์แบบ ที่เลือกทางเลือกที่ไม่ถูกต้อง และแสดงให้เห็นผลของทางเลือกเหล่านั้น ก่อนที่จะตั้งคำถามว่า "มันคุ้มค่าสำหรับคุณแล้วใช่ไหม" การเดินทางของเอลลี่มันคือการออกตามหาอะไรก็ตามเพื่ออุดรูในใจที่การตายของโจเอลทิ้งเอาไว้ และความเชื่อของเธอที่ว่า ชั้นอาจจะรู้สึกดีขึ้น ถ้าได้เห็นคนพวกนี้ต้องเจ็บปวดเหมือนกับโจเอล มันเลยทำให้การฆ่าทุกครั้งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งกัดกร่อนความเป็นมนุษย์ของเธอลงเรื่อยๆ มันเป็นความพยายามที่สูญเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เราอ้างอิงจากการสัมภาษณ์บุคคลในโลกจริง บางคนเป็นลูกหลานหรือพ่อแม่ของเหยื่อการฆาตกรรม ที่ได้นั่งดูคนที่ฆ่าคนรักของพวกเขาถูกประหารชีวิตต่อหน้า พวกเขาทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่ต้องการไม่ใช่การแก้แค้น แต่ต้องการให้คนที่เขารักกลับมาต่างหาก และการฆ่าคนที่พรากพวกเขาไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ในขณะเดียวกัน การเดินทางของแอ๊บบี้มันคือการพยายามลบล้างความรู้สึกผิดของตัวเอง เธอได้ทุ่มเวลา 5 ปีไปกับการตามล่าตัวโจเอล เธอเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นอาวุธ เพราะเธอจินตนาการไปเองว่าโจเอลเปรียบเสมือนปีศาจในใจเธอ ถ้าคุณสังเกติดีๆ ในฉากที่โจเอลโดนยิงขา เพื่อนๆ ของแอ๊บบี้ยังมีท่าทีเกรงๆ เขาอยู่ด้วยซ้ำ และการตายของโจเอลก็เป็นอะไรที่น่าสมเพชมาก มันไม่ได้น่าพอใจหรือ "สมเกียรติ์" แต่อย่างใด มันแค่น่าเศร้าเท่านั้นเอง และเนื้อเรื่องของเธอมันก็คือการที่เธอพยายามจะหาทางไถ่บาปให้ตัวเอง ด้วยการช่วยเหลือเด็กสองคนจากกลุ่มที่เป็นศัตรูของเธอมาตลอด และภารกิจนั้นเองที่ทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าอีกครั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี กลับไปสู่ประเด็นที่คุณยกมา เกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั่น ผมคงได้แต่หวัง แม้ว่าจะรู้ว่าผู้เล่นจะตีความตอนจบไปหลากหลายทางก็ตาม แต่เราหวังว่าคุณจะรู้สึกเห็นใจตัวละครทั้งเอลลี่และแอ๊บบี้ เอลลี่ในตอนจบของเกม อาจจะถือว่าอยู่ในจุดเดียวกับแอ๊บบี้ในตอนต้นของเกม ที่เข้าใจแล้วว่าการต่อสู้นี้มันช่างไร้ค่าและน่าสมเพชเหลือเกิน แอ๊บบี้ไม่ใช่คนเดียวกับแอ๊บบี้ที่ฆ่าโจเอลอีกต่อไป แต่เธอคือมนุษย์คนหนึ่งที่ผ่านประสบการณ์อันหฤโหดมาแล้ว และได้ปลดเปลื้องความรู้สึกผิดของตัวเองไปแล้ว และผู้เล่นก็เข้าใจว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นมันช่างไม่มีความหมาย เพราะได้เห็นเรื่องราวของตัวละครทั้งสองคนมาแล้ว ตัวละครเลฟเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก เพราะเขาดูเหมือนจะเป็น "ผู้บริสุทธิ์" คนเดียวในเหตุการณ์ทั้งหมด พวกคุณได้ปรึกษาหรือพูดคุยกับกลุ่มคนข้ามเพศหรือ LGBTQ ถึงวิธีการนำเสนอตัวละครตัวนี้บ้างหรือไม่ ND: ใช่ครับ เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาด้านศาสนามาเลยนะ เพราะเราตั้งใจว่าเราจะสร้างศาสนาหรือชุดความเชื่อหนึ่งขึ้นมาจริงๆ ฉะนั้นเราก็อยากจะพยายามหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งจิตใจของใคร คือทีมงานทุกคนเข้าใจตรงกันว่า การจะสร้างศิลปะที่ท้าทายผู้รับมากขนาดนี้ขึ้นมาซักชิ้นหนึ่ง มันย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนที่รู้สึกไม่ชอบ แต่ถ้าเราจะทำอะไรที่มันจะไปกระทบใจใคร อย่างน้อยก็ขอทำในวิธีที่มันไตร่ตรองมาแล้ว เพื่อไม่ให้ประเด็นเหล่านี้มากำหนดเนื้อเรื่อง แต่เพื่อให้เสริมเนื้อเรื่องแทน เรามีสมาชิกในทีมพัฒนาหลายคนที่เป็นบุคคลข้ามเพศ และเราก็ได้ปรึกษากับพวกเขาตลอดการพัฒนา เราอ่านหนังสือและรับฟังบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นนี้มากมาย เราได้เชิญที่ปรึกษาเข้ามาเพื่อช่วยอธิบายประเด็นต่างๆ ให้เราเข้าใจ และเมื่อเราทำความเข้าใจประเด็นเหล่านั้นแล้ว เราก็ต้องพยายามลืมมันไป และสร้างตัวละครให้เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งในโลกนั้น เราไม่ได้อยากจะสร้างความหลากหลายไปอย่างนั้นเอง เราไม่ได้ใส่ตัวละครข้ามเพศเข้าไปแค่เพื่อให้มีตัวละครข้ามเพศในเรื่อง แต่เรารู้สึกว่ามันมีประเด็นที่น่าสนใจที่สามารถพูดถึงใด้ในบริบทของศาสนา มันคือการนำเสนอตัวละครตัวหนึ่งที่ถูกล่าโดยกลุ่มคนที่เชื่อศาสนาเดียวกับเขา แถมตัวเองก็ยังเชื่อในศาสนานั้นซะเอง แค่ตีความเนื้อหาของความเชื่อนั้นไปในทิศทางที่ต่างกับคนอื่น และนั่นแหละคือประโยชน์ของความหลากหลาย คือมุมมองที่เพิ่มขึ้น ให้เราได้มองเนื้อเรื่องในมุมที่ใหม่กว่าเดิม คุณคาดหวังให้ผู้เล่นได้อะไรจากตัวละครแอ๊บบี้มากที่สุด ND: อย่างที่ผมอธิบายไปก่อนหน้านี้ สิ่งที่ผมต้องการคือให้ผู้เล่นรู้สึกเกลียดชังเธอแบบเข้าใส้ เกลียดจนอยากจะจับเธอมาทรมานอย่างโหดร้ายไปเลย ในตอนที่ผมยังเป็นวัยรุ่น อายุประมาณเท่าเอลลี่ในเกมนี่แหละ ผมได้ดูข่าวเรื่องหนึ่ง ซึ่งแสดงภาพคนผิวดำที่ถูกจับแขวนคอจนตาย และมันส่งผลกระทบต่อจิตใจของผมมาก ทั้งความรุนแรงที่ได้เห็น และเสียงร้องแห่งความยินดีที่ออกมาจากผู้คนที่กระทำความรุนแรงนั้น มันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงมากๆ และในหัวของผมตอนนั้น ผมคิดจริงๆ ว่าผมอยากจะฆ่าไอ้คนพวกนั้นให้หมด ถ้าผมสามารถกดปุ่มปุ่มหนึ่ง ที่ทำให้คนพวกนี้ตายไปพร้อมๆ กัน ผมคงกดไปแล้ว ถ้ามีคนในกลุ่มนั้นถูกจับมัดติดกับเก้าอี้อยู่ตรงหน้า ผมเชื่อว่าผมคงจับพวกเขาทรมานจนตายไปแล้ว มันคือสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ ในตอนนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป พอผมมองย้อนกลับไปที่ความคิดของตัวเองในขณะนั้น แน่นอนว่ามันเป็นความคิดที่เลวร้ายมาก ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เติบโตมาในสังคมธรรมดาๆ ตลอดชีวิตของผมมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่นถึงขั้นลงไม้ลงมือแค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นสมัยที่อยู่โรงเรียน แต่ผมก็ยังสามารถมีความคิดที่ชั่วร้ายแบบนั้นได้ แค่จากการนั่งดูคนอื่นกระทำอะไรบางอย่าง แล้วลองคิดต่อไปว่า ถ้ามันเป็นคนที่ผมรักล่ะ ขนาดคนถูกกระทำเป็นคนแปลกหน้าผมยังรู้สึกได้ขนาดนั้น ผมไม่ได้รู้จักใครในสถานการณ์นั้นเป็นการส่วนตัวเลยซักนิด ทั้งคนที่กระทำและถูกกระทำ มันเลยกลายเป็นข้อถกเถียงทางปรัชญาในหัวของผม ที่ผมเถียงกับตัวเองมาหลายปีแล้ว จนวันหนึ่งผมตัดสินใจว่าอยากจะสร้างความรู้สึกแบบเดียวกันนั้นในวิดีโอเกม และเราก็มีตัวละครอันเป็นที่รักมากๆ อยู่แล้ว ที่หลายคนดูจะรักเสมือนเป็นคนในครอบครัวตัวเองเลย นั่นก็คือโจเอล และถ้าตัดสินจากปฏิกิริยาของคนต่อข้อมูลที่หลุดออกมา ดูเหมือนว่าเราก็ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้นได้จริงๆ ความท้าทายมันอยู่ตรงที่ว่า ถ้าคนไม่สามารถเห็นใจหรือเข้าใจตัวละครแอ๊บบี้ได้ ก็ถือว่าเนื้อเรื่องของเกมมันล้มเหลวไปแล้ว ถ้าคุณเล่นเกมจนจบ และยังรู้สึกอยากแก้แค้นเธอหรือไม่สามารถเข้าใจเธอได้ เกมทั้งหมดก็จะพังทลายลง และนั่นคือสิ่งที่ทีมพัฒนาให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือการทำให้แอ๊บบี้เป็นตัวละครที่...อาจจะไม่ใช่ "คนดี" ซะทีเดียว เพราะนั่นเป็นหลุมพรางที่นักเขียนบทหลายคนมักจะติดกับ คือเมื่อเรามีโจทย์ว่าอยากให้คนชอบแอ๊บบี้ให้ได้ งั้นทำให้เธอเป็นคนสมบูรณ์แบบไปเลยละกัน แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้เกิดการเห็นอกเห็นใจกันอย่างแท้จริง เพราะความเห็นอกเห็นใจมันเกิดก็เมื่อคนเราทำผิดพลาด และพยายามจะแก้ไขความผิดนั้นๆ แม้จะทำไม่สำเร็จทุกครั้งก็ตาม สรุปสั้นๆ ก็คือผมหวังว่าผู้เล่นจะสามารถมองเห็นเธอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความซับซ้อนไม่ต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ ในโลกจริง ระหว่างที่เล่นเกมนี้ คุณรู้สึกขึ้นมาจริงๆ ว่าอยากจะเข่นฆ่าผู้คนเหล่านั้น แต่เมื่อคุณต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง คุณก็ค้นพบว่าการฆ่าคนอย่างเลือดเย็นมันยากกว่าที่คุณคิดไว้มาก แต่มันก็ควรจะยากอยู่แล้วใช่ไหม ND: ผมไม่รู้ว่าคุณเคยดูหนังเรื่อง Saving Private Ryan หรือเปล่า แต่มันเป็นหนังที่มีอิทธิพลต่อผมมาก เพราะมันเป็นหนังที่สนุกมากๆ คุณได้ติดตามการเดินทางของกลุ่มตัวละคร ที่ล้วนมีความน่าดึงดูดและน่าสนใจมาก แต่ภาพยนตร์ก็มีความน่ากลัว มีความท้าทายคนดูพอสมควร เพราะมันเป็นหนังที่พยายามเล่นกับความคาดหวังของคนดูว่า "หนังแอคชั่น" มันควรเป็นอย่างไร หนังนำเหตุการณ์ที่เรามักเห็นในหนังแอคชั่นมาไว้ในสถานการณ์ที่อิงความเป็นจริง ซึ่งมันทำให้คุณมองเห็น "ความบิดเบี้ยว" ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เหล่านั้น และนั่นก็คือความหวังของเรา เราไม่ได้ทำให้เกมมันรุนแรงมากๆ เพียงเพื่อสร้างความรู้สึกสะอิดสะเอียนให้คนเล่นจนเขาปิดเกมหนีไปเลย แต่เราหวังว่าเนื้อเรื่องของเกมจะเป็นแรงขับที่เพียงพอให้คุณเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ เพราะ TLoU2 เป็นเกมที่ออกแบบมาให้คุณรู้สึกถึงน้ำหนักของการกระทำในแบบที่ต่างจากเกมแอคชั่นอื่นๆ ความท้าทายของการทำอะไรใหม่ๆ สำหรับเรา คือการที่คุณไม่รู้ว่าคนจะคิดอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนั้น และคุณก็ได้เห็นผลของความเสี่ยงนั้นอยู่ตอนนี้เลย ผมคิดว่าวิดีโอเกมที่ผ่านมา อาจจะทำให้ผู้เล่นมีความคาดหวังบางอย่างต่อเกมภาคต่อ เช่นคาดหวังว่าจะได้เล่นเป็นตัวละครตัวใดตัวหนึ่ง หรือคาดหวังว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปแบบหนึ่ง และทีมงานของเราอยากจะท้าทายความคิดนั้นมากๆ ถ้าให้นึกตอนนี้อาจจะนึกไม่ออก แต่ผมเชื่อว่ามันต้องมีตัวอย่างของเกมที่ฆ่าตัวเอกทิ้งในภาคต่อ ซึ่งมันสำคัญต่อเรามากที่จะไม่ให้โจเอลตายอย่างวีรบุรุษ แต่ต้องตายอย่างโหดเหี้ยม ศพไม่สวยอย่างแน่นอน ตอนที่เราเขียนบทฉากนั้น มันมีผลกระทบต่อจิตใจของพวกเราทุกคน เราเลยมั่นใจว่ามันต้องกระทบจิตใจผู้เล่นด้วยแน่นอน ผมเข้าใจได้นะถ้าแฟนของเกมภาคแรกจะเกลียดสิ่งที่เกิดขึ้นในภาคนี้ แต่ถ้าคุณได้ลองเข้าไปสัมผัสเกมจริงๆ ผมเชื่อว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าโจเอลก็ยังเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าตากันจริงๆ แต่จิตวิญญาณของโจเอลก็ยังแทรกอยู่ในทุกอณูของเกม ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเอลลี่ และคุณก็ได้เห็นในฉากย้อนอดีตทั้งหลายในเกม และในฉากท้ายเรื่อง ที่เอลลี่ได้ครุ่นคิดถึงการให้อภัยจริงๆ และในบทสนทนาสุดท้ายระหว่างพวกเขาทั้งสอง ที่เธอรู้สึกว่าเขาทำผิดต่อเธออย่างร้ายแรงจนเธอพร้อมจะตัดขาดกับเขาไปเลย แต่สุดท้ายเธอก็สามารถวางมือลงจนได้ ซึ่งผมมองว่านั่นแหละคือแก่นของความเป็นมนุษย์ในตัวเอลลี่ ที่ยังงดงามอยู่ แม้ว่าเธอจะต้องตัดสินใจทำสิ่งที่โหดร้ายมากมายก็ตาม Troy Baker (นักแสดงบทโจเอล) และ Ashley Johnson (นักแสดงบทเอลลี่) คิดอย่างไรกับเรื่องราวของตัวละครของพวกเขาในเกมนี้ ND: เอ่อ...ฮ่าๆ (หัวเราะ) ตอนที่ผมเล่าเนื้อเรื่องให้ Ashley ฟังครั้งแรก มันคือหลังจากที่ผมเล่าเรื่อง DLC Left Behind ของภาคแรกให้เธอฟังพอดี ตอนนั้นพวกเรานั่งคุยกันอยู่ในร้านอาหาร และเธอก็ชอบบทนั้นมากๆ และหลังจากนั้นช่วงที่เรากำลังจะเริ่มถ่ายทำเกมกัน ผมก็บอกเธอว่า เออ ผมมีไอเดียอีกแบบในหัวว่าเกมภาคต่อจะเป็นอย่างไร ซึ่ง Ashley ร้องไห้แบบสะอึกสะอื้นเลยทีเดียวเมื่อได้ฟังเรื่องที่ผมวาดไว้ในหัว แต่เธอก็คิดว่ามันยอดมากๆ เช่นกัน ในส่วนของ Troy ผมว่า... คือต้องเข้าใจว่าบทที่พวกเขาได้รับมันท้าทายสำหรับพวกเขามากๆ ผมเห็นที่คนพูดๆ กันในเน็ตว่าพวกเรา (ทีมพัฒนา) กำลังไม่ให้เกียรติ์ตัวละครของโจเอล ซึ่งผมก็อยากจะบอกว่า ไอ้ห่าเอ๊ย มันไม่มีใครรักตัวละครพวกนี้มากกว่าพวกเรา (ทีมพัฒนา) อีกแล้วโว้ย ยกเว้นแค่ Troy คนเดียว ไม่มีใครรักโจเอลมากเท่า Troy Baker อีกแล้ว Credit: Eurogamer
09 Jul 2020
The Last of Us Part II กับ 18 ความลับ Easter Egg ที่คุณไม่ควรพลาด
The Last of Us Part II เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมระดับ AAA ที่ดีแทบจะทุกอย่างและที่สำคัญค่ายพัฒนาอย่าง Naughty Dog นี่ก็ขยันมากๆ ครับนอกจากจะทำทุกอย่างออกมาดีแล้วยังใส่สิ่งต่างๆ ไว้เซอร์ไพรส์แฟนๆ หรือที่เราเรียกกันว่า " ไข่อีสเตอร์ " ไว้เยอะมากๆ ครับ วันนี้ผมจะพาผู้อ่านทุกคนมาดูกับไข่อีสเตอร์ที่แฟนๆ ในภาคแรกอาจจะร้องว้าวกันไปเลยครับจะมีอะไรบ้างมาดูกันครับ. 1.กระต่าย ไข่อีสเตอร์อันแรกนั้นอาจจะทำให้มีเศร้ากันบ้างนะครับนั่นคือ เจ้ากระต่ายน้อยที่โผล่ออกมาให้เห็นนอกหน้าต่างในช่วงแรกๆ ที่เราได้บังคับตัวละครอย่าง Ellie ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเรากลับไปในช่วงหน้าหนาวของ The Last of Us ภาคแรก. 2.เครื่อง PS3 ที่มีเกมคุ้นหน้าคุ้นตา ทุกคนคงไม่ลืมกันนะครับว่าตัวเกมถูกเซ็ตให้อยู่ในช่วงเวลาวันที่ 26 กันยายน 2016 ซึ่งเท่ากับว่าในสมัยนั้นยังไม่มีเครื่อง PS4 และในบ้านพักของ Ellie เราจะได้พบกับเครื่องเกม PS3 พร้อมแผ่นเกมอย่าง Jak and Daxter และ Uncharted 2  ซึ่งเราจะสามารถพบเครื่อง PS3 และแผ่นเกมกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ในเกมได้อีกหลายๆ ที่นะครับ. *ใครที่สงสัยว่า Jak and Daxter และ Uncharted เกี่ยวอะไรด้วยก็ขอบอกตรงนี้นะครับทุกเกมที่ถูกกล่าวถึงเกือบทั้งหมดล้วนมี Naughty Dog เป็นผู้พัฒนาทั้งสิ้นครับ 3.ตุ๊กตายีราฟ ในช่วงที่ผู้เล่นพา Ellie ไปลาดตะเวนกับ Dina เราจะได้ไปถึงโซนสำหรับเด็กและพบกับตุ๊กตายีราฟ ซึ่งมันทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนและตัวละครอย่าง Ellie ต้องระลึกนึกย้อนไปในสมัยช่วงเวลาภาคแรก และการย้อนวันวานที่ชวนให้คิดถึงนั้นทำให้ Ellie ถึงขนาดที่ต้องหยิบสมุดบันทึกของเธอมาเขียนเรื่องราวลงไปเลยทีเดียว. 4.หนังสือการ์ตูน Savage Starlight ในช่วงค้นหาสาย String ผู้เล่นจะต้องเดินไปทั่วๆ รีสอร์ทซึ่งจะได้พบกับหนังสือการ์ตูน Savage Starlight ให้เรากดอ่านได้ด้วยครับ ผมหวังว่าหลายๆ คนคงจะจำกันได้นะครับว่าในภาคแรกนั้น จะมีช่วงหนึ่งที่ Ellie กับ Joel คุยกันถึงหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้ว่าเล่มต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นบ้างและแล้วใน The Last of Us Part II เธอก็ได้พบกับหนังสือที่เธอเคยหวังจะได้อ่านต่อในตอนเด็กๆ 5.รูปถ่ายของ Sarah เมื่อเดินทางไปยังบ้านของ Joel เราจะสามารถค้นหารูปเก่าๆ ของเขากับ Sarah ลูกสาวของเขาที่เสียชีวิตไปในภาคแรกได้ครับ และสิ่งที่สื่อได้ชัดเจนเลยก็คือ Joel นั้นรักและห่วงใยในตัวของ Ellie เหมือนความรักที่เขามีให้กับลูกสาวเช่นกัน. 6.นาฬิกาและปืนของ Joel อีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่ควรพลากกันเลยครับนั่นคือ สิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนตัวแทนของ Joel อย่างนาฬิกาและปืนของเขา และมันคุ้มค่าที่เราจะได้เห็นฉากที่ Ellie เตรียมของและนำเจ้าของสองสิ่งนี้ไปด้วย มันให้ความรู้สึกอบอุ่นและชวนย้อนวันวานสำหรับแฟนๆ ในภาคแรกอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ. 7.เครื่องสแกนผู้ติดเชื้อ ในช่วงที่ได้สำรวจย่าน Downtown Seattle เราจะสามารถเข้าไปยังจุดตรวจคัดกรองของพวกทหารได้ครับ ซึ่งตรงนั้นเราจะได้พบกับเครื่องสแกนหาผู้ติดเชื้อของ FEDRA รุ่นเก่าวางอยู่บนชั้น ในตอนนั้น Ellie จะพูดขึ้นมา่วาเธอไม่ได้เห็นเครื่องนี้มาซักพักใหญ่ๆ แล้ว ในการสนทนานั้นทำให้เราได้รู้ว่าองค์กรต่างๆ รวมถึงรัฐบาลด้วยได้ล่มสลายลงไปหมดแล้ว. 8.โปสเตอร์เพลง อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปเมื่ออยู่ในย่าน Downtown Seattle นั่นคือ ร้ายขายเพลงครับ เมื่อเข้าไปเราจะได้เห็นโปสเตอร์ของวง Lightning Bolt และ  Pearl Jam ในอัลบั้มช่วงปี 2013 ซึ่งมีเพลงที่ Joel และ Ellie เคยเล่นนั้นคือเพลง " If I ever Were to Lose You " มันเป็นเพลงที่มีจริงๆ ในโลกนี้ครับ แต่ในโลกของเกมนั้นโปสเตอร์บอกไว้ว่าจะออกมาจำหน่ายเร็วๆ นี้ในวันที่ 15 ตุลาคม 2013 แต่ดันไปเกิดเหตุการณ์ระบาดของเชื้อในวันที่ 26 กันยายน 2013 เสียก่อนเพลงก็เลยไม่ทันได้ออกครับ. 9.รหัสประตูคลาสสิกของเกม Deus Ex ย่าน Downtown Seattle นั้นยังมีไข่อีสเตอร์อีกนะครับ นั้นคือ รหัสของตู้เซฟที่ใช้รหัส 0451 ตัวเลขนี้เรียกได้ว่าเป็นรหัสสำหรับเปิดประตูในเกม Desus Ex และยังเป็นรหัสที่เกมอื่นๆ ก็นำไปทำเป็นไข่อีสเตอร์ตามๆ กันด้วยครับ เช่น System Shock 1 และ 2 หรือ Thief. 10.รูปปั้นฮาโลวีนที่หลอนมาก อีกหนึ่งไข่อีสเตอร์ในย่าน Downtown Seattle เช่นเคยครับเมื่อเราเข้าไปในร้านขายของเล่นที่มีพวกของสำหรับงานฮาโลวีนด้วยน้้นเราจะได้เห็นหุ่นผีที่เคยไปอยู่ในภาค DLC อย่าง The Last Of Us: Left Behind ที่เล่าเรื่องราวของ Ellie ที่พบว่าตัวเองมีภูมิคุ้มกัน. 11.Warhammer 40,000 รู้หรือไม่ครับว่าค่ายพัฒนาอย่าง Naughty Dog นั้นพวกเขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเกมอย่าง Warhammer 40,000 หรือ 40K ดังนั้นเราจะได้เห็นหุ่นโมเดลของ Warhammer 40K หลายๆ รูปแบบและแม้แต่บอร์ดเกมก็มีให้เห็นเช่นกัน! 12.ไม้พาเลท ในภาค 2 ช่วงที่ Ellie ข้ามแม่น้ำนั้นผู้เล่นจะได้รู้ว่าเธอสามารถว่ายน้ำได้แล้ว และระหว่างนั้นเธอก็พบกับพาเลทเก่าๆ อันหนึ่งซึ่งเธอถาม Joel ว่าจะให้ขึ้นไปนั่งบนนั้นไหม? มันทำให้เธอและผู้เล่นส่วนใหญ่จะนึกย้อนไปในตอนภาคแรกที่เธอยังเด็กอยู่และให้ Joel อุ้มขึ้นพาเลทพาเธอข้ามน้ำไป. 13.เกม Hotline Miami ในช่วงที่เราเล่นเป็น Ellie และแทรกซึมเข้าไปในฐานของพวก WLF เราจะได้เจอกับการ์ดที่กำลังเล่นเครื่อง PS Vita อยู่ซึ่งเกมนั้นเป็นเกม Hotline Miami ( เกมยิงมุมสูง วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2012 ) ตอนแรกจะได้ยินแค่เสียงเพลง แต่เมื่อเราจัดการกับการ์ดเสร็จแล้ว เราจะได้เห็นชัดเจนว่านั่นคือเกม Hotline Miami. 14.เกม Jak and Daxter Collection  ในระหว่างที่เรากำลังแฝงตัวสำรวจฐาน WLF นอกจากจะเห็นเกมจากหัวข้อด้านบนแล้ว เราจะพบคนอื่นในฐานเล่น PS Vita เช่นกัน แต่เกมที่เล่นดูเหมือนจะเป็นเกม Jak and Daxter: The Precursor Legacy ระดับ Lava Tube ในขณะที่คุณกำลังสำรวจฐาน WLF คุณจะพบคนอื่นกำลังเล่น PS VIta ครั้งนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเล่นระดับ Lava Tube ของ Jak and Daxter: The Precursor Legacy 15.หุ่นยนต์ของ Sam ใน The Last of Us ภาคแรกเราจะได้เจอเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า Sam ครับซึ่งเขาปรากฏออกมาพร้อมกับหุ่นยนต์ของเล่นตัวเล็กๆ ของเขาและในภาค 2 เราสามารถพบมันได้อีกครั้งในห้องของ Ellie ในบทที่ 2 : Waking Up. 16.เครื่องเกม Arcade เมื่อเราเล่นไปจนถึงฉากที่กำลังเดินทางด้วยเรือ เราจะได้พบกับเครื่องเกมอาร์เคดที่มีลายตู้เป็นตัวละครหลัก คือ Angel Knives ( หนึ่งในตัวละครในเกมตู้นี้ ) ซึ่งเครื่องนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในภาคแรกและยังไปโผล่อีกที่ในภาค DLC ด้วยครับ. 17.เครื่อง Arcade Jak X Combat Racing ในสถานที่เดียวกับหัวข้อด้านบนครับ ที่เราจะสามารถเจอกับตู้เกมแข่งรถอย่างเกม Jak X Combat Racing เครื่องนี้ปรากฏครั้งแรกในภาค DLC อย่าง Left Behind แต่ใน The Last of Us Part II นี้เราสามารถเข้าไปเล่นหรือเข้าไปนั่งเฉยๆ ได้เช่นกัน. 18.ของที่ระลึกแปลก ๆ เมื่อเราสำรวจอยู่ในถนน China Town นั้นอาจจะพบพวกของที่ระลึกแปลกๆ ในที่ต่างๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมีคนพบว่ามันคือ Precursor Orb ของสะสมจากเกม Jak and Daxter ซึ่งของสิ่งนี้ชอบไปปรากฏอยู่ในเกมอื่นๆ ของผู้พัฒนาอย่าง Naughty Dog แต่เจ้าไข่ประหลาดชิ้นนี้ถือว่าปรากฏออกมาครั้งแรกในซีรี่ส์ The Last of Us ครับ ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.powerpyx.com/the-last-of-us-2-easter-eggs/    และ https://www.gamesradar.com/uk/the-last-of-us-2-easter-eggs/?fbclid=IwAR0Zk9Hy7ZIpKKlPIp_B36fes0CkMHN0VhnQVbgH3TDMDGLO2BY7ApjJ9S8
08 Jul 2020
The Last of Us Part II วิธีการหาเหรียญสะสมทั้งหมดในเกม
The Last of Us Part II นอกจากจะมีอาวุธและไอเทมให้เราตามเก็บกันเยอะมากแล้ว ยังมีอีกสิ่งเล็กๆ ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามหรือหาไม่เจอด้วยนะครับนั่นคือของสะสมอย่าง "เหรียญ" นั่นเอง วันนี้ผมจะมาบอกจุดบอกตำแหน่งที่ตั้งของเหรียญอย่างหมดเปลือกเลยครับ มาดูกันว่ามีตรงไหนที่ผู้อ่านเดินผ่านและมองข้ามไปหลายรอบกันแล้วบ้าง ลุย! 1.Tracking Lesson  1 เหรียญ 1.1.Virginia - ตรงนี้ให้เราไปทางหน้าต่างห้องน้ำที่บริเวณสวนสัตว์ แล้วเดินไปยังถังขยะด้านนอกก็จะเจอเหรียญตั้งอยู่บนขอบเลยครับ. 2.The Stadium 4 เหรียญ 2.1.Alaska - เมื่อเล่นเป็น Abby ช่วงที่เราออกจากอพาร์ทเมนท์พร้อมกับ Manny หลังจากตัดมาจากฉากเก็บของ ให้เรามองไปทางซ้ายมือบนพื้นก็จะเจอทันทีเลยครับ.   2.2.Maine - ช่วงที่กำลังลงไปยัง The Dog Pen จะมีเหรียญวางอยู่ตรงเก้าอี้ยาวขวามือข้างๆ โต๊ะกินข้าว.   2.3.New Jersey - หลังจากลงมาแล้วและกำลังเข้าไปภายในตัวฐาน เราจะเจอเหรียญอยู่ทางขวาหลังโต๊ะของผู้หญิงที่โบกมือทักทาย ( มองต่ำๆ ไว้นะครับและสังเกตดีๆ เพราะทางเข้าอาจจะมืดนิดนึง )   2.4.Vermont - หลังจากซ้อมยิงปืนกับ Manny เสร็จแล้วให้เราไปอีกห้องนึง แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปยังล็อคเกอร์ที่อยู่ในสุดจะเจอเหรียญวางอยู่ครับ. 3.On Foot 4 เหรียญ 3.1.Kentucky - หลังจากถูกกลุ่ม Seraphite ซุ่มโจมตีแล้ว เราจะอยู่ในร้านฮาร์ดแวร์ให้เดินตรงไปในทางมืดๆ จะเจอเหรียญวางอยู่บนโต๊ะทางด้านขวามือ 3.2.Massachusetts - บริเวณโกดังร้านฮาร์ดแวร์ที่มีหญ้ารกๆ ให้เดินไปให้สุดแล้วจะเจอโต๊ะแคชเชียร์ที่อยู่ใกลที่สุด เหรียญจะตั้งอยู่ตรงนั้นครับ. 3.3.Ohio -เมื่อผ่านจุดนั้นมาจะมีช่วงที่เราสามารถวางบันไดเพื่อข้ามไปบนเรือได้ แต่ให้แวะตั้งตรงผนังก่อนนะครับ แล้วพอขึ้นไปจะเจอของให้ฟาร์มพร้อมกับเหรียญบนโต๊ะ. 3.4.Indiana - ให้เราเข้าไปในบ้านตู้ที่อยู่ตรงกลางแจ้งในตอนที่กำลังจะออกไปด้านนอกกับ Mel ครับ วิธีการก็คือให้ทุบกระจกแล้วปีนเข้าไป เหรียญก็จะวางอยู่ตรงนั้น. 4.The Forward Base 3 เหรียญ 4.1.California - เมื่อเราได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่ม WLF หลังจากออกจากรถให้เดินไปทางขวามือครับ จะเห็นกลุ่มคนกำลังจับกลุ่มคุยกันอยู่ ซึ่งเหรียญจะตั้งอยู่ตรงพื้นด้านหลังของพวกเขา.   4.2.New Mexico -อันนี้ก็ง่ายครับพอเราออกมาจากแคลิฟอร์เนีย กำลังมุ่งสู่นิวแม็กซิโกให้เลี้ยวซ้าย เหรียญจะวางอยู่บนลังเขียวข้างๆ กลุ่มคนที่กำลังคุยกัน.   4.3.South Carolina - เมื่อถึงช่วงที่เราต้องเข้าไปในอพาร์ทเมนท์เพื่อไปหา Isaac ให้แล้วซ้ายแล้วจะเจอเหรียญวางอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวครับ. 5.Hostile Territory 1 เหรียญ 5.1.Alabama - เมื่อช่วงที่เล่น Abby และเธอบ่นถึงกลิ่นแปลกๆ ให้เราเดินผ่านร้านขายเสื้อ จะเจอจุดที่สามารถปีนขึ้นไปบนรถบ้านครับแล้วให้เราเข้าตึกทางหน้าต่าง เหรียญจะวางอยู่ในลิ้นชักท้ายห้อง. 6.The Coast 4 เหรียญ 6.1.North Dakota -เมื่อเรากำลังไปที่อควาเรี่ยม ให้เดินตัดผ่านกองตู้คอนเทนเนอร์ ปีนขึ้นไปข้างบนทางตึกที่ถล่มลงมาและจะเจอเหรียญวางอยู่ข้างศพครับ. 6.2.West Virginia - เมื่อเราเล่น Abby และอยู่บนเรือช่วงหลังจากที่เราได้รับปืนหน้าไม้มาใหม่ๆ ให้เดินตัดผ่านโถงทางเดินแล้วมองไปทางด้านขวาเหรียญจะอยู่ในกองหมีเท็ดดี้และกระเป๋าเดินทาง. 6.3.Utah - ในส่วนท้ายของเรือ เมื่อเราปืนออกมาจากห้องบังคับเรือให้มองไปรอบๆ ก่อนนะครับค่อยเดินออกไปตามทาง จะเจอเหรียญวางอยู่ที่พื้นใกล้ๆ จุดที่เราปีนออกมา. 6.4.Mississippi - อันนี้ง่ายสุดๆ ครับเมื่อเราไปถึงอควาเรี่ยม ตรงด้านหน้าจะมีน้ำพุอยู่ครับให้กระโดดลงไปในบ่อจะเจอเหรียญตกอยู่ในน้ำ. 7.The Shortcut 2 เหรียญ 7.1.Nevada - ระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปกับ Lev ให้มองไปที่ตึกสูงและจะเห็นร้านตัดผมอยู่ทางขวามือของเรา จากนั้นก็เดินเข้าไปเก็บเหรียญที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ได้เลยครับ. 7.2.Colorado - เมื่อถึงช่วงที่กำลังกระโดดข้ามน้ำไปยังตึกอีกฟาก ให้ปีนเข้าไปในตึกแล้วมองหาหน้าต่างครับ ตรงนั้นจะมีกันสาดสีฟ้าอยู่ เหรียญจะวางอยู่บนกันสาดให้เรากระโดดลงไปบนกันสาดได้เลยครับ. 8.The Descent 5 เหรียญ 8.1.Illinois - เหรียญจะอยู่ในสระน้ำที่เราจะเจอหลังจากช่วงที่ตกลงมาจากรถเครน. 8.2.Oregon -ในช่วงที่เราติดอยู่ในซากตึกและช่วงที่เจอปืนไฟ เหรียญอันนี้จะอยู่ในชั้นที่ต่ำกว่าโดยเหรียญจะวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ ห้อง 1107. 8.3.Wisconsin -เมื่อเราสามารถลงจากลิฟต์ได้แล้ว ให้ตรงไปยังตู้ขายขนมหยอดเหรียญที่อยู่ทางซ้ายมือ จะเจอเหรียญอยู่ในช่องเงินทอน. 8.4.Rhode Island -ช่วงเดียวกันเลยครับพอเราออกมาถึงจุดที่อากาศถ่ายเทเปิดโล่ง จนถอดหน้ากากออกแล้วให้ลองมองหาบาร์น้ำนะครับ แล้วไปสำรวจด้านหลังจะพบเหรียญอยู่ตรงนั้น. 8.5.Missouri - ทันทีที่ Wolves สั่งให้เราไปโรงพยาบาลให้หันมองไปทางขวาครับ จะเจอเหรียญวางอยู่ที่ท้ายๆ ของห้องโถง. 9.Ground Zero 2 เหรียญ 9.1.Washington - เหรียญจะอยู่หลังเคาน์เตอร์กาแฟ ในช่วงที่ Nora กำลังพาเราไปดูผลตรวจในห้องไอซียู. 9.2.Hawaii - หลังจากที่เล่นเป็น Abby เพิ่งหนีตัวประหลาดได้สำเร็จ ให้มองไปทางด้านซ้ายมือจะเจอตู้กระจกนิรภัยเล็กๆ ที่มีกรอบขาวๆ ให้ทุบกระจกได้เลยครับเหรียญจะวางอยู่ด้านใน.   10.The Marina 2 เหรียญ 10.1.Kansas - หลังจากจบคัตซีนแล้วเรายืนอยู่บนดาดฟ้า ให้ขึ้นบันไดไปตรงด้านบนระเบียงจะเจอเหรียญวางอยู่บนพื้นหญ้า. 10.2.Louisiana -หลังจากที่เราลงบันไดไปชั้นล่างและก่อนจะขึ้นรถไฟสีฟ้าให้เดินไปด้านขวาตามทางพื้นหญ้าข้างๆ ครับจะเจอเหรียญวางอยู่ตรงผ้าใบ.   11.The Island 3 เหรียญ 11.1.Idaho - ในช่วงที่อยู่บนเกาะกับ Yara ให้เราปีนบันไดขึ้นไปบนทางหลวงและจะเจอรถบรรทุกทางซ้ายมือให้กระโดดขึ้นไปในตู้จะเจอเหรียญวางอยู่ด้านในครับ. 11.2.North Carolina  - เมื่อเล่นไปสักพัก Yara จะแนะนำให้เราลัดผ่านค่ายตัดไม้ ซึ่งเราจะเจอรถที่มีประตูเปิดทิ้งไว้อยู่ทางซ้ายมือ ให้เดินเลยไปนิดหน่อยจะเจอเหรียญวางอยู่บนหนังสือครับ. 11.3.Montana - เหรียญอันนี้จะอยู่ในฐานของพวกหน่วยซุ่มยิงหลังแรก ซึ่งเราจะเจอทางขึ้นเป็นพวกกองไม้ไปด้านบนจากนั้นให้เดินไปดูตรงกองกระสอบจะเจอเหรียญวางอยู่. 12.The Escape 1 เหรียญ 12.1.Arkansas - เมื่อ Abby พูดขึ้นว่า “ is there a way around these guys? ”  ช่วงนั้นเรากำลังจะออกจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับ Yara และ Lev ตรงจุดนี้เหรียญสุดท้ายจะวางอยู่ซ้ายมือถัดจากตะกร้าชอปปิ้งครับ. Credit: Gameradar
07 Jul 2020
ผู้พากย์เสียงตัวละครแอ๊บบี้และผู้กำกับเกม The Last of Us Part II โพสต์แสดงข้อความขู่ฆ่าจากแฟนเกม
ยังคงเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง กับเกมแอคชั่นภาคต่อ The Last of Us Part II ของค่าย Naughty Dog ที่เป็นหัวข้อถกเถียงระหว่างแฟนๆ ที่ทั้งรักและชังเกมนี้กันอย่างรุนแรง จากเหตุการณ์และเนื้อหาหลายๆ อย่างของเกม จนลามเข้าสู่ชีวิตจริงไปแล้ว ล่าสุด ทางนักพากย์เสียงตัวละครแอ๊บบี้ (Abby) คุณ Laura Bailey ได้ออกมาโพสต์ภาพสกรีนช๊อตทางทวิตเตอร์จำนวนหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงข้อความที่เต็มไปด้วบความเกลียดชังของแฟนๆ ต่อสิ่งที่ตัวละครที่เธอรับบทในเกมได้ทำ โดยหลายข้อความถึงขนาดขู่จะตามไปฆ่าเธอและครอบครัวของเธอเลยทีเดียว Man. I try to only post positive stuff on here... but sometimes this just gets a little overwhelming. I blacked out some of the words cuz, ya know, spoilers. Side note. Thank you to all the people sending me positive messages to balance it out. It means more than I can say.❤️ pic.twitter.com/kGyULWPpNu — Laura Bailey (@LauraBaileyVO) July 3, 2020 นอกจากนี้ ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ยังได้ถือโอกาสนี้โพสต์แสดงข้อความต่างๆ ที่เขาเองก็ได้รับจากแฟนๆ ที่ไม่พอใจเกม ซึ่งมีทั้งข้อความขู่ฆ่า เหยียดเพศ และเหยียดเชื้อสายยิวของคุณ Neil มากมาย You can love or hate the game and share your thoughts about it. Unfortunately too many of the messages Ive been getting are vile, hateful, & violent. Here are just a handful of them (feel its important to expose.) Trigger Warning: transphobic, homophobic, anti-Semitic, etc. pic.twitter.com/uR9vpGgYQa — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) July 5, 2020 สุดท้ายนี้ แม้ว่าเราจะรู้สึกอย่างไรก็ตามต่อตัวผลงาน ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะเกลียดชังหรือโจมตีผู้ผลิตผลงานนั้นๆ โดยเฉพาะการใช้ข้อความที่เป็นการเหยียดเพศหรือชาติกำเนิด หากเกมเมอร์อย่างเราๆ ต้องการให้ทัศนคติของสังคมโดยรวมที่มีต่อเรามันดีขึ้นจริงๆ ต้องการให้เขาหยุดมองเกมเมอร์ในฐานะเด็กหรือคนหัวรุนแรง ก็ควรใช้สติในการแสดงความคิดเห็น ไม่ให้ล้ำเส้นจนไปคุกคามผู้อื่นกันนะจ๊ะ Credit: IGN
06 Jul 2020
ผู้กำกับ The Last Of Us Part ll พูดถึงการพัฒนาเกมสำหรับ PS5
แม้จะมีกระแสถกเถียงกันอย่างต่อเนื่อง แต่ The Last Of Us Part ll ก็เป็นผลงานที่ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับผู้พัฒนา Naughty Dog ที่เรียกได้ว่ารีดเอาศักยภาพของเครื่อง PS4 ออกมาใช้อย่างหมดจด เช่นเดียวกับที่เกม The Last of Us ภาคแรกทำมาแล้วในเครื่อง PS3 และด้วยวันวางจำหน่ายที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ของเครื่อง PS5 คงไม่แปลกถ้าแฟนๆ จะตั้งหน้าตั้งตารอเห็นผลงานต่อไปของค่าย Naughty Dog ว่าจะสามารถดึงศักยภาพของเครื่องรุ่นใหม่ออกมาได้อีกแค่ไหน ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ได้ออกมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวในรายการ Talking Games Podcast โดยเขาบอกว่าทีมงาน Naughty Dog ล้วนตื่นเต้นกับการพัฒนาเกมสำหรับคอนโซล PS5 ด้วยเทคโนโลยี SSD ใหม่ ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับผู้พัฒนา นั่นก็คือการทำให้เกมไม่มีหน้าจอการโหลด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากๆ ในยุคคอนโซลปัจจุบัน "การพัฒนาเกมในช่วงท้ายๆ ของยุคคอนโซล มันรู้สึกจำกัดเสมออยู่แล้ว คุณจะรู้สึกว่าคุณต้องทำงานภายใต้ขีดจำกัดมากมาย และต้องมานั่งหาช่องโหว่หรือวิธีการที่จะดันขีดจำกัดนั้นๆ ออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Memory หรือ CPU หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การเริ่มพัฒนาเกมสำหรับยุคคอนโซลใหม่ก็เป็นดาบสองคม เพราะแม้ว่าคุณจะมีพื้นที่ในการสำรวจและเติบโตได้เต็มที่ แต่คุณก็อาจจะจำเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือที่ใช้สร้างเกมขึ้นมาใหม่แต่ต้น ซึ่งก็เป็นกระบวนการที่ยากลำบากเสมอ" "เราทำงานกันหนักมากๆ เพื่อไม่ให้ผู้เล่นต้องเห็นหน้าจอโหลดเกมแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทันสังเกติด้วยซ้ำ แต่มันถือเป็นงานที่หินที่สุดอย่างหนึ่งในการสร้างเกมนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบฉาก หรือการจัดวางเหตุการณ์หรือสถานที่ในเกม เพื่อให้เราสามารถโหลดฉากต่อไปได้อย่างแนบเนียน ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการที่ผู้เล่นไม่ได้เห็นหรอก แต่เมื่อเรารู้ว่าเราจะไม่ต้องหั่นฉากหรือจัดเรียงฉากแบบหนึ่งเพื่อซ่อนการโหลดเกมเพราะ SSD ของคอนโซลใหม่ มันก็เปลี่ยนวิธีคิดของเราไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งผมและทีมงานรู้สึกตื่นเต้นมาก ที่จะได้สำรวจความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่คอนโซลรุ่นใหม่จะมอบให้เรา" อย่างไรก็ดี คงต้องรอกันไปอีกซักพักกว่าจะได้เห็นผลงานต่อไปของค่าย Naughty Dog ด้วยกระบวนการพัฒนาอันหนักหน่วงและยาวนานของเกม The Last of Us Part II ที่ทำให้ผู้พัฒนาของค่ายจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลากันเป็นชีวิตประจำวัน จึงไม่น่าแปลกถ้าทางค่ายจะอยากให้พนักงานได้มีโอกาสพักผ่อนหย่อนใจกันซะก่อน แล้วค่อยกลับมาสร้างผลงานใหม่สำหรับ PlayStation 5 เมื่อพร้อมทั้งกายใจอีกครั้ง Credit: Gamingbolt
01 Jul 2020
The Last of Us Part ll เคยมีความเป็น Open world มากกว่านี้
เช่นเดียวกับผลงานส่วนใหญ่ที่ผ่านมาจากผู้พัฒนา Naughty Dog เกม The Last Of Us Part ll จะดำเนินไปค่อนข้างเป็นเส้นตรง โดยมีพื้นที่กว้างๆ ให้ได้ลองสำรวจอยู่เพียงประปรายเท่านั้นตลอดทั้งเกม แต่รู้หรือไม่ว่าครั้งหนึ่ง เกม The Last of Us Part II เคยมีสภาพเป็นเกมกึ่ง Open World มาก่อน! "ในตอนต้นๆ ของการพัฒนา เราวางแผนให้เกมมีลักษณะเป็น Open World โดยผู้เล่นจะใช้เวลาในเกมส่วนใหญ่อยู่ใน แจ๊คสัน" ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann กล่าวในบทสัมภาษณ์กับสื่อ IGN ในเกม The Last Of Us Part ll เวอร์ชั่นที่วางจำหน่ายจริง เมือง แจ๊คสัน เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่ให้ผู้เล่นได้สำรวจแบบผ่านๆ ในช่วงต้นเกมเท่านั้น แต่ในเกมเวอร์ชั่นแรกสุด เมือง แจ๊คสัน จะเปรียบเสมือน "ฐานทัพ" ที่ผู้เล่นจะมารับภารกิจ ก่อนที่จะออกไปสำรวจโลก Open World รอบๆ เมืองนั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ตัวละครแอ๊บบี้จะมาเข้าร่วมชุมชนผู้รอดชีวิตของเราอีกด้วย "แอ๊บบี้จะถูกแนะนำในฐานะสมาชิกใหม่ของชุมชนแจ๊คสัน และผู้เล่นจะได้รับบทเป็นแอ๊บบี้ตั้งแต่ต้นเกม จนถึงจุดที่เธอหักหลังโจเอลในช่วงกลางเกม แต่เราก็ต้องเปลี่ยน เพราะการตายของโจเอลเปรียบเสมือนตัวจุดชนวนการเดินทางของเอลลี่ และเราอยากให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นๆ มากกว่า" คุณ Neil อธิบายต่อไปว่าจริงๆ แล้ว บทบาทของตัวละครแอ๊บบี้ถูกปรับลดลงเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาการพัฒนา เพราะผู้พัฒนายังต้องการให้เนื้อเรื่องนี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเอลลี่และโจเอลอยู่ "ตัวละครแอ๊บบี้นี่แหละ ที่ทำให้เราตัดสินใจใส่สาส์นเกี่ยวกับความเห็นแกเห็นใจ ซึ่งเรารู้สึกว่าสามารถใช้เอลลี่และโจเอลในการเล่าได้ไม่ต่างกัน บทบาทของตัวละครแอ๊บบี้จึงถูกปรับลดลงเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าอยู่ในจุดที่เพียงพอให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นเหตุการณ์จากมุมมองของเธอได้เท่านั้น" The Last Of Us Part ll พร้อมให้เล่นกันแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: IGN
30 Jun 2020
ไกด์แนะนำจุดเก็บอาวุธและไอเทมในเกม The Last of Us Part II
กระแสกำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องเลยครับสำหรับเกมที่เป็นยิ่งกว่าเกมอย่าง The Last of Us Part II ซึ่งวันนี้ผใจะไม่มาพูดถึงเนื้อเรื่อง จะไม่ได้มารีวิว แต่...ผมจะมาแนะนำจุดเก็บอาวุธ จุดซ่อนของไอเทมต่างๆ ภายในเกมกันครับ ซึ่งใครที่ยังหาคำตอบไม่ได้หรือยังไม่รู้ว่าอาวุธแบบนี้มันมีให้เราด้วยหรือ? ที่นี่มีคำตอบให้ทุกคนแล้วครับใครอยากรู้แล้วมาดูกันเลย! 1.ปืนลูกซองปั๊ม Pump Shotgun Westlake Bank (Seattle Day 1, Downtown) ในช่วงที่ผู้เล่นกำลังสำรวจตัวเมือง เราจะได้พบกับธนาคารให้เข้าไปภายในนั้นครับ แต่ตอนเช้าไปต้องเตรียมรับมือปะทะกับพวกผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ( จะมีทั้ง Clickers และ Runners ปนๆ กันไป ) ทีนี้ให้มุ่งไปที่ห้องนิรภัยครับ ให้ลองค้นหาตามซากศพนะครับแล้วเราจะเจอรหัสเปิดประตู ( ถ้าใครขี้เกียจหารหัสคือ 602306 ) หลังจากนั้นผู้เล่นจะพบกับปืนลูกซองปั๊มที่อยู่กับศพครับ. 2.ระเบิดสตั๊น Stun Bomb (FEDRA building, Seattle Day 1, Downtown) ในช่วงที่กำลังทำภารกิจค้นหาน้ำมันที่ตึก FEDRA ให้ผู้เล่นมองหาป้ายสีแดงที่เขียนว่า "Fuel Distribution" ให้มุ่งไปทางนั้นครับ ให้เราคลานลอดผ่านตรงนั้นแล้วให้เลียวขวาได้เลยครับ ปีนไปทางบันไดหอคอยสังเกตการณ์ ผู้เล่นก็จะผมกับระเบิดสตั๊นบริเวณนั้นครับ. 3.ซองปืนสั้น Short Gun Holster (Barkos Pet Shop, Seattle Day 1, Downtown) เริ่มจากบริเวณ Courthouse ให้ผู้เล่นเดินไปทางทิศเหนือแล้วจะเจอร้านกาแฟเล็กๆ ครับ ( สังเกตเครื่องหมายบนมินิ-แมพก็ได้นะครับ จะเป็นรูปช้อนส้อม ) ให้ทุบกระจกหน้าต่างแล้วเดินเข้าไปภายในร้านตรงไปด้านหลัง แต่ตอนนี้ผู้เล่นจะโดน Runner จั้มสแกร์บริเวณห้องน้ำครับ ให้เราฆ่ามันเพราะมันจะดร็อปกุญแจร้านสัตว์เลี้ยง Barkos ตอนนั้นเครื่องหมายของร้านจะขึ้นบนแผนที่ ให้เรานำกุญแจไปไขประตูด้านข้างแล้วตรงไปยังเคาท์เตอร์ ตรงนี้เราก็จะได้รับซองปืนสั้นไปใช้ได้เลยครับ 4.ซองปืนยาว Long Gun Holster (Seattle Day 2, Hillcrest) ขอเตือนก่อนนะครับว่า ถ้าผู้เล่นมาบริเวณนี้ครั้งแรกจะต้องเจอกับพวกสุนักดมกลิ่ม หลังจากจัดการพวกมันเสร็จให้เราเดินไปทางซ้าย ผ่านอาคาร ลัดรั้วไปจนพบโรงจอดรถเล็กๆ ครับ หลังจากนั้นให้เราลากถังขยะเพื่อเปิดประตู ตรงนี้จะเจอพวกผู้ติดเชื้อประมาณ 3 ตัว ตรงนี้บอกไว้กันผู้เล่นตกใจนะครับ555 ให้ฆ่ามันทิ้งไปเลย หลังจากนั้นให้เดินเข้าไปภายในอาคารเราก็จะพบตู้เซฟที่ล็อคอยู่ ( รหัสจะอยู่ที่แถบทางม้าลาย แต่ถ้าขี้เกียจหา ผมบอกให้เลยครับ 555 รหัสคือ 30-82-65 ) เมื่อเปิดผู้เล่นก็จะได้รับซองปืนยาวทันทีครับ. 5.ระเบิดประดิษฐ์ Trap Mine (Seattle Day 1, Capitol Hill) ในช่วงหลังจากการหลบหนีพวกกลุ่ม WLF ผู้เล่นจะพบกับ Motel ครับให้หันไปทางขวาแล้วจะพบกับถังขยะใบใหญ่ที่สามารถเคลื่อนที่มันได้ ให้ลากไปยังบริเวณระเบียงหน้าต่างชั้น 2 แล้วกระโดดขึ้นไป ในจุดนี้สามารถแวะฟาร์มห้องอื่นๆ ก่อนได้นะครับ จากนั้นให้เรามุ่งไปยังห้องที่มีเตียงจะพบกับระเบิดประดิษฐ์ที่ทำจากที่ดักหนู หรือเรียกตามในเกมก็ได้ครับว่า Trap Mine. 6.ธนู Bow (Seattle Day 2, Hillcrest) ในช่วงเกือบจบของบท Hillcrest ผู้เล่นจะต้องรับมือกับฝูงผู้ติดเชื้อและเมื่อจัดการพวกมันสำเร็จ ผู้เล่นจะได้รับธนูจากพวกผู้ติดเชื้อนั่นแหละครับ แล้วสามารถทดสอบยิงกับเป้าหุ่นในบริเวณนั้นได้อีกด้วย . 7.ระเบิดแสวงเครื่อง Pipe Bomb (Seattle Day 1, On Foot) เมื่อผู้เล่นไปถึงร้านฮาร์ดแวร์ แมนนี้จะแนะนำให้เรารู้ว่ามีวัตถุดิบบนรถเข็นที่สามารถใช้ในการทำระเบิดแสวงเครื่องได้ โดยจุดนี้จะอยู่ในโหมดเนื้อเรื่องที่ผู้เล่นทุกคนจะต้องเจอเหมือกันหมดครับ. 8.ปืนพกล่าสัตว์ Hunting Pistol (Seattle Day 1, On Foot) หลังจากที่ผู้เล่นทำการประชุมบนเรือเสร็จ ให้ผู้เล่นลงมาจากหลังคา และจะเห็นอาคารเล็กๆ ที่อยู่ถัดจากอาคารขนาดใหญ่หลังหนึ่ง เมื่อเข้าไปจะพบบันทึกเกี่ยวกับรหัสตู้เซฟ จากนั้นให้มุดเข้าไปที่รอดแตกของอาคารหลังใหญ่ข้างๆ อาคารเล็กครับเราจะพบตู้เซฟให้ใส่รหัสที่เราได้มา ( บอกให้ๆ 555 รหัสคือ 17-38-07 ) เมื่อเปิดตู้เราจะพบกับปืน Hunting Pistolสุดเท่เอาไปไล่ยิงพวกผู้ติดเชื่อ! 9.ปืนลูกซอง Shotgun (Seattle Day 1, Behind Enemy Lines) เมื่อผู้เล่นเข้าสู่ถนนบนซอยเล็กๆ ให้เดินไปยังร้านขายของเก่าทางขวามือนะครับ ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปในร้านตรงๆ ได้ วิธีเข้าไปในร้านคือผู้เล่นจะต้องเข้าทางร้าน Ruby Dragon แล้วขึ้นไปที่บันได ก็จะเจอ Cliceker 2 ตัว จุดนี้แล้วแต่เรานะครับว่าจะฆ่ามัน หรือแอบย่องหลบออกไป พอเข้าไปในร้านขายของเก่าได้แล้วผู้เล่นจะต้องเจอกับ Runner ประมาณ 3-4 ตัว ครับฆ่าได้ก็ฆ่า ฆ่าไม่ได้ก็ย่องไปที่ด้านหลังเคาท์เตอร์แล้วเก็บปืนลูกซองหนีออกมา แต่ผู้เป็นผมพอได้ปืนลูกซองก็ขอเอาไปลองกับพวก Runner ซักนัดสองนัดก่อนนะครับ555.   10.ซองปืนสั้น Short Gun Holster (Seattle Day 1, Hostile Territory) ตรงนี้ง่ายมากครับ พอเราได้ปืนลูกซองเสร็จแล้ว ให้ผู้เล่นเดินไปที่รถตู้ของพวกรถตู้ของพวก Seraphite ( กลุ่มต่อต้านคลั่งลัทธิ )  แล้วให้มุ่งไปทางอาคารด้านขวามือ แล้วที่ห้องด้านหลังผู้เล่นจะพบกับซองปืนสั้นอีก 1 ซองง่ายมากก ก.ไก่ล้านตัว. 11.ซองปืนยาว Long Gun Holster (Seattle Day 1, The Coast) ชิ้นนี้ก็ง่ายไม่แพ้หัวข้อด้านบนครับ เมื่อถึงช่วงที่ผู้เล่นได้ช่วยเหลือ Lev และ Yara ให้ปลอดภัยจากผู้ติดเชื้อและพวก Seraphite ได้แล้ว ให้ไปยังอาคารข้างๆ ของผู้เล่น เมื่อเข้าไปแล้วให้ปีนขี้นไปด้านบนแล้วกระโดดข้ามหน้าต่างออกไปเมื่อออกไปแล้วก็จะเจอซองปืนยาวเลยครับ. 12.หน้าไม้ Crossbow (Seattle Day 1, The Coast) เมื่อผู้เล่นดำเนินเนื้อเรื่องไปจนถึงฉากเรือข้ามฟากและผ่านช่วงที่ Abby ตกน้ำได้ ช่วงนั้นผู้เล่นจะได้รับหน้าไม่ตามลำดับเนื้อเรื่องเลยครับไม่ต้องไปหารหัสตู้ หรือลัดเข้าห้องนู้นห้องนี้. 13.ปืนไฟ Flamethrower  (Seattle Day 2, The Descent) หลังจากถึงช่วงที่ผู้เล่นตกลงมาจากสะพานแขวนพร้อมกับ Lev และตอนนั้นต้องใช้หน้ากากกันแก๊สพิษด้วยนะครับ ให้ผู้เล่นเดินไปหาปืนไฟบนโซฟาที่ชั้นล่างของโรงแรมไดเลยครับ แต่จากการสำรวจผู้เล่นพบว่าปืนไฟมันจะสุ่มเกิดอีกจุดหนึ่งคือในห้องน้ำ และโซฟาทั้งสองที่นี้ครับ. 14.ปืนกลเบาเก็บเสียง Silenced submachine gun (Santa Barbara, Pushing Inland) ปืนนี้จะได้รับตามเนื้อเรื่องในช่วงที่ Ellie มุ่งหน้าไปยัง Santa Barbara และพบกับพวก Rattler ( กลุ่มติดอาวุธที่ชอบลักพาตัวมาเป็นทาส ) โดยอาวุธชนิดนี้ผู้เล่นจะไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้เลยนะครับ แต่หลังจากที่เห็นประสิทธิภาพของมันผมก็รู้เลยว่าปืนมันดีอยู่แล้วไม่ต้องใส่อะไรเพิ่มไปเลยครับ. ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.gamesradar.com/uk/the-last-of-us-2-weapons-gear-items/?fbclid=IwAR1oskA0bA5pqYORTUD9mO8XYVNJX58bLlYLfcYjlAdcX7XcUUDAS098Eo8
29 Jun 2020
เปรียบเทียบกราฟิก The Last of Us Part II ในงาน E3 2018 กับปัจจุบัน!
เกมในยุคหลังๆ มานี้นั้นมักจะมีการลดคุณภาพของกราฟิกลงหลังจากที่เปิดตัวด้วยภาพสุดยิ่งใหญ่อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งเกมดูเหมือนว่าสุดยอดเกมขายดีอย่าง The Last of Us Part II ของ Naughty Dog เองก็หนีไม่พ้นในเรื่องนี้เช่นกัน ได้มีการปล่อยวิดีโอเปรียบเทียบคุณภาพกราฟิกจาก ElAnalistaDeBits ที่แสดงให้เห็นถึงกราฟิกของตัวเกมปัจจุบันกับในงาน E3 2018 ว่ามีความแตกต่างบางอย่างรวมถึงรายละเอียดของใบหน้าที่ลดลง, แสงและเงาของวัตถุ รวมถึงตัวละครที่อยู่ใกล้เคียง และอื่นๆ ในบางทีสภาพแวดล้อมบางอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แม้ว่าเกมนี้จะยังดูดี แต่ความแตกต่างระหว่างสองปีนี้ก็มีความชัดเจนอย่างมาก รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ แม้ The Last of Us Part II จะมีการลดคุณภาพกราฟิกของตัวเองลง แต่มันก็เป็นการเปิดตัวเกมที่ยิ่งใหญ่ และสามารถเอาชนะความนิยมของเกม Animal Crossing: New Horizons ได้ Credit : Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
23 Jun 2020
ผู้พัฒนาอื่นๆ ร่วมแสดงความยินดีกับการวางจำหน่าย The Last of Us Part ll
ถือเป็นการรอคอยอย่างยาวนานกับเกม The Last of Us Part ll ที่ล่าสุดได้วางจำหน่ายให้ผู้เล่นได้เล่นกันไปแล้ว ตัวเกมได้รับความนิยมและเสียงชมจากผู้เล่นในภาคก่อนๆ ที่ทางผู้พัฒนา Naughty Dog ภูมิใจนำเสนอตัวเกมนี้อย่างมาก และถือเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบผลสำเร็จอย่างมาก SONY จาก Santa Monica, Bend Studios, Sucker Punch และ Media Molecule สื่อภาพยนต์รวมไปถึงค่ายเกมใหญ่ๆ ต่างออกมาโพสต์ภาพแสดงความยินดีกับตัวเกม The Last of Us Part ll ในวันที่ตัวเกมวางจำหน่ายวันแรก และได้ผลตอบรับที่ดีจากทางแฟนๆ โดยพวกเขานั้นได้แสดงความยินดีผ่านการโพสต์ภาพวาดที่อยู่ทางด้านล่างนี้ ตัวเกม The Last of Us Part ll วางจำหน่าย และพร้อมให้ผู้เล่นได้เล่นแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น !! Congratulations to all of our friends over at @Naughty_Dog on the long-awaited release of #TheLastofUsPartII! Mind if we hitch a ride? #TLOU2 #DaysGone pic.twitter.com/ao71x8yhrr — Bend Studio #DaysGone (@BendStudio) June 19, 2020 “I will never have friends like the ones I have with PlayStation. Jesus, does anyone?” Huzzah my @Naughty_Dog friends. What you have done is nothing short of astonishing. It made me tense, anxious, excited, sad and jealous I didn’t make it. Proud of you.❤️ Image: Luke Berliner pic.twitter.com/izZSeHT3Qu — Cory Balrog ? (@corybarlog) June 19, 2020 A gigantic and well-deserved CONGRATULATIONS to our friends at @Naughty_Dog on the launch of #TheLastofUsPartII today! We cant wait to play all weekend! (art by Sucker Punch artist @EdwardPun1!) pic.twitter.com/MmGgwuZT08 — Ghost of Tsushima ? July 17 (@SuckerPunchProd) June 19, 2020 From everyone at Media Molecule, congratulations to @Naughty_Dog on launch day! This art piece was created by our Art Director, Kareem Ettouney, in #DreamsPS4. #MadeInDreams ?? pic.twitter.com/3f78pn3SY4 — Media Molecule (@mediamolecule) June 19, 2020 Credit : Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
22 Jun 2020
Tips & Tricks: 10 ทริคเอาตัวรอดในเกม The Last of Us Part II
หลังจากที่รอมาแสนนาน ในที่สุดเกม PS4 Exclusive ที่ทุกคนรอคอยอย่าง The Last of Us Part II ก็ได้วางจำหน่ายให้ทุกคนได้เล่นกันแล้วในขณะนี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเล่นเกมจนจบแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ที่นี่) และแม้ว่าเกม The Last of Us Part II จะไม่ได้ซับซ้อนหรือยากมากเท่ากับเกมอีกหลายเกมในตลาด แต่เกมก็มีความตื้นลึกหนาบางของตัวเอง ที่ทำให้การต่อสู้ของเกมอาจจะท้าทายมากสำหรับผู้เล่นหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่อาจจะไม่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกมาก่อนด้วย เพื่อช่วยให้ประสบการณ์เล่นเกมของเพื่อนๆ เป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด เราจึงได้รวบรวมข้อแนะนำจำนวนหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่าช่วยเราได้มากในขณะที่เล่นเกม ลองไปดูกันเลย! พกขวดหรือก้อนอิฐติดตัวไว้ตลอดเวลา ระหว่างที่เดินทางไปในเกม The Last of Us Part II จะมีขวดแก้วหรืออิฐบล๊อคให้เก็บได้ตามทาง ซึ่งหลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่อยากจะบอกว่าพวกขวดและอิฐเหล่านี้นี่แหละ เป็นอุปกรณ์เอาตัวรอดชั้นเยี่ยม ที่สามารถช่วยให้เราเอาชนะศัตรูทั้งเหล่ามนุษย์และผู้ติดเชื้อได้ และมีวิธีใช้ที่หลากหลายด้วยกัน ข้อแรก ศัตรูในเกมนี้จะมีปริมาณเยอะมากๆ แถมฉากหลายฉากยังมีลักษณะเป็นที่โล่งกว้างที่ลอบเร้นผ่านลำบาก เพราะมีศัตรูเฝ้าดูอยู่แทบทุกทาง การใช้ขวดปาเพื่อหันเหความสนใจของศัตรูให้เราลอบเร้นผ่านไปได้ จึงเป็นทางเลือกที่ต้องใช้บ่อยกว่าที่หลายคนอาจจะคิดกัน อย่างที่สอง ศัตรูมนุษย์กลุ่ม W.L.F. จะมีลูกเล่นที่น่ากลัวอยู่ในฐานะสุนัขดมกลิ่น ที่ศัตรูมักใช้ในการตามหาตัว Ellie อย่างแม่นยำจากจุดไหนก็ได้ในแผนที่ แถมการจะฆ่าสุนัขแบบเงียบๆ ก็ทำได้ยากกว่าที่คิด เพราะสุนัขมักจะมีมนุษย์คอยเดินประกบด้วยตลอด ที่รู้ได้เสมอว่าเรายิงสุนัขของมันจากทิศทางไหนแม้จะใช้อาวุธไร้เสียงอย่างธนูก็ตาม แต่ถ้าเราปาขวดหรืออิฐเมื่อสุนัขอยู่ใกล้พอ จะทำให้สุนัขเลิกดมกลิ่นเราแล้วไปสนใจตำแหน่งที่เราปาขวดไปแทน ทำให้เรามีเวลาสร้างระยะห่างมากขึ้น อย่างสุดท้าย เกมภาค 2 จะมีระบบใหม่ ที่ทำให้เราสามารถปาขวดหรืออิฐใส่ศัตรูเพื่อให้มันชะงัก และวิ่งเข้าไปปลิดชีพในระยะประชิดได้ทันที ซึ่งทริคนี้ใช้ได้กับทั้งมนุษย์และผู้ติดเชื้อ และสามารถช่วยให้เราเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้เป็นอย่างดี จงมีอุปกรณ์ทุกชนิดติดตัวอย่างน้อย 1 ชิ้น โดยเฉพาะระเบิดไฟ ในเกม The Last of Us Part II จะมีอุปกรณ์หลายชนิดที่ผู้เล่นสามารถสร้างขึ้นมาได้จากสิ่งของในฉาก เช่นระเบิดไฟ (Molotov Cocktail) ระเบิดควัน หรือกระทั่งกระบอกเก็บเสียงปืน ซึ่งแน่นอนว่าล้วนมีประโยชน์ในสถานการณ์ที่ต่างกันไป การมีไอเทมทุกชิ้นติดตัวเอาไว้อย่างละชิ้นจึงเป็นความคิดที่ดี เพราะเราจะสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง อุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เราอยากเน้นเป็นพิเศษคือระเบิดไฟ (Molotov Cocktail) ที่ผู้เขียนมีติดตัวเต็ม 3 ขวดแทบตลอดเวลา และสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายสถานการณ์มาก อย่างแรกคือการที่เกมนับระเบิดไฟเหล่านี้เป็น “อาวุธเงียบ” หมายความว่าเราสามารถปาขวดใส่ศัตรูจากที่กำบังได้โดยที่ไม่ถูกเปิดเผยตำแหน่ง (ต่างกับการใช้ปืน) ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาต้องกำจัดสุนัขดมกลิ่น เพราะเราจะสามารถกำจัดทั้งสุนัขและคนจูงได้ด้วยระเบิดลูกเดียว (ถ้าทำใจฟังเสียงน้องหมาร้องโหยหวนได้นะ…) นอกจากนี้ ระเบิดขวดถือเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อกรกับเหล่าผู้ติดเชื้อด้วย ด้วยจำนวนของผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นมาก หมายความว่าการต่อสู้ด้วยปืนและการโจมตีระยะประชิดทำได้ยาก เพราะเสี่ยงกระสุนหมดหรือโดนรุมตายซะก่อน วิธีง่ายๆ ในการรับมือกับฝูงผู้ติดเชื้อจึงเป็นการใช้ระเบิดไฟในการกำจัดศัตรูทั้งกลุ่มพร้อมกัน โดยเมื่อศัตรูผู้ติดเชื้อโดนไฟ จะทำให้พวกมันหยุดอยู่กับที่ชั่วขณะนึงด้วย ทำให้เรามีเวลาค่อยๆ เล็งปืนมากขึ้น และประหยัดกระสุนได้มากขึ้นนั่นเอง สุดท้ายนี้ ระเบิดขวดยังมีคุณสมบัติในการสร้างเสียงล่อไม่ต่างจากขวดแก้วธรรมดา หมายความว่าถ้าเราปาระเบิดขวดลงไปยังจุดหนึ่ง จะทำให้ผู้ติดเชื้อในพื้นที่วิ่งตามเสียงแก้วแตกมาโดนไฟคลอกตายเองด้วย ซึ่งช่วยให้การลอบเร้นผ่านศัตรูผู้ติดเชื้อง่ายขึ้นมาก แม้จะต้องเผชิญศัตรูขนาดใหญ่อย่าง “แชมเบลอร์” ก็ยังใช้ทริคนี้ได้เช่นกัน (แต่อาจต้องใช้หลายขวดหน่อยนะ) การสำรวจในเกมนี้สำคัญมาก! อันนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่น่าต้องบอก แต่ก็จะบอกไว้อยู่ดีเพื่อเน้นย้ำความสำคัญ แน่นอนว่าการสำรวจจะทำให้เราสามารถเก็บทรัพยากรณ์หรือกระสุนได้ แต่ที่สำคัญกว่านั้น การสำรวจยังอาจจะทำให้เราพบกับตำราอัพเกรด หรือกระทั่งอาวุธและอุปกรณ์ใหม่ๆ ที่อาจพลาดไปเลยได้ การสำรวจทุกซอกทุกมุมของฉากอย่างละเอียดจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำทุกครั้งที่เข้าสู่พื้นที่เปิดที่เกมให้เราสำรวจได้อย่างอิสระ ยกตัวอย่างในช่วงต้นๆ เกม ในขณะที่กำลังสำรวจฉาก ผู้เขียนได้บังเอิญพบทางเข้าไปยังอาคารร้างแห่งหนึ่ง ที่มีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหญ่อยู่ข้างใน แต่เมื่อกำจัดผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ ผู้เขียนก็พบกับซองปืนยาว ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถใส่ปืนยาวพร้อมกันได้สองกระบอก ซึ่งเล่นจนจบเกมแล้วก็ยังไม่มีให้เก็บอีก จึงเป็นไปได้ว่านี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้เก็บไอเทมชิ้นนี้ก็เป็น อีกกรณีคือปืนลูกซอง ที่ผู้เขียนพบในอาคารร้างใกล้ๆ กัน ซึ่งถ้าเล่นไปตามเนื้อเรื่องปกติ กว่าจะเก็บลูกซองได้ก็ปาไปกลางเกมเลยทีเดียว การสำรวจจึงช่วยทำให้การเล่นเกมโดยรวมง่ายขึ้นได้ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือตำราอัพเกรด ที่บางเล่มมักจะพบได้ในพื้นที่ลับเหล่านี้เท่านั้น โดยตำราแต่ละเล่มจะปลดล๊อคสายอัพเกรดตัวละครทั้งสายเลยทีเดียว การพลาดตำราไปซักเล่มจึงอาจจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่น และทำให้เกมเล่นยากขึ้นมาก เช่นตำราเล่มหนึ่งที่ปลดล๊อคอัพเกรดสาย “ลอบเร้น” ที่ทำให้เราสร้างลูกธนูเพิ่มด้วยตัวเองได้เป็นต้น ทำให้ผู้เล่นควรให้ความสำคัญกับการสำรวจมากกว่าในเกมภาคแรกซะอีก อย่ากลัวที่จะใช้ปืน… สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่นเกม TLoU2 หรือเกมแนว Survival Horror หลายๆ เกมน่าจะเคยชินกัน คือการหลีกเลี่ยงการใช้ปืนให้มากที่สุด เพื่อรักษากระสุนอันล้ำค่าเอาไว้ใช้ในเวลาที่จำเป็นจริงๆ ผู้เขียนเองในช่วงต้นๆ เกมก็ยังติดนิสัยนี้ และแทบจะไม่ใช้ปืนเลยในช่วงแรกๆ ของเกม ซึ่งก็ทำให้ผ่านช่วงต้นเกมไปอย่างยากลำบากกว่าที่จำเป็นมาก เพราะศัตรูในแต่ละฉากก็เยอะกว่าภาคแรก แถมยังหูตาไวกว่ากันมาก ทำให้การลอบเร้นอย่างเดียวเป็นอะไรที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย วิธีการเล่นที่ได้ผลที่สุดสำหรับผู้เขียน คือการเคลื่อนที่ตลอดเวลา และใช้ปืนในการสังหารศัตรูจากระยะไกลเมื่อมีโอกาส ก่อนที่จะย้ายตำแหน่งเพื่อเริ่มการลอบเร้นอีกครั้ง ซึ่งก็ทำให้ศัตรูมัวแต่ยุ่งกับการลาดตระเวนพื้นที่ที่ผู้เขียนยิงปืนไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ศัตรูในเกม TLoU2 ยังมักจะดรอปกระสุนปืนที่ถืออยู่ลงมาเมื่อตายด้วย ทำให้เราสามารถเก็บกระสุนที่ใช้ไปคืนมาได้ ตราบใดที่เราเลือกยิงอย่างระวังและแม่นยำพอ ...แต่อย่าใช้ลูกซองถ้าไม่จำเป็น ถ้าจะมีปืนซักกระบอกที่ควรเก็บเอาไว้ในยามจำเป็นจริงๆ ก็คือปืนลูกซองนั่นเอง เพราะปืนลูกซองเป็นปืนที่สามารถปลิดชีพศัตรูในกระสุนนัดเดียวได้อย่างสม่ำเสมอที่สุด และมีประโยชน์มากในจังหวะที่โดนรุม ที่เราจำเป็นต้องกำจัดศัตรูในบริเวณใกล้เคียงโดยเร็วที่สุด อีกหนึ่งเหตุผลที่ควรเก็บลูกซองเอาไว้คือเหล่าศัตรูผู้ติดเชื้อ ที่มักจะพากันวิ่งเข้าหา Ellie ตรงๆ ทีละหลายตัว แถมบางครั้งยังอาจมีคลิ๊กเกอร์ ที่จะฆ่าเราทันทีที่จับตัวเราได้ผสมโรงมาด้วย การใช้ปืนลูกซองจึงทำให้เราสามารถกำจัดศัตรูเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากกว่าปืนชนิดอื่นๆ นั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อชนิดสตอล์คเกอร์ ที่มักจะซ่อนตัวเพื่อลอบโจมตีเรา พร้อมกับส่งเสียงเรียกเพื่อนมารุมอีก ซึ่งปืนลูกซองจะทำให้เราสามารถกำจัดศัตรูเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจะได้มีเวลาหนีออกจากพื้นที่และหลบซ่อนใหม่อีกครั้งก่อนที่ผู้ติดเชื้อตัวอื่นๆ จะตามมาถึง ฟังสิ่งที่ศัตรูพูดให้ดี! อย่างที่หลายคนน่าจะทราบแล้ว ศัตรูมนุษย์ในเกม TLoU2 จะมีความฉลาดมากขึ้นพอสมควร แถมทุกตัวยังจะมีชื่อของตัวเอง ที่ศัตรูตัวอื่นๆ ใช้ขานเรียกกันตลอดเวลา นั่นหมายความว่าศัตรูจะรู้ได้ทันทีเมื่อเพื่อนของพวกมันหายไป และรู้ด้วยว่าคือเพื่อนคนไหน และเพื่อนคนนั้นควรลาดตระเวนอยู่แถวไหน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความ “สมจริง” และ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับ NPC เหล่านี้ด้วย   วิธีหนึ่งในการลอบสังหารศัตรู โดยไม่ทำให้ศัตรูตัวอื่นๆ รู้ตัว ก็คือการรอให้ศัตรูตัวเป้าหมายขานตอบที่เพื่อนเรียกเสียก่อนจะลอบสังหารมัน ซึ่งจะทำให้เพื่อนๆ ของมันไม่รู้ว่ามันหายไป จนกว่าจะทำการขานเรียกอีกครั้ง หรือมีคนเข้ามาพบศพ ซึ่งป่านนั้นผู้เล่นก็สามารถย้ายตำแหน่งไปอยู่ที่อื่นแล้ว และยังสามารถรอกำจัดศัตรูที่มาตามหาเพื่อนจากที่ปลอดภัยได้ด้วย ใช้กระบอกเก็บเสียงอย่างระวัง กระบอกเก็บเสียงสำหรับปืนพก อาจจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ในเกม ที่ช่วยให้การลอบเร้นในเกมง่ายขึ้นอย่างมาก แต่สิ่งที่ผู้เล่นหลายคนอาจจะทำพลาด คือการลืมว่ากระบอกเก็บเสียงปืนนั้นมีจำนวนครั้งการใช้ที่จำกัด และถ้ายิงเพลินอาจจะพลาดท่าเผยตำแหน่งตัวเองให้ศัตรูรู้โดยไม่จำเป็นได้ สำหรับกระบอกเก็บเสียงเบื้องต้น จะสามารถเก็บเสียงปืนได้เพียง 3 นัดเท่านั้น (ถ้าอัพเกรดแล้วจะได้ถึง 5 นัด) สามารถสังเกติจำนวนครั้งที่ยังใช้ได้จากหลอดข้างใต้รูปกระบอกเก็บเสียง (มุมขวาล่าง) ที่สำคัญคือการะบอกเก็บเสียงจะไม่ได้เก็บเสียงได้ทั้งหมด และศัตรูที่อยู่ในระยะใกล้กับเรามากๆ ก็จะยังคงได้ยินเสียงปืนที่เก็บเสียงอยู่ดีเช่นกัน ซ่อนศพศัตรูอย่างถูกวิธี ในเกมลอบเร้นหลายๆ เกม การซ่อนศพของศัตรูที่ถูกลอบสังหารไปแล้ว ถือเป็นส่วนสำคัญของการลอบเร้น ซึ่งแม้ว่า The Last of Us Part II จะไม่มีระบบการเคลื่อนย้ายศพเสียทีเดียว แต่ผู้เล่นก็ยังพอมีวิธีในการเลือกตำแหน่งที่ต้องการปลิดชีพศัตรูได้บ้าง เพื่อลดโอกาสที่ศัตรูตัวอื่นๆ จะมาพบศพเข้า เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก การจะลอบสังหารศัตรูในเกม TLoU2 จะมีสองจังหวะ คือการเข้าล๊อคศัตรูจากด้านหลัง ก่อนที่จะปลิดชีพศัตรูคนนั้นอีกที โดยในระหว่างที่ล๊อคคอนั้น ผู้เล่นจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะสามารถบังคับให้ศัตรูเดินไปยังตำแหน่งที่เราต้องการได้ ก่อนที่จะกดปุ่มเพื่อสังหารพวกเขาอีกที (ถ้าล๊อคไว้นานไปศัตรูจะสลัดเราทิ้งได้) โดยผู้เล่นควรพาศัตรูไปหลบหลังที่กำบัง หรือในพงหญ้าสูงเสียก่อนจะลงมือฆ่าพวกเขาถ้าเป็นไปได้ จะลดโอกาสที่ศัตรูตัวอื่นๆ จะเห็นศพเข้าจนกว่าจะเดินผ่านศพนั้นในระยะใกล้จริงๆ อีกทริคหนึ่งที่สามารถใช้ได้หลังจากล๊อคคอศัตรู คือในกรณีที่มีศัตรูมากกว่าหนึ่งตัวในพื้นที่นั้น เราสามารถล๊อคคอศัตรูเอาไว้ตัวหนึ่งเพื่อใช้เป็นโล่ห์กำบัง ก่อนที่จะปลิดชีพศัตรูอีกตัวด้วยปืนเก็บเสียง และปลิดชีพศัตรูตัวแรกด้วยมีดอีกที โดยตราบใดที่คุณสามารถปลิดชีพศัตรูที่ไม่ได้ล๊อคคอเอาไว้ได้เร็วพอ จะทำให้ศัตรูตัวอื่นๆ ไม่รู้ตัวได้ด้วย เมื่อเจอศัตรูมนุษย์ อย่าหยุดเคลื่อนที่… ด้วยความฉลาดมากขึ้นของ A.I. ศัตรู รวมไปถึงลูกเล่นอย่างสุนัขดมกลิ่น ทำให้การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II ตกต่างจากเกมลอบเร้นหลายๆ เกมในตลาด ตรงที่ผู้เล่นแทบจะไม่สามารถหยุดอยู่นิ่งๆ กับที่ได้เลย แถมศัตรูยังสามารถตอบสนองต่อการกระทำของผู้เล่นได้ เช่นถ้าพบว่ามีคนโดนลอบสังหารเยอะ ก็จะเริ่มสำรวจพื้นที่ต่างๆ เป็นคู่หรือเป็นกลุ่ม 2-3 คนแทน เพื่อให้เราไม่สามารถลอบสังหารพวกมันเงียบๆ ได้อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เอง ผู้เล่นจึงควรจะพยายามเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เพื่อหามุมเหมาะๆ ในการลอบโจมตีศัตรูจากระยะไกล โดยการเปลี่ยนตำแหน่งที่ใช้โจมตีศัตรูไปเรื่อยๆ จะทำให้พวกมันสับสนด้วยว่าควรตามหาเราตรงไหน ซึ่งก็ช่วยทำให้พวกมันแตกกลุ่มกัน และทำให้เราสามารถเก็บมันทีละตัวได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ...แต่เมื่อเจอผู้ติดเชื้อ อย่าเดินไปมามั่วซั่ว ในทางตรงกันข้าม เมื่อเจอศัตรูชนิดผู้ติดเชื้อ ผู้เล่นควรใช้เวลาใจเย็นๆ เพื่อศึกษาเส้นทางการเดินของศัตรูให้ดีเสียก่อน และควรเคลื่อนที่เฉพาะในเวลาที่จำเป็นเท่านั้น เพราะศัตรูผู้ติดเชื้อในภาคนี้จะมีประสาทไวมาก และสามารถตรวบจับตำแหน่งผู้เล่นได้จากระยะไกลกว่าที่หลายคนอาจจะคาดเอาไว้ บางทีแค่เดินเร็วไปนิดเดียวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเราแล้ว ทางที่ดีที่สุดจึงควรขยับให้น้อยที่สุด และเปลี่ยนตำแหน่งเฉพาะเมื่อมั่นใจว่าศัตรูจะไม่เห็นเราเท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อเล่นไปได้ซักพัก ผู้เล่นจะพบกับศัตรูชนิดสตอล์คเกอร์ ที่มีนิสัยตรงข้ามกับผู้ติดเชื้อชนิดอื่นๆ ตรงที่แทนที่จะวิ่งเข้าใส่ผู้เล่นตรงๆ เมื่อพบผู้เล่น พวกมันจะวิ่งหนีไปแอบซ่อนอยู่ตามฉาก เพื่อรอลอบโจมตีผู้เล่นที่เดินผ่านจุดซ่อนของมันแทน แถมยังไม่สามารถมองเห็นมันด้วย “โหมดการฟัง” เหมือนศัตรูทั่วไปได้ด้วย และในจังหวะที่ออกมาโจมตี ศัตรูเหล่านี้ยังมักจะส่งเสียงกรีดร้องออกมา ซึ่งจะเรียกเพื่อนผู้ติดเชื้อตัวอื่นๆ ในพื้นที่มาโจมตีเราด้วย ทำให้การเดินไม่ดูตาม้าตาเรือในบริเวณที่มีสตอล์คเกอร์อยู่เป็นความคิดที่ไม่ดีนัก เพราะเราอาจจะโดนมันลอบโจมตีจากที่ไหนก็ได้ แถมยังทำให้ศัตรูที่เหลือรู้ตำแหน่งเราอีก ทาเลือกที่ดีในการรับมือกับสตอล์คเกอร์คือการคอยสังเกติหาพวกมันเท่านั้น เพราะสตอล์คเกอร์มักจะหลบซ่อนด้วยการก้มลงหลังที่กำบัง ทำให้ถ้าสังเกติดีๆ ยังอาจจะพอเห็นส่วนหัวของมันโผล่ขึ้นมาเหนือที่กำบังได้ ทำให้เรารู้ล่วงหน้า และสามารถวนอ้อมไปโจมตีมันจากด้านหลังแทนได้ แต่สิ่งที่ควรระวังคือสตอล์คเกอร์ประสาทไวมากๆ การย่องเข้าไปเสียบจากด้านหลังจึงอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่พึ่งพาได้ตลอด ผู้เขียนจึงมักใช้ปืนเก็บเสียงหรือธนูในการเก็บศัตรูเหล่านี้เมื่อพบที่ซ่อน นอกจากนี้ ยังมีสตอล์คเกอร์บางตัว ที่จะพรางตัวไปกับเห็ดรา Cordyceps ที่เติบโตอยู่บนกำแพงตามฉากได้ด้วย ซึ่งเราทำได้แต่สังเกติให้ดีและกำจัดพวกมันจากระยะไกลอย่างเงียบๆ เพราะเราจะมองไม่เห็นมันในโหมดการฟัง และนี่คือ 10 ข้อแนะนำการเล่นเกม The Last of Us Part II จากประสบการณ์ของทีมงาน GameFever TH จ้าา เพื่อนๆ คนไหนมีเคล็ดลับอื่นๆ ที่อยากแบ่งปันให้เกมเมอร์คนอื่นได้รู้ด้วย อย่าลืมคอมเมนต์มาบอกกันบ้างนะ! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
19 Jun 2020
รีวิว: The Last of Us Part II "ความยุติธรรมที่ไม่มีใครต้องการ"
ในหลายๆ จังหวะ การเล่นเกม The Last of Us Part II ทำให้ผู้เขียนนึกถึงเกม PS4 Exclusive ชื่อดังอีกเกมอย่าง God of War (2018) ทั้งสองเกมมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก ตั้งแต่มุมกล้องที่ติดตามตัวละครหลักของเกมอย่างใกล้ชิดแทบจะตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครในทุกช่วงเวลาตลอดการเดินทาง รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และเกมเพลย์ระดับแนวหน้าของวงการ ที่ทำงานร่วมกันในการขับสาสน์และ “บรรยากาศ” ของเกมให้ถึงผู้เล่นอย่างชัดเจนตลอดระยะเวลาที่นั่งเล่น จนทำให้ “ประสบการณ์” โดยรวมของเกมน่าดึงดูดในระดับที่พูดได้เต็มปากว่า “วางจอยไม่ลง” เลยทีเดียว แต่ในขณะเดียวกัน แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า The Last of Us Part II เป็นผลงานวีดีโอเกมที่น่าทึ่งในหลายๆ ระดับ แต่ในความพยายามที่จะนำเสนอ “แง่มุม” อันหลากหลายมากขึ้นของผู้พัฒนา ทำให้เนื้อเรื่องของเกมขาดส่วนผสมบางอย่าง ที่ทำให้เกมอย่าง God of War (2018) หรือกระทั่งผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนา Naughty Dog เองทั้ง Uncharted และ The Last of Us ภาคแรก กลายเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ในแง่ของเนื้อเรื่อง นั่นก็คือการที่เนื้อเรื่องของเกมเหล่านั้น “มุ่งเน้น” (Focused) ไปที่เรื่องราวของตัวละครเพียงไม่กี่ตัวตลอดการเดินทางของพวกเขา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถสร้างความผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านั้น และติดตามการเจิรญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาได้อย่างเข้มข้น ทำให้เนื้อเรื่องโดยรวมขาด “น้ำหนัก” เมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ที่กล่าวไปข้างต้น  แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คงไม่สามารถบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II นั้น “แย่” หรือ “ห่วย” ได้ เพราะเอาเข้าจริง เนื้อเรื่องของเกมถูกเขียนมาอย่างลึกซึ้ง และเปี่ยมไปด้วยสถานการณ์และตัวละครที่จะทำให้คุณตั้งคำถามกับ “ความถูกต้อง” ของทั้งตัวเองและตัวละครอยู่ตลอดเวลา แถมกราฟิกอันสุดยอดของเกมยังช่วยทำให้นักแสดงมากความสามารถทั้งหลายสามารถมอบ “ความเป็นมนุษย์” ให้กับตัวละครเหล่านี้ได้ในระดับที่ผู้เขียนยังไม่เคยเห็นในเกมไหนมาก่อนเลย และทำให้คุณภาพของการแสดงและคัตซีนทั้งหมดเข้าใกล้คุณภาพระดับ “ฮอลลีวู้ด” มากกว่าเกมไหนๆ ที่ผ่านมาได้สบาย *หมายเหตุ: รีวิวฉบับนี้จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุด และจะกล่าวถึงเหตุการณ์และตัวละครในภาพกว้างเท่านั้น *หมายเหตุ 2: เนื่องจากทางผู้พัฒนากำชับมาให้ใช้ภาพประกอบที่พวกเขาส่งมาให้เท่านั้นในบทความรีวิวนี้ จึงไม่สามารถแสดงภาพบทบรรยายหรือเมนูภาษาไทยได้ ผู้ที่อยากเห็นว่าบทบรรยายของเกมหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถรับชมได้ในวีดีโอรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราแทน ◊ เนื้อเรื่อง ◊ มาพูดถึงเนื้อเรื่องให้จบๆ กันไปก่อนดีกว่า สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ เนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II จะเกิดขึ้น 4 ปีให้หลังจากตอนจบของเกมภาคแรก (ใครยังไม่เล่น แนะนำให้หามาเล่นเดี๋ยวนี้) โดยจะติดตามตัวละครเด็กสาว Ellie ผู้ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนผู้รอดชีวิตอันแสนสงบสุขในเมือง แจ๊คสัน รัฐไวโอมิ่ง แม้ว่าเธอและเหล่าชาวเมืองจะยังคงต้องเผชิญกับเหล่าผู้ติดเชื้อไวรัส Cordyceps ที่กระจายอยู่ทั่วไป และต้องคอยจัดหน่วยลาดตระเวนเพื่อดูแลความเรียบร้อยรอบๆ เมืองอยู่ตลอด แต่พวกเขาก็ยังมีพื้นที่ให้งานรื่นเริง หรือกระทั่งความรักและมิตรภาพ หลังจากที่ต้องใช้ชีวิตปากกัดตีนถีบเพื่อเอาตัวรอดมาตลอด แต่ความสงบสุขของ Ellie ก็ถูกทำลายลง เมื่อเธอต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่หลวงในขณะที่ออกลาดตระเวนวันหนึ่ง และเพื่อทวงคืน “ความยุติธรรม” บางอย่างที่ถูกพรากไปจากเธอ Ellie จึงตัดสินใจออกเดินทางจากชุมชนอันอบอุ่นของเธอ ไปยังเมือง ซีแอตเทิล เพื่อชำระความแค้นที่สุมอยู่เต็มอกของเธอ อย่างที่ผู้พัฒนาเคยกล่าวไปในบทสัมภาษณ์มากมาย เนื้อเรื่องในเกม The Last of Us Part II จะเกี่ยวข้องกับ “วังวนแห่งความรุนแรง” ที่เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์ทั้งสองฝ่ายต่างเลือกที่จะแก้แค้นกันไปกันมา โดยไม่ได้หยุดคิดเสียก่อนเลยว่า “ความแค้น” ที่ต้องชำระนั้นยังคง “สำคัญ” หรือ “คุ้มค่า” แค่ไหนเมื่อเทียบกับสิ่งที่ต้องแลกไป ซึ่งต้องบอกว่าผู้พัฒนา Naughty Dog ก็ยังคงแสดงออกถึงศักยภาพในฐานะผู้นำในด้านการเล่าเรื่อง จากบทพูดที่เขียนมาอย่างคมกริบ ไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องที่ล้วนแล้วแต่มีนัยยะ และตั้งคำถามเกี่ยวกับ “การกระทำ” ของ Ellie และตัวละครอื่นๆ ในโลกของเกมได้อย่างคมคาย ด้วยธรรมชาติของเนื้อเรื่อง ที่ต้องการจะท้าทายความคิดของผู้เล่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผู้พัฒนาตัดสินใจที่จะให้ตัวละครอื่นๆ มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลายตัว เพื่อช่วยกันเสริมทั้งโลกของเกมโดยรวม และเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงมุมต่างๆ ของ Ellie ผ่านความสัมพันธ์ที่เธอมีกับตัวละครเหล่านั้น โดยปัญหาของเนื้อเรื่องเกิดขึ้นเมื่อผู้พัฒนาใช้เวลาของเกมส่วนหนึ่งในการนำเสนอแง่มุมหรือเส้นเรื่องของตัวละครอื่นบางตัวค่อนข้างเยอะ จนทำให้เนื้อเรื่องของ Ellie ที่ควรจะเป็นแก่นหลักของเกมรู้สึก “เจือจาง” ลงไปอย่างมาก ซึ่งเป็นปัญหามากขึ้นไปอีกเมื่อเกมพยายาม “ดึงดัน” ว่าเนื้อเรื่องนี้ทั้งหมดยังคงเป็นเรื่องของ Ellie แม้ว่าซีกใหญ่ๆ ของเกมจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรง แต่ในทางกลับกัน การที่เกมให้เวลาในการสำรวจชีวิตและความคิดของตัวละครอื่นๆ เหล่านี้ ก็เปิดช่องทางให้ผู้เล่นได้รับรู้ถึงแง่มุมของโลกที่อาจจะไม่ได้เห็นในฐานะ Ellie ซึ่งก็ช่วยทำให้โลกของเกมรู้สึกกว้างและสมจริงมากขึ้น จากการค่อยๆ เรียนรู้วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปของมนุษย์กลุ่มต่างๆ หลังจากที่อารยธรรมได้ล่มสลายไปแล้วมากกว่า 20 ปี จึงอาจจะไม่ได้มีแต่ด้านลบไปทั้งหมด แต่ก็กลับไปสู่คำถามที่ว่า แล้วมันควรจะเป็นเรื่องราวของใครกันแน่ ผู้เล่นจำเป็นต้องรู้เรื่องราวเหล่านี้แค่ไหน และจะดีกว่าไหมถ้าเราใช้เวลาตรงนี้กับ Ellie และตัวละครรอบตัวเธอมากขึ้น สุดท้ายแล้ว ผู้เขียนก็ไม่ได้คิดว่าเนื้อเรื่องของ The Last of Us Part II นั้นแย่ไปเลยเช่นกัน และสุดท้ายอาจจะเป็นตัวผู้เขียนเองที่ตีความเนื้อเรื่องของเกมไม่ถูก หรือไม่ลึกพอก็เป็นได้ แต่ในตอนนี้ คงได้แต่บอกว่าเนื้อเรื่องเป็นเป็นส่วนที่น่าผิดหวังที่สุดของเกม โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าเกม The Last of Us ภาคแรกยังคงถูกกล่าวถึงในฐานะเกมที่ “ยกระดับ” มาตรฐานการเล่าเรื่องของสื่อวีดีโอเกมให้ใกล้เคียงกับภาพยนตร์ได้มากที่สุด จากการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนระหว่างตัวละครสองตัว ก็อดผิดหวังไม่ได้ที่เกมนี้ดูจะขาดเครื่องปรุงสำคัญที่เคยมีในภาคแรกไป ◊ เกมเพลย์ ◊ สำหรับผู้เขียน “เกม” มีข้อได้เปรียบประการหนึ่งในฐานะสื่อการเล่าเรื่อง ที่สื่ออื่นๆ ทั้งหนัง ทีวี หรือหนังสือนิยายไม่มี คือความสามารถในการเล่าเรื่องผ่าน “การกระทำ” ของผู้รับสื่อนั้น ซึ่งเกม The Last of Us Part II ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่งของการเล่าเรื่องผ่าน “การกระทำ” ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบเกมเพลย์ทั้งหมด ตั้งแต่การต่อสู้และลอบเร้น ไปจนถึงการสำรวจและการตามหาทรัพยากร ที่ออกมาให้ขับธีมของเนื้อเรื่อง โดยที่ยังมอบความสนุกท้าทายให้ผู้เล่นได้อย่างไม่ลดละ ตลอดระยะเวลากว่า 25 ชั่วโมงที่ผู้เขียนใช้ในการผ่านเนื้อเรื่อง แม้ว่าในภาพรวมแล้ว การเล่นเกม The Last of Us Part II จะให้ความรู้สึกคล้ายกับภาคแรกอยู่พอสมควร ด้วยการควบคุมและ “สัมผัส” ในการเล่นที่ใกล้เคียงกันมาก แต่เกมเพลย์ของ Part II โดยเฉพาะการต่อสู้ ก็ได้รับการเพิ่มเติมระบบเล็กๆ น้อยๆ เข้าไปหลายข้อ ที่ทำให้การต่อสู้ในเกมมีความท้าทายและน่าตื่นเต้นกว่าที่พบในเกมแนวลอบเร้นสายเลือดแท้หลายเกมซะอีก ฉากต่อสู้ในเกม TLoU2 (The Last of Us Part II) มักจะดำเนินไปตามลำดับที่คล้ายกัน ในตอนเริ่มต้นฉากต่อสู้ส่วนใหญ่ในเกม ผู้เล่นจะสามารถใช้ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นของ Ellie ในการหลบซ่อนจากศัตรู ที่มักจะยกโขยงกันมาเป็นกลุ่มใหญ่เสมอ ความสามารถสำคัญอย่างหนึ่งของ Ellie คือการที่เธอสามารถหมอบคลานลงไปกับพื้น เพื่อซ่อนตัวในพงหญ้าสูง หรือเพื่อหลบซ่อนใต้สิ่งของอย่างรถได้นั่นเอง โดยเมื่อใช้คู่กับความสามารถจากภาคแรกอย่าง “โหมดการฟัง” ที่ทำให้มองเห็นศัตรูผ่านกำแพงได้ ทำให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการลอบเร้นเพิ่มขึ้นจากภาคแรกพอสมควร แต่ถึงจะมีทางเลือกมากมายให้ผู้เล่น ความฉลาดที่เพิ่มขึ้นของศัตรูทั้งที่เป็นมนุษย์ รวมไปถึงลูกเล่นที่เพิ่มมาอย่างสุนัขดมกลิ่นของกลุ่ม W.L.F. ก็ทำให้การลอบเร้นผ่านศัตรูแต่ละกลุ่มไปโดยที่ไม่ถูกเจอตัวอย่างน้อยซักครั้ง แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในประสบการณ์ของผู้เขียน  อย่างที่ผู้พัฒนาเคยกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง ศัตรูมนุษย์ในเกม TLoU2 ทุกคนจะมีชื่อเป็นของตัวเอง ที่พวกมันจะใช้ขานเรียกกันเป็นระยะตลอดเวลา หมายความว่าต่อให้เราปลิดชีพศัตรูด้วยวิธีที่เงียบแค่ไหน ซ่อนศพไว้ในมุมที่เปลี่ยวแค่ไหน ไม่ช้าก็เร็วศัตรูที่เหลือก็จะรู้อยู่ดีว่าเพื่อนของพวกมันหายตัวไป แถมยังรู้ด้วยว่าเพื่อนควรจะลาดตระเวนอยู่ตรงไหน และจะยกโขยงกันมาตามหาเพื่อน (และตัวผู้เล่น) อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นต้องคอยเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้โดนเจอตัว แต่การเคลื่อนที่ก็มีสิทธิ์จะโดนศัตรูตัวอื่นเห็นได้เหมือนกัน ทำให้การลอบเร้นในเกม TLoU2 ให้ความรู้สึกเหมือนกดดันมากๆ เพราะสถานการณ์สามารถพลิกจากการลอบเร้นเงียบๆ สู่การวิ่งหลบห่ากระสุนของศัตรูได้ตลอดเวลา การต่อสู้ในเกม TLoU2 ก็ทำออกมาได้น่าตื่นเต้นไม่แพ้การลอบเร้นในเกม จากการที่มักจะมีศัตรูปริมาณเยอะมากๆ ในแต่ละฉากต่อสู้ แถมศัตรูยังฉลาดพอที่จะใช้จำนวนที่มากกว่าให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตีโอบผู้เล่นเพื่อโจมตีจากหลายมุม หรือกระทั่งการส่งทหารที่มีอาวุธระยะประชิดเข้ามาไล่ต้อน Ellie ออกจากที่กำบังให้เพื่อนยิง ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องคอยเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองตลอดเวลาเช่นเดียวกับการลอบเร้น ซึ่งก็สื่อความรู้สึกกระเสือกกระสนร้อนรนเพื่อเอาชีวิตรอดของ Ellie ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การเล็งปืนในเกมที่มักจะแม่นยำน้อยกว่าเกมยิงปืนทั่วไป บวกกับการที่ Ellie สามารถพกกระสุนปืนติดตัวได้ที่ละน้อยมากๆ (เป็นองค์ประกอบเดียวในเกมที่ไม่สมจริง) ก็ทำให้การต่อสู้ในเกมยังคงท้าทายและสมจริง ไม่ว่าผู้เล่นจะเล่นเกมยิงปืนแม่นแค่ไหนก็ตาม  ในส่วนของผู้ติดเชื้อ จะได้รับการพัฒนาในเรื่องของปริมาณ ความดุร้าย และความสามารถในการตรวจจับผู้เล่น แลกกับการที่ Ellie จะสามารถลอบสังหารเหล่าผู้ติดเชื้อได้ด้วยมีดพกของเธอ แทนที่จะต้องหาทรัพยากรมาสร้างมีดสั้นแบบที่ Joel ต้องทำในภาคแรก ซึ่งแม้ว่าโดยรวมๆ ศัตรูรันเนอร์และคลิ๊กเกอร์ที่พบได้บ่อยที่สุดจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ (นอกจากวิ่งเร็วขึ้นพอสมควร) แต่เกมก็เพิ่มมิติเข้าไปผ่านผู้ติดเชื้อชนิดอื่นๆ อย่าง “แชมเบลอร์” ที่สามารถโยนระเบิดพิษใส่เรา หรือปล่อยควันพิษรอบตัวได้ และ “สตอล์คเกอร์” ผู้ติดเชื้อที่เจอเพียงประปรายในภาคแรก แต่กลับมาพร้อมความสามารถในการหลบซ่อน และจะคอยลอบโจมตี Ellie พร้อมกับเรียกเพื่อนๆ มาช่วยอีกด้วย ซึ่งก็ล้วนเพิ่มมิติเข้าไปให้กับการต่อสู้ แม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปมากเท่ากับศัตรูมนุษย์ก็ตาม ถ้าจะมีเรื่องให้ติ คงเป็นการที่เกมไม่ได้ใช้ประโยชน์จากการที่มีศัตรูหลายๆ กลุ่มที่เป็นศัตรูกันเองในการต่อสู้ เช่นฉากหนึ่งในสถานีรถใต้ดิน ที่ให้ผู้เล่นสามารถหลอกให้ศัตรูมนุษย์และผู้ติดเชื้อในพื้นที่สู้กันเอง ซึ่งผู้เขียนมองว่าน่าสนใจมากๆ และสามารถให้ประสบการณ์การต่อสู้ที่แปลกใหม่ต่อผู้เล่นได้มากขึ้น แต่กลับมีฉากลักษณะนี้อยู่น้อยมากตลอดเกม ไหนๆ เนื้อเรื่องของเกมก็เกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างกลุ่มมนุษย์กันเองอยู่แล้ว น่าจะเพิ่มองค์ประกอบนี้ลงไปในเกมมากกว่านี้หน่อย ให้มันมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพของเกมในภาพรวม อีกมิติของเกมเพลย์ใน TLoU2 ก็คือการพัฒนาตัวละคร ที่ทำได้ผ่านการสำรวจโลกของเกมเพื่อเก็บวัตถุดิบหลากหลายชนิดมาสร้างอุปกรณ์เช่นยาหรือระเบิด หรือหาของอัพเกรด เช่นชิ้นส่วนปืนหรืออาหารเสริม เพื่อพัฒนาความสามารถของตัวละครโดยตรงด้วย ซึ่งนอกจากจะเสริมอรรถรสของการเป็นผู้รอดชีวิตในโลก Post-Apocalpyse แล้ว ยังเพิ่มเหตุผลให้ผู้เล่นเดินทางออกนอกเส้นทางหลักเพื่อสำรวจโลกของเกม เพื่อตามหาตำราที่จะปลดล๊อคสายการอัพเกรด และเพื่อปลดล๊อคเนื้อเรื่องเสริมที่มักพบได้ระหว่างทางด้วย แต่พื้นที่เสริมเหล่านี้ ก็มักจะมีศัตรูผู้ติดเชื้ออยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้เล่นต้องชั่งน้ำหนักว่าอยากจะเผชิญหน้าศัตรูเพื่อโอกาสในการเก็บของเพิ่มหรือไม่ ซึ่งก็ย้อนกลับไปเสริม “บรรยากาศ” และ “อรรถรส” ของเกมอีกที ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ อย่างที่เคยบอกไปในบทความพรีวิวเกมก่อนหน้านี้ องค์ประกอบที่น่าจะได้รับคำชมมากที่สุด และเป็นสิ่งที่มัดรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกันก็คือ “บรรยากาศ” ของเกม TLoU2 อันเป็นส่วนผสมขององค์ประกอบด้านภาพและเสียงทั้งหมด ที่ทำให้การเดินทางของ Ellie เต็มไปด้วยความตึงเครียด จากความรู้สึก “อันตราย” ที่แผ่ซ่านออกมาจากสภาพแวดล้อมในเกม  องค์ประกอบที่ดูเหมือนมีไว้แค่ “ประดับฉาก” ในเกมอื่นๆ มักมีความหมายเสมอ ในเกม TLoU2 ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยคราบเลือดหรือซากศพจากการต่อสู้ ที่บ่งบอกว่าเพิ่งมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มมนุษย์สองกลุ่ม และกลุ่มที่ชนะอาจกำลังรอคุณอยู่ข้างหน้า ไปจนถึงเชื้อรา Cordyceps ที่คืบคลานไปบนกำแพง ที่บอกใบ้ถึงกลุ่มผู้ติดเชื้อขนาดใหญ่ที่อาจยังอยู่ในบริเวณ องค์ประกอบในฉากของเกม TLoU2 ถูกออกแบบมาให้สร้างความรู้สึกเหมือนมีอะไรรออยู่ข้างหน้าเสมอ เมื่อรวมกับการออกแบบเสียงของเกม ที่มักจะใส่เสียงเล็กๆ อย่างเสียงแก้วแตก เสียงสุนัขเห่า หรือแม้แต่เสียงร้องของผู้ติดเชื้อเข้ามาอยู่เนืองๆ ก็เพียงพอจะทำให้สะดุ้งเล็กๆ ได้ตลอดเวลา เหตุผลใหญ่ๆ ข้อหนึ่งที่ฉากของเกมสามารถสร้างความตึงเครียดได้ขนาดนี้ มาจากความน่าทึ่งของกราฟิกในเกม TLoU2 ที่บอกได้แค่ว่าเหนือว่าที่ผู้เขียนคาดเอาไว้เสียอีก ตั้งแต่ความคมชัดของพื้นผิวสิ่งของต่างๆ ที่เสริมความสมจริงให้สภาพแวดล้อม ไปจนถึงหน้าตาตัวละคร ที่สามารถถ่ายทอดหน้าตาของนักแสดงจริงได้เหนือกว่าเกมอื่นในตลาดอย่างชัดเจน โดยความสมจริงของหน้าตาตัวละครยังช่วยเสริมองค์ประกอบอื่นๆ ให้มีส่วนในการสร้างบรรยากาศของเกมได้อย่างคาดไม่ถึงด้วย ถ้าจะให้ลองยกตัวอย่าง รายละเอียดเล็กๆ อย่างหนึ่งที่ผู้เขียนชอบในการต่อสู้ คือการที่หน้าตาของทั้ง Ellie และคู่ต่อสู้จะเปลี่ยนไปตลอดเวลาตามการกระทำของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความโกรธและเกลียดชังในขณะที่ยัดมีดใส่พุงศัตรู ไปจนถึงความเจ็บปวดเมื่อต้องดึกลูกธนูที่ปักอยู่ตามร่างกายทิ้ง สีหน้าที่เปลี่ยนไปของ Ellie และตัวละครอื่นๆ ในเกมระหว่างการต่อสู้ ทำให้ผู้เล่นรู้สึกได้ถึงความกระเสือกกระสนเอาตัวรอดของทั้ง Ellie และตัวละครศัตรู ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อฆ่าอีกฝ่ายและมีชีวิตรอดไปต่อไป ซึ่งก็ถูกเสริมด้วยการออกแบบเสียงของเกม เช่นเสียงโลหะกระทบเนื้อ หรือกระทั่งเสียงเลือดที่กระเซ็นไปติดกำแพง ที่มอบน้ำหนักให้กับการโจมตีของทั้งศัตรูและผู้เล่น จนในบางจังหวะก็อดรู้สึก “หวาดเสียว” แทนตัวละครในเกมไม่ได้จริงๆ นอกจากนี้ เกมยังสามารถใช้ประโยชน์ของความเป็นเกมในรูปแบบของกระดาษโน้ตทั้งหลายที่ซ่อนอยู่ตามฉาก ที่มักจะเล่าเรื่องราวของเหล่า NPC ไร้หน้าในโลกของเกม เช่นจดหมายที่เล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มผู้รอดชีวิตที่บังเอิญหลบซ่อนอยู่ในห้องอพาร์ตเมนต์ข้างๆ กัน ไปจนถึงชายชราผู้น่าสงสาร ที่ถูกลูกชายทั้งสองทอดทิ้งไปเข้ากลุ่มเซราไฟต์ ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องหลักโดยตรง แต่ก็ช่วยกันทำให้เห็นภาพของวิถีชีวิตของมนุษย์ในโลกของเกม รวมไปถึงประวัติศาสตร์ของกลุ่มศัตรูทั้ง W.L.F. และเซราไฟต์ด้วย ถ้าจะให้สาธยายกันไปอีกแปดหน้าก็คงไม่จบ กับรายละเอียดด้านการนำเสนอเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหมด ที่ร่วมกันทำให้ระบบการเล่นทุกส่วนของ The Last of Us Part II กลายเป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอเรื่องราวหรือ “ประสบการณ์” ของโลกและตัวละครในเกม และสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้กับระบบทั้งหมด เพื่อให้ผู้เล่นได้เข้าถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร รวมไปสาสน์ที่ผู้พัฒนาต้องการสื่อผ่านเนื้อเรื่องอีกด้วย เอาเป็นว่าของแบบนี้ ถ้าไม่มาลองกับมือและรับองค์ประกอบทั้งหมดของเกมพร้อมกัน มันบอกไม่ถูกจริงๆ ต่อให้รู้แค่เนื้อเรื่อง หรือเล่นแคเกมเพลย์ ก็ไม่มีวันเข้าถึงประสบการณ์เต็มของเกมได้เลย ◊ ภาษาไทย / ตัวเลือกอื่นๆ ◊ อย่างที่กล่าวไปแล้วในพรีวิว ภาษาไทยในเกม The Last of Us Part II ถือเป็นงานแปลที่คุณภาพดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นในเกมมา แน่นอนว่าอาจจะมีคำแปลผิดหรือเสียอรรถรสไปบ้าง จากการที่คำแปลไม่สามารถมีคำหยาบได้ หรือแค่จากการสื่อความหมายที่ตกหล่นไปในขั้นตอนการแปลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วก็ถือเป็นบทบรรยายไทยระดับเดียวกับที่เห็นได้ในภาพยนตร์หรือทางเว็บสตรีมมิ่งอย่าง Netflix สบายๆ  นอกจากนี้ เกมยังมีคำแปลภาษาไทยให้กับตัวหนังสือภาษาอังกฤษทั้งหมดในเกมเลย ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ตั้งแต่ป้ายบอกทางที่เอาไว้ประกอบฉาก ไปจนถึงเอกสารและจดหมายโน้ตทุกฉบับในเกม สามารถแปลไทยได้ในระดับเดียวกับบทบรรยาย ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดเนื้อเรื่องใดๆ ในเกมเด็ดขาด นอกจากตัวเลือกด้านบทบรรยาย เกมยังเปิดให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการควบคุมและระดับความยากแบบแยกหมวดอย่างละเอียด เช่นความแรงการโจมตีศัตรู พลังป้องกันศัตรู ปริมาณกระสุนที่เก็บได้ เป็นต้น ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าจะช่วยผู้เล่นได้หลายคน เพราะต้องบอกว่าเกมแอบยากเหมือนกัน ยิ่งสำหรับคนที่ไม่ชินกับเกมลอบเร้น ตัวเลือกเหล่านี้อาจจะช่วยให้คุณผ่านเกมไปได้โดยหัวไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ ผู้เขียนพบบั๊คที่ทำให้เกมไม่ยอมบันทึกการตั้งค่าปุ่มควบคุมใหม่ ส่งผลให้ผู้เขียนต้องคอยเข้าไปตั้งใหม่ทุกครั้งที่เข้าไปเล่นเกม แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ก็หวังว่าผู้พัฒนาจะสามารถแก้ไขจุดนี้ได้เมื่อเกมวางจำหน่าย ◊ สรุป ◊ แม้จะเป๋ไปบ้างในส่วนของเนื้อเรื่อง เมื่อเทียบกับเกมที่ผ่านมา แต่ TLoU2 ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเกมที่พัฒนามาได้อย่างปราณีตที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยได้เล่นมาเลย ด้วยองค์ประกอบทั้งหมด ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างพอดี และใช้ประโยชน์จาก “ความเป็นเกม” อย่างเต็มที่ คนที่ชื่นชอบ TLoU ภาคแรก โดยเฉพาะในส่วนของเกมเพลย์ ไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยประการทั้งปวง ต่อให้ไม่ชอบเนื้อเรื่อง แค่ซื้อมาเล่นเกมเพลย์ก็ยังคุ้ม บอกเลย! [penci_review id="55739"] สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
12 Jun 2020
7 สิ่งที่น่าติดตามใน The Last of Us Part II
The Last of US เป็นเกม Exclusive ของ PlayStation ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย จากการนำเสนอเรื่องราวของโลกที่ล่มสลายจากผู้ติดเชื้อที่น่ากลัว, เกมเพลย์ที่ดุเดือดสะใจ, และเรื่องราวของตัวละคร Joel และ Ellie ที่น่าติดตาม ว่าพวกเขาจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหมดไปได้อย่างไร และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้ว ที่ทาง Naugthy Dog จะสานต่อเรื่องราวการเดินทางครั้งใหม่ ด้วยการกลับมาของ Joel และ Ellie พร้อมด้วยตัวเกมที่ถูกปรับปรุงพัฒนาทุกอย่าง พร้อมด้วยเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่ง The Last of US Part II จะมีอะไรที่น่าติดตามในภาคนี้บ้าง ลองมาทบททวนกันก่อนที่จะได้สัมผัสกันได้เลย โลกหลังการล่มสลาย เรื่องราวใน The Last of US ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีการแพร่ระบาดของเชื้อรา ที่เมื่อได้เข้าไปในตัวมนุษย์ แล้ว มันก็จะทำให้พวกเขาได้กลายเป็นผู้ติดเชื้อและสูญเสียความเป็นคนไป จนเป็นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมและตามมาด้วยการล่มสลายของมนุษยชาติ The Last of US Part II จะเป็นเรื่องราวหลังจากที่โลกได้ล่มสลายไปแล้วถึง 25 ปี ซึ่งมนุษย์ล้วนต้องถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม เพื่อหลบหนีเอาชีวิตรอดจากเหล่าผู้ติดเชื้อ และกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ทำให้สถานที่ต่างๆ ในโลกนั้นเต็มไปด้วยซากปรักหักพังที่เกิดขึ้นจากความวุ่นวาย และซากตึกสูงมากมายที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและเชื้อรา จากการที่ไม่มีมนุษย์อยู่อาศัยมาเป็นเวลานาน จึงน่าติดตามว่าทาง Naugthy Dog จะสามารถบรรยากาศของโลกที่ล่มสลายนี้ ออกมาได้ดีขนาดไหนในกราฟฟิคของเกมปัจจุบัน เรื่องราวที่มาถึงจุดเปลี่ยนแปลง เนื้อเรื่องของ The Last of US Part II ได้เริ่มขึ้นหลังจาก The Last of US ภาคแรกเป็นเวลา 5 ปี หลังจากที่ Joel ได้ร่วมเดินทางกับ Ellie ในตอนนี้พวกเขาก็ได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Wyoming ภายในเมือง Jackson ท่ามกลางชุมชนผู้อยู่อาศัยที่สงบสุขนั้น Ellie ก็ได้เติบโตขึ้นจนมีอายุ 19 ปี แล้วในขณะนี้ Ellie ได้มีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนใหม่ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่แล้วเหตุการณ์อันโหดร้ายก็ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด  เมื่อเธอต้องพบกับการสูญเสียที่เกินรับได้ ตัวละครที่เลือกเดินคนละเส้นทาง Ellie ได้เติบโตขึ้นจนมีอายุ 19 ปี นั่นจึงทำให้เธอเริ่มที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตตามทางของตัวเองมากขึ้น เมื่อเธอได้พบกับการสูญเสียคนสำคัญไป Ellie จึงตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยการล้างแค้น และได้เป็นฝ่ายออกไล่ล่าพวกที่พรากสิ่งที่เธอรักไป ในขณะเดียวกัน Joel ที่ตอนนี้ได้มีอายุมากขึ้น เขาก็ยังคงรู้สึกผูกพันธ์และเป็นห่วง Ellie ซึ่งเป็นเด็กสาวที่เขาเคยพยายามปกป้องมาตลอดการเดินทาง ทำให้เขาไม่เห็นด้วยที่ Ellie จะต้องออกไปเสี่ยงตาย และใช้ชีวิตด้วยการเข่นฆ่าผู้อื่นแบบนี้ แต่แน่นอนว่า Ellie ที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของ Joel จึงทำให้ดูเหมือนเส้นทางของตัวละครหลักทั้งสองคน จะต้องแยกกันไปคนละทางในภาคนี้ซะแล้ว เกมเพลย์ที่ได้รับการปรับปรุง Ellie จะเป็นตัวละครที่ผู้เล่นได้ร่วมต่อสู้ไปด้วยกันใน The Last of US II ซึ่งเธอมีความคล่องแคล่วว่องไวมากกว่า Joel จึงสามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง, กระโดด, โหน, ปีนป่าย, รวมถึงสามารถโยกตัวหลบการโจมตี ซึ่งทำให้จังหวะการต่อสู้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น นอกจากวิธีการต่อสู้โดยปกติแล้ว Ellie ยังสามารถเข้าไปหลบในใต้ท้องรถ เพื่อหลบหนีในระหว่างที่ถูกไล่ล่าได้ และในบางครั้งก็ยังมีเหตุการณ์ที่พวกพ้องของเธอจะมาช่วยต่อสู้ ทำให้เธอไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว อีกทั้งความรุนแรงและโหดร้ายของการต่อสู้ในเกมภาคนี้ก็ยังได้ถูกเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัวอีกด้วย ศัตรูและเหล่าผู้ติดเชื้อที่จะได้พบเจอ 5 ปีผ่านไป นับตั้งแต่เรื่องราวใน The Last of US ภาคแรก ตอนนี้เหล่ากลุ่มคนหัวรุนแรงผู้ไม่หวังดี ได้บุกปล้นอาวุธจากกองทัพ และบุกยึดสถานที่ต่างๆ สร้างเป็นเขตกองกำลังของตัวเอง ซึ่งพวกเขาได้สังหารผู้ที่บุกรุกเข้ามา และออกไล่ล่าผู้ที่เหลือรอดคนอื่นอย่างไม่ใยดี จนทำให้เกิดเป็นสงครามความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนที่ยังมีชีวิตเหลือรอดขึ้นมา นอกจากศัตรูที่เป็นมนุษย์ด้วยกันแล้ว อีกศัตรูที่ผู้เล่นจะได้พบเจอก็คือเหล่าสุนัขเฝ้ายาม ซึ่งมันสามารถดมกลิ่นค้นหา และพุ่งเข้ามาโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ส่วนทางด้านเหล่าผู้ติดเชื้อหัวเห็ดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ก็ได้พัฒนาความน่ากลัวไปอีกขั้นและเกิดเป็นผู้ติดเชื้อประเภทใหม่ขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะมีประเภทที่วิ่งเข้ามาตามเสียงได้อย่างรวดเร็ว หรือประเภทที่มีลักษณะลำตัวที่ใหญ่ ก็ยังมีประเภทที่สามารถระเบิดระอองพิษออกมาจากตัวได้ด้วย การแสดงออกที่สมจริงมากขึ้นกว่าเดิม ใน The Last of US Part II ทาง Naugthy Dog ได้พยายามพัฒนากราฟฟิคให้สมจริงขึ้นมากกว่าเดิม เพื่อให้ตัวละครทุกตัว ไม่ว่จะเป็นตัวละครหลักอย่าง Ellie หรือ Joel รวมถึง NPC ศัตรูทุกตัว สามารถแสดงออกราวกับมีชีวิตจริงๆ มากขึ้น ทุกตัวละครในเกมจะมีรอยช้ำ หรือบาดแผลจากการต่อสู้เมื่อได้รับบาดเจ็บ และยังมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายเมื่ออารมณ์เปลี่ยนไป อย่างเช่นการเห็นเส้นเลือดหรือดวงตาที่เริ่มแดงก่ำขึ้นในเวลาโกรธ ไม่เพียงแต่รายละเอียดทางด้านกายภาพเท่านั้น แต่การวางบทสนทนาและการตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ยังได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งพวกเขาสามารถแสดงความรู้สึกเสียใจหรือโกรธแค้น เมื่อเห็นพวกพ้องที่ตายจากไป และช่วยกันออกไล่ล่าค้นหา Ellie ที่หลบซ่อนอยู่ได้ด้วย บทสรุปสุดท้ายที่น่าติดตาม จากเรื่องราวทั้งหมดที่ได้กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการล่มสลาย, ศัตรูที่จะได้พบเจอ, รวมถึงเรื่องราวของ Joel ที่พยายามช่วยเหลือ Ellie และ Ellie ที่ได้ตัดสินใจเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยการล้างแค้น ก็ทำให้น่าสนใจมากว่าบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวทั้งหมดนี้จะจบลงอย่างไร Ellie เป็นตัวละครสำคัญที่สุดในภาคนี้ ซึ่งผู้เล่นจะได้ร่วมต่อสู้ เดินทาง และพบการตัดสินใจอันยากลำบากบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยการล้างแค้น ซึ่งปลายทางอันมืดมนของ Ellie จะเป็นอย่างไร ก็สามารถติดตามได้ใน The Last of US Part II ที่จะวางจำหน่ายวันที่ 19 มิถุนายนนี้
11 Jun 2020
The Last of Us Part II ปล่อย Launch Trailer แล้ว!
The Last of Us Part: II กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน นี้สำหรับ PS4 ตัวเกมถูกพูดถึง และมีแฟนๆ รอคอยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังปล่อย Trailer และโฆษณาต่างๆ ออกมามากมาย ล่าสุดก็ผู้พัฒนาก็ได้ปล่อย Launch Trailer ออกมาแล้วครับ! เหตุการณ์ของภาคนี้จะเว้นช่วงห่างจากภาคแรกหลายปี The Last of Us Part: II จะเน้นไปที่ Ellie ในขณะที่เธอกำลังตั้งถิ่นฐานอยู่ในชุมชนที่เจิรญรุ่งเรืองในเมือง Jackson หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ Ellie จนทำให้เธอเริ่มต้นภารกิจล้างแค้น แม้ว่านั่นหมายถึงเธอจะต้องเผชิญหน้ากับกลุ่ม Washington Liberation Front ในเมือง Seattle และกลุ่ม Seraphites ที่เหมือนกับลัทธิก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงมากมายในเกมนี้เมื่อเทียบกับภาคแรก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือระบบการต่อสู้ที่สมจริงยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วเกมดังกล่าวจะมีความยาว 25 ถึง 30 ชั่วโมง Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
11 Jun 2020
หัวหน้าทีมพัฒนา The Last of Us Part II ออกมาขอโทษประเด็นเพลง True Faith
จากประเด็นเรื่อง Trailer ของ The Last of Us Part: II ที่ถูกกล่าวหาว่าเลียนแบบเพลง "True Faith" ของ Lotte Kestner เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งวันนี้ข้อสรุปของเรื่องดังกล่าว ก็ได้ถูกประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของ Neil Druckmann รองประธาน Naughty Dog แล้วครับ Neil Druckmann ได้ออกมาแสดงจุดยืนผ่าน Twitter ของตัวเองว่า เพลงใน Trailer ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง "True Faith" ของ Lotte Kestner จริง แต่เนื่องจากความผิดพลาดในตอนท้ายของเรา เธอจึงไม่ได้รับเครดิตตามที่ตั้งใจไว้ เราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เราจะทำการแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ Ellies rendition of “True Faith” was inspired by Lotte Kestners haunting cover of the song. Due to an oversight on our end, she wasnt credited as intended. Our deep apologies -- we are rectifying this ASAP. We hope that @lottekestner receives the recognition she deserves. — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) June 10, 2020 และทาง Kestner ได้ลบข้อความที่เธอเคยโพสต์บน Twitter ของเธอเกี่ยวกับการตัดพ้อเรื่องที่เธอไม่ได้เครดิตเพลงใน Trailer นั้น และมากล่าวขอบคุณครับ Neil และ Naughty Dog แทน So proud this music has found a home in such an amazing project. Thanks to Neil, Naughty Dog and everyone at Sony. https://t.co/FJ2r5Xgbgs — Lotte Kestner (@lottekestner) June 10, 2020 Credit: IGN สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
10 Jun 2020
ผู้พัฒนาเผย The Last of Us Part: II มีเกมเพลย์ Stealth ที่ยอดเยี่ยม
The Last of Us Part: II ก็เหมือนกับภาคก่อนที่จะให้ความสำคัญกับการ Stealth เป็นหลัก แต่ Naughty Dog ได้พยายามปรับปรุงมันให้ดีขึ้นกว่าภาคก่อน เกมนี้ศัตรูจะฉลาดมากขึ้น ส่วนผู้เล่นก็จะมีอุปกรณ์มากมายสำหรับใช้ในการ Stealth ขณะเดียวกันก็มีศัตรูแบบใหม่ที่จะทำให้ชีวิตของผู้เล่นยากขึ้น ผู้พัฒนา Kurt Margenau ได้ให้สัมภาษณ์กับ Gamereactor ว่าการ Stealth คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผู้เล่นจะได้รับจาก The Last of Us Part: II เขาได้สร้างศัตรูแบบใหม่ที่ทำให้การ Stealth เข้มข้นมากขึ้น และยังบอกว่า ระบบ AI มีความน่าสนใจมากมายให้เล่นด้วย Kurt ยังกล่าวอีกว่าพวกเขารู้สึกว่าเกมนี้จะสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อผู้เล่นมีความคิดที่จะทำการ Stealth ผู้เล่นมีวิธีมากมายที่สามารถดูผู้คนหรือสุนัขที่ลาดตระเวนอยู่รอบๆ ได้ และผู้พัฒนาพยายามที่จะให้ผู้เล่นได้เจอกับเหตุการณ์ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยศัตรูแบบนี้บ่อยๆ นั่นทำให้ผู้เล่นต้องใช้สมองคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าจะหลบหนีออกไปยังไงแทนที่จะตายแล้วไปเริ่มใหม่ เนื่องจากเกมนี้จะมีวิธีการ Stealth แบบใหม่เข้ามามากขึ้น มีวิธีเล่นใหม่ๆ มากขึ้น ดังนั้นผู้พัฒนาจึงได้ทำให้ศัตรูฉลาดมากขึ้นด้วย ผู้เล่นหลบในพุ่มหญ้าได้ ศัตรูก็หาในหญ้าได้, พวกเขาจะเริ่มค้นหาใต้ยานพาหนะ, และพวกเขาจะตะโกนเตือนเพื่อนตัวเองทันทีเมื่อเจอศพที่ผู้เล่นได้สังหารไป จากที่ผู้พัฒนาได้พูดเรื่องกลไกการ Stealth มานั้นมันดูน่าสนใจ และน่าคาดหวังสูงมาก เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่ทางผู้พัฒนาได้กล่าวมานั้นเป็นจริงมากแค่ไหน The Last of Us Part: II จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4 ในวันที่ 19 มิถุนายน Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
10 Jun 2020
The Last of Us Part II เป็นเกมที่มีการพรีออเดอร์มากที่สุดในบราซิล
ต้องบอกเลยว่าเกม The Last of Us Part II ได้รับความสนใจ รวมถึงคาดหวังจากผู้เล่นจำนวนมากจริงครับ และเกมนี้สามารถรับประกันได้ว่าจะขายดีอย่างแน่นอน เพราะล่าสุดได้ข่าวออกมาว่าตัวเกมมียอดพรีออเดอร์สูงที่สุดในประเทศบราซิลตอนนี้เลย! จากรายงานของ IGN Brazil เกม The Last of Us Part II ได้กลายเป็นเกม PlayStation ที่มียอดพรีออเดอร์มากที่สุดในประเทศบราซิล ณ เวลานี้ และไม่ใช่แค่ประเทศบราซิลเท่านั้นที่วีดีโอเกมดังกล่าวมีความต้องการสูง เพราะก่อนหน้านี้ทาง Sony ได้เปิดเผยว่า The Last of Us Part II มียอดการพรีออเดอร์มากกว่าเกม Marvels Spider-Man ในปี 2018 เสียอีก! The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายบน PS4 ในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
08 Jun 2020
บทสัมภาษณ์ผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II กับ "ราคาของความเกลียดชัง"
ในฐานะสิ่งมีชีวิตเลือดอุ่นที่รู้สึกรัก/โลภ/โกรธ/หลง สัญชาตญาณของมนุษย์ในการ "ปกป้อง" สิ่งที่ตนหวงแหน ไม่ว่าจะเป็นดินแดน ทรัพย์สินเงินทอง หรือกระทั่งคนรัก ถือเป็นแก่นหลักอย่างหนึ่ง ที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เราฝ่าฟันอุปสรรคอันมากล้นของ "ชีวิต" เพื่อลืมตาตื่นและก้าวเดินต่อไปในวันรุ่งขึ้น เมื่อมีอะไรก็ตามที่มาพลัดพรากเราไปจากสิ่งของหรือผู้คนอันเป็นที่รักเหล่านั้น ก็ย่อมไม่น่าแปลกถ้ามนุษย์คนหนึ่งจะรู้สึกโกรธแค้น และเรียกร้องความยุติธรรมจากโลก พระผู้เป็นเจ้า หรือบางคนอาจจะเลือกวิธีที่เถรตรง และไปทวงเอา "ความยุติธรรม" ที่ตนควรได้รับจากผู้ที่พลัดพรากไปเสียเอง แต่ความเป็นจริงอย่างหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เกี่ยวกับโลกอันโหดร้ายของเกม The Last of Us Part II คือไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ และแม้แต่ "ความยุติธรรม" ที่รู้สึกว่าเป็นสิทธิ์ของเรา บางครั้งก็มาพร้อมป้ายราคาที่ถูกปกปิด และกว่าจะรู้ถึงสิ่งที่ต้องแลกไปเพื่อให้ได้มา ก็อาจจะสายเกินไปเสียแล้ว คำถามที่ตามมาคือ แล้วคุณพร้อมจะเสี่ยงกับ "ราคาที่มองไม่เห็น" นี้แค่ไหน เพื่อให้ได้สิ่งที่คุณต้องการ "เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกว่าทุกการตัดสินใจในฐานะ Ellie มันเป็นการตัดสินใจที่ท้าทาย และมีราคา เพราะทุกอย่างในโลกของเกมมันมีราคาที่ต้องแลกโดยไม่มีข้อยกเว้น" ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้เขียนบทเกม The Last of Us Part II คุณ Halley Gross กล่าวในการสัมภาษณ์กับกลุ่มสื่อมวลชนชาวไทย ที่จัดขึ้นโดย Sony Thai เมื่อเร็วๆ นี้ "ตั้งแต่สภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ที่บางครั้งก็เป็นอันตรายกับเราได้ ไปจนถึงพวก NPC ที่จะล่าสังหารคุณอย่างไม่ลดละ ทุกอย่างมันถูกสร้างมาเพื่อขัดขวาง Ellie ในระหว่างการเดินทางเพื่อตามหา “ความยุติธรรม” ที่เธอต้องการ และทุกอย่างยังถูกยกระดับอย่างรวดเร็วตามเนื้อเรื่อง มันเหมือนกับการโยนอุปสรรคทุกอย่างใส่ Ellie เพื่อที่จะถามเธอว่า เธอต้องการสิ่งนี้จริงๆ ใช่ไหม? เธอพร้อมจะแลกทุกอย่างเพื่อสิ่งนี้จริงๆ ใช่ไหม" ด้วยผลงานเขียนบทในวงการภาพยนตร์และซีรีส์โทรทัศน์มากมาย รวมไปถึงประสบการณ์ในการสร้างซีรีส์ชื่อดังของ HBO อย่าง Westworld เกม The Last of Us Part II ถือเป็นก้าวแรกของคุณ Halley สู่วงการเกม แถมยังเป็นผลงานที่ฝากความคาดหวังของแฟนๆ ทั่วโลกเอาไว้ด้วย "มันก็ต้องรู้สึกเกร็งๆ บ้างเป็นธรรมดาแหละนะ ค่าย Naughty Dog เองก็มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว แถมตัวละครเหล่านี้ยังเป็นที่รักของแฟนๆ อีกด้วย" "ฉะนั้นฉันก็ย่อมรู้สึกถึงความกดดันในการสานต่อเรื่องราวของพวกเขา ในวิธีการที่ให้เกียรติ์ที่มาของพวกเขาด้วย ซึ่งก็น่ากลัวมาก แต่ฉันก็ตกหลุมรักตัวละคร Ellie ไปเรียบร้อยแล้ว และการที่ได้โอกาสในการพัฒนาตัวละครตัวนี้ในฐานะผู้ใหญ่ เป็นโอกาสที่ฉันปฏิเสธไม่ลงเลย" สำหรับคุณ Halley ความแตกต่างหลักระหว่างการทำงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ เมื่อเทียบกับการทำงานเกม คือในขณะที่ "บท" ในงานภาพยนตร์และโทรทัศน์มักเป็นของตายตัว ที่ถูกส่งจากโต๊ะนักเขียนไปให้แผนกอื่นๆ เนรมิตขึ้นมาอย่างไม่หืออือ "บท" ของเกมกลับเป็นสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงและเติบโตตลอดเวลา จากการเอาใจใส่ของทุกฝ่ายใน Naughty Dog ที่ทำงานร่วมกันในการขับ "เนื้อเรื่อง" ของเกมให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากที่สุด "ที่ Naughty Dog เนื้อเรื่องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าฉันและ Neil จะกำหนดทิศทางของเนื้อเรื่องได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่ไม่นานเนื้อเรื่องก็ได้รับคำแนะนำจากทีมดีไซน์ หรือทีมออกแบบศิลป์ หรือใครก็ได้ในค่าย ที่ช่วยกันใส่ตัวตนของตัวเองลงไปในบท เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถช่วยกันขับธีมของเนื้อเรื่องไปให้ถึงผู้เล่น" "เกมจะเกิดขึ้น 4 ให้หลังจากตอนจบของภาคแรก และในสี่ปีนั้น ตัวละครที่เราคุ้นเคยก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนที่ปลอดภัยพอสมควร อาจจะต้องออกไปจัดการพวกผู้ติดเชื้อระหว่างลาดตระเวนบ้าง แต่พวกเขาก็ยังมีพื้นที่พอให้เป็นกังวลกับความรักหรือมิตรภาพ มีเวลานัดกันดูหนัง มีเวลาที่จะพักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเป็นที่รักและต้อนรับ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หรืออาจจะในชีวิตของเขาเลยก็ได้" "มันเลยเป็นโชคดีของฉันที่ได้เข้ามาในจังหวะนี้ และได้ทำงานกับตัวละครที่มีรากฐานที่แข็งแกร่งเหล่านี้ เพื่อตั้งคำถามว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหนหลังจากที่ใช้ชีวิตอย่าง “สงบ” มานานขนาดนี้ หรือเขาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนหลังจากที่ต้องเผชิญกับเรื่องที่เจ็บปวด ตัวละครเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่อาจจะเสียทุกอย่างที่รักไปได้ในพริบตา แล้วมันทำให้พวกเขามีทัศนคติต่อความรักหรือความปลอดภัย หรือแม่แต่ต่อชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง มันมีคำถามมากมายที่เราอยากหาคำตอบเกี่ยวกับโลกของเกม" อย่างที่หลายคนอาจจะทราบอยู่บ้าง เนื้อเรื่องของเกม The Last of Us Part II จะติดตามตัวละคร Ellie วัย 19 ปี และการเดินทางเพื่อทวงคืน "ความยุติธรรม" บางอย่างของเธอ ที่จะพาเธอเข้าไปพัวพันกับ "วังวนแห่งความเกลียดชัง" ที่ผู้พัฒนายกให้เป็นแก่นหลักของทุกองค์ประกอบในเกม "ทุกอย่างที่เราทำในเกมนี้ ตั้งแต่การเล่าเรื่องผ่านองค์ประกอบแวดล้อม หรือการพัฒนาตัวละคร NPC และเนื้อเรื่อง ล้วนวนกลับไปสู่ธีมหลักของเกมที่เราตั้งไว้ ซึ่งก็คือธรรมชาติของความรุนแรง ที่มักจะดำเนินไปเป็นวังวนไม่สิ้นสุด และมักจะเพิ่มทวีตัวเองขึ้นเรื่อยๆ" "ในการออกแบบเมือง Seattle อันเป็นที่ตั้งของเกม เรามีจุดประสงค์หลักคือการส่งผ่านแก่นสาสน์ตรงนั้นไปยังผู้เล่น เพื่อการนั้น เราจึงสร้างกลุ่มศัตรูสองกลุ่มนี้ขึ้นมา เป็นกลุ่มคนสองฝ่ายที่ต่างห้ำหั่นกันด้วยความเกลียดชัง ที่หมักหมมมานานจนไม่มีใครบอกได้แล้วว่าเริ่มได้อย่างไร หรือใครเป็นคนเริ่มก่อน มีแต่เชื่อว่าอีกฝ่ายเริ่มก่อน จึงรบกันไม่รู้จบ" ศัตรูสองกลุ่มที่ผู้เล่นจะพบในเกม The Last of Us Part II จะประกอบไปด้วยกลุ่มทหารพลเรือน W.L.F. ที่มักจะใช้กลยุทธ์และอาวุธแบบทหาร แถมยังมีสุนัขตามกลิ่นที่สามารถตามตัว Ellie ได้อย่างแม่นยำ ส่วนอีกกลุ่มคือเหล่าเซราไฟต์ กลุ่มผู้คลั่งศาสนาที่มักโจมตีด้วยอาวุธไร้เสียงอย่างธนู ก่อนจะจับผู้ที่ถูกมองว่าเป็นศัตรูมาแขวนคอและคว้านท้องอย่างโหดเหี้ยม "สำหรับกลุ่ม W.L.F. เราอยากสร้างกลุ่มศัตรูที่ผู้เล่นมีความคุ้นเคยสักหน่อย จึงอาจจะสังเกติได้ว่าพวก W.L.F. จะมีความคล้ายคลึงกับกลุ่ม Hunters ในภาคแรกในแง่ของแนวทางการเล่น แต่แน่นอนว่ามาพร้อมกับการพัฒนามากมาย อย่างแรกคือการที่ตัวละครทุกตัวมีชื่อของตัวเอง หมายความว่าถ้ามีใครตายหรือหายตัวไป พวกที่เหลือก็จะแสดงปฏิกิริยาที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น" "ในขณะเดียวกัน ในส่วนของเซราไฟต์นั้น เราต้องการพูดถึงคนที่ถูกครอบงำโดยศาสนาหรือความเชื่อ จนสามารถกระทำความรุนแรงอย่างสุดโต่งได้โดยไม่รู้สึกอะไร พวกเซราไฟต์จะติดตาม “ศาสดา” คนหนึ่ง และกลุ่มก็ก่อตั้งในเมือง Seattle มานานพอๆ กับพวก W.L.F. ด้วย ซึ่งเรามองว่าพวกเขาเป็นเหมือนตัวแทนของประวัติศาสตร์อีกแง่ของเมือง Seattle" แต่แม้ว่ากลุ่มทั้งสองจะเป็นศัตรูที่จะไล่ล่าและสังหารผู้เล่นอย่างไร้ปราณี แต่ผู้พัฒนาก็ยังให้ความสำคัญกับ NPC ศัตรูเหล่านี้ในฐานะมนุษย์ ที่ล้วนมีความหวังและความฝัน หรือไปถึงความสัมพันธ์กับมนุษย์คนอื่นๆ รอบข้างอีกด้วย ทำให้พวกเขามี "ตัวตน" มากกว่าแค่ศัตรูนิรนามในเกมทั่วๆ ไป และทำให้การต่อสู้มีน้ำหนักต่อจิตใจของผู้เล่นอย่างแท้จริง "เราต้องการสร้างสถานการณ์ที่บังคับให้ Ellie ในฐานะตัวละคร ต้องเลือกระหว่างทางเลือกที่ไม่น่าเลือกทั้งสองทาง พร้อมกับตั้งคำถามว่าเธอจำเป็นต้องเลือกแต่แรกหรือไม่" "ความรุนแรงและความเกลียดชังอาจเป็นแก่นหลักของเนื้อเรื่อง แต่มันก็เกี่ยวกับความเข้มแข็งของมนุษย์เช่นกัน ไม่ว่าจะในตัว Ellie หรือในตัวละครอื่นๆ ที่สามารถยกตัวเองขึ้นมาเมื่อล้มลง และถูกท้าทายให้ตั้งคำถามกับการกระทำของตัวเองตลอดเวลาเกี่ยวกับทางเลือกที่ได้เลือกไป และการทำความเข้าใจถึงราคาที่จำเป็นต้องจ่ายไปเพราะการตัดสินใจเหล่านั้น การที่มนุษย์คนหนึ่งเลือกทางเลือกที่อาจจะนำไปสู่การทำลายล้าง และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตัวตนของมนุษย์คนนั้น" แนวคิดนี้สะท้อนออกมาในเกมเพลย์ในรูปแบบของ "ทางเลือก" ที่เกมมอบให้ผู้เล่น ในประสบการณ์ของผู้เขียนเอง มีหลายครั้งที่รู้สึกเหมือนเกม "ผลัก" เราให้ต้องกระทำเรื่องที่โหดเหี้ยมในฐานะทางเลือกที่ง่ายที่สุด เช่นการฆ่าเจ้าของสุนัข เพื่อฉวยโอกาสลอบเร้นผ่านไปในขณะที่สุนัขตัวนั้นพยายามร้องเรียกร่างไร้วิญญาณของเจ้าของ โดยคุณ Halley กล่าวว่าผู้พัฒนาต้องการมอบอิสระให้ผู้เล่นสามารถตีความเนื้อเรื่องผ่านการกระทำของตัวเองได้ด้วย "เมื่อคุณเผชิญสุนัขของทหาร W.L.F. คุณมีทางเลือกว่าจะกำจัดมัน หรือจะลอบผ่านไปเฉยๆ ก็ได้ เป็นการตั้งคำถามว่าคุณจะยอมสละชีวิตของ “มนุษย์” หรือสุนัขสักตัว เพื่อเป้าหมายของคุณหรือไม่ เราอยากให้คุณจำเป็นต้องตอบคำถามยากๆ เหล่านี้ตลอดเวลา" "ยิ่งเกมดำเนินไปเรื่อยๆ เราก็ยิ่งเปิดโอกาสให้คุณเข้าถึงตัวละครทั้งหลายนี้ในฐานะมนุษย์มากขึ้นด้วย เพราะเราไม่อยากให้ศัตรูในเกมเป็นแค่ศัตรูที่คุณต้องกำจัด แต่เป็นมนุษย์ที่มีตัวตน มีความสัมพันธ์ต่อมนุษย์คนอื่นๆ ที่อาจจะเสียใจจากการตายของพวกเขา เราไม่อยากให้อะไรรู้สึกง่าย เพื่อสื่อว่า Ellie ต้องการทำตามเป้าหมายของเธอแค่ไหน และให้ผู้เล่นเข้าใจถึงความมุ่งมั่นในการตามหา “ความยุติธรรม” ที่เธอต้องการ และความเกลียดชังที่เป็นแรงขับของเธอ" สุดท้ายนี้ คุณ Halley ฝากความหวังว่าผู้ที่เล่นเกมทุกคนจะตั้งคำถามกับตัวเอง เกี่ยวกับทั้งตัวพวกเขาเอง และเกี่ยวกับโลกรอบๆ ตัว รวมไปถึงคนแปลกหน้าที่อยู่ในสังคมด้วย "เราออกแบบตอนจบของเกมนี้ด้วยความตั้งใจที่จะตั้งคำถามหรือข้อถกเถียงในหมู่ผู้เล่นอยู่แล้ว ไม่มีตัวละครตัวไหนในเกมที่เป็นขาวหรือดำ ดีหรือชั่วไปเลยทั้งหมด การตีความการกระทำของตัวละครเหล่านี้ก็ถือเป็นองค์ประกอบหลักอย่างหนึ่งที่เราตั้งใจใส่ไว้ในเกมเช่นกัน" แล้วพบกับบทความรีวิวเกม The Last of Us Part II ของ GameFever ได้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หรืออ่านความคิดเห็นเบื้องต้นจากการเล่นเกมได้ ที่นี่ สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
05 Jun 2020
The Last Of Us Part 2 ปล่อยโฆษณาของตัวเกมผ่านทาง TV
การโฆษณาเกมผ่านทางทีวี เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก แต่สำหรับเกมใหญ่ๆ อย่าง The Last Of Us Part II คงไม่น่าแปลกใจถ้าผู้พัฒนาจะอยากทำการตลาดให้กับเกมให้มากที่สุดที่ทำได้ ล่าสุด ผู้พัฒนา Naughty Dog ได้มีการปล่อย Spot โฆษณาของเกมผ่านทางทีวีในสหรัฐอเมรีกา ก่อนหน้าที่เกมจะวางจำหน่ายอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ตัววีดีโอโฆษณาดังกล่าวยังไม่ได้ถูกอัพโหลดไปบนช่อง Youtube อย่างเป็นทางการ แต่มีคนเก็บภาพ Spot จากทางทีวีมาได้ ซึ่งเป็นเพียงวีดีโอสั้นๆ แต่มีผู้สนใจอย่างมาก เนื้อหาในวีดีโอตัวอย่างนี้เป็นการรบรรเลงเพลงที่ดูเป็นเพลงเศร้า พร้อมแสดงการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของ Ellie เห็นอย่างนี้แล้ว น่าสนใจไม่เบาเลย เริ่มจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว!!! The Last Of Us Part 2 มีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น ในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้ ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสเข้าไปเล่นเกมมาแล้ว สามารถอ่านความเห็นคร่าวๆ ของทีมงานได้ ที่นี่ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
03 Jun 2020
The Last of US Part II ระบบ AI ของเกมนี้จะมีปฏิกริยาที่สมจริงมากขึ้น
พูดถึงจุดเด่นของเกม The Last of US หนึ่งอย่างก็คงจะเป็นในเรื่องของระบบเกมเพลย์ที่จะเน้นการลอบเร้นสุดระทึก ถึงแม้ว่าศัตรูภายในเกมจะมีไม่กี่ชนิด แต่มันก็พาเราลุ้นและสนุกไปจนจบเกม ล่าสุดทาง Co-director ของเกม The Last of US Part II ที่จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้อย่างคุณ Anthony Newman ได้ออกมาเปิดเผยกับทางเว็บไซต์ Ungeek ว่า AI ของเกมนี้จะมีความฉลาดและปฏิกริยาที่สมจริงมากขึ้นกว่าภาคก่อนหน้าอีกด้วย โดยคุณ Newman กล่าวว่าในภาคนี้พวกเขาได้สร้างระบบ AI ตรวจจับตัวละครเราได้ลึกมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นในสถานการณ์ที่ตัวเรานั้นใช้อาวุธระยะไกลจัดการกับศัตรูในพื้นที่ไปหนึ่งตัวต่อหน้าศัตรูตัวอื่น แทนที่พวกเขาจะตรวจจับตัวละครเราและเดินแห่มาหาทันที แต่ศัตรูในภาคนี้ผู้พัฒนาได้ใส่ระบบที่เรียกว่า "Middle State" นั่นคือพวกเขาอาจจะยังไม่รู้ตำแหน่งของเราชัดเจน เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเรานั้นยิงมาจากที่ไหน และต้องทำการเดินตรวจหาก่อนเพื่อเพิ่มความตรึงเครียดในการเล่นนั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าจะช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกันมันทำให้ระบบลอบเร้นของเรานั้นสนุกและตื่นเต้นมากขึ้น เพราะศัตรูอาจจะทำการเปลี่ยนทิศทางการเดินเพื่อค้นหาตัวละครเรานั่นเอง โดย The Last of US Part II มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
03 Jun 2020
Preview: บอกเล่าประสบการณ์เล่นเกม The Last of Us Part II ก่อนรีวิวจริง
หมายเหตุ: ตามข้อตกลงระหว่างทีมงาน GameFever และบริษัท SIE Singapore และเพื่อหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อเรื่อง บทความนี้จะอ้างอิงประสบการณ์จากการเล่นภารกิจ "Finding Nora" ช่วงกลางๆ เกมเท่านั้น และจะไม่พูดถึงเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องมากกว่าที่เปิดเผยไปแล้วในคลิปตัวอย่างทั้งหลายของเกม บทวิจารณ์เนื้อเรื่อง สามารถติดตามได้ในรีวิวตัวเต็มวันที่ 12 มิถุนายนนี้ อย่างที่หลายคนอาจจะทราบอยู่แล้ว ในขณะนี้ทางผู้พัฒนา Naughty Dog และผู้จัดจำหน่ายอย่าง Sony ได้ทำการส่งโค้ดเกม The Last of Us Part II ให้แก่สื่อมวลชนได้ทดลองเล่นกันเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้สามารถเล่นเกมให้จบและทำรีวิวทันวันวางจำหน่าย ทางทีมงาน GameFever ก็เป็นหนึ่งในสื่อที่ได้รับโอกาสในการรีวิวเกม (ขอบคุณ SIES มา ณ ที่นี้ด้วยครับ) และเพื่อช่วยตอบคำถามที่อาจจะคาใจผู้เล่นหลายคนอยู่ในขณะนี้ เราจึงอยากจะนำประสบการณ์และความรู้สึกจากการเล่นเกมมาเล่าให้ฟังกันแบบเป็นข้อๆ ไปเลย ก่อนที่จะสรุปรวบยอดความเห็นทุกอย่างในตอนจบ แต่ด้วยความที่ Sony เจาะจงมาว่าให้บทความนี้อ้างอิงเนื้อหาจากช่วงสั้นๆ ของเกมช่วงเดียวเท่านั้น เราจึงรู้สึกว่ายังไม่สามารถให้คำวิจารณ์เนื้อเรื่องได้ เพราะยังไม่สามารถกล่าวถึงภาพรวมได้นั่นเอง สำหรับความเห็นเต็มๆ ของทีมงาน รวมไปถึงคะแนนรีวิวเกม สามารถรอติดตามได้ในบทความรีวิวตัวเต็มวันที่ 12 มิถุนายนนี้พร้อมสื่อทั่วโลก แต่ระหว่างรอ เราไปดูกันดีกว่าว่าทีมงานที่เล่นเกมไปแล้ว มีความเห็นคร่าวๆ อย่างไรบ้างต่อเกมเพลย์ของ The Last of Us Part II การสำรวจ แม้ว่าเกม The Last of Us Part II (อย่างน้อยเท่าที่ผู้เขียนเล่นมา) จะตั้งอยู่ในเมือง Seattle เป็นหลัก แต่ภายในเมืองก็มีส่วนที่สภาพแวดล้อมต่างกันมากมาย เฉพาะในช่วงเวลาสองชั่วโมงนิดๆ ที่เล่นภารกิจ "Finding Nora" ก็มีสภาพแวดล้อมให้สำรวจหลายชนิดแล้ว ทั้งโรงพยาบาลร้าง ป่ารกชื้น และท่อระบายน้ำใต้ดิน ทำให้การเดินทางในเมือง Seattle มีความหลากหลายทางภูมิทัศน์มากกว่าที่หลายคนอาจจะคาดไว้ตอนแรก และทำให้โลกของเกมมีสีสันมากกว่าแค่การอยู่ในเมืองอย่างเดียว ผู้พัฒนาเองก็ดูจะอยากให้ผู้เล่นได้มีโอกาสสำรวจความสวยงามของทิวทัศน์ต่างๆ มากขึ้นด้วย ทำให้ในแต่ละบทหรือตอนยาวๆ ของเกม มักจะมีพื้นที่กว้างให้ผู้เล่นได้สำรวจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหตุการณ์เนื้อเรื่องต่อไป คนที่เคยเล่นเกมภาคแรกมาก่อนจะรู้ว่าการสำรวจเพื่อตามหาวัตถุดิบ เพื่อใช้สร้างอุปกรณ์ทั้งหลายนั้นสำคัญแค่ไหน และพื้นที่เหล่านี้ก็มักจะมีวัตถุดิบต่างๆ ให้เก็บมากมาย แถมบางครั้งยังมีของอัพเกรดหรืออาวุธให้เก็บ หรือกระทั่งมีเนื้อเรื่องเสริมให้ค้นพบ ซึ่งแม้ว่าเกมจะยังดำเนินไปเป็นเส้นตรง แต่การมี "อะไรให้ค้นพบ" ก็ช่วยให้โลกของเกมรู้สึกมีมิติมากขึ้น และทำให้ผู้เล่นมีเหตุผลในการเล่นเกมซ้ำเพื่อหาเนื้อเรื่องเสริมหรือเส้นทางใหม่ๆ ในการเดินทางไปยังจุดหมาย การสำรวจในเกม The Last of Us Part II น่าจะเป็นส่วนที่ได้รับอานิสงส์จากความชำนาญในเรื่องของการสร้าง "บรรยากาศ" หรือ Mood & Tone ของผู้พัฒนา Naughty Dog มากที่สุดแล้ว ซึ่งก็ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงความรู้สึกของการเป็นผู้รอดชีวิตในโลกอันโหดร้ายของเกม ที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองสามารถมีชีวิตต่อไปให้ได้ ด้วยการสำรวจตึกร้างเพื่อคุ้ยเขี่ยเศษขยะจากอารยธรรมที่ล่มสลายเพื่อมาสร้างอุปกรณ์และอาวุธ แม้ว่าจะไม่มีทางรู้เลยว่าหลังประตูที่อยู่ตรงหน้า จะมีกลุ่มผู้ติดเชื้อผู้หิวโหยรออยู่หรือไม่ (เล่นเกมนี้สะดุ้งบ่อยกว่าตอนเล่น Resident Evil 2: Remake อีก...) การลอบเร้น คนที่เคยเล่นเกม The Last of Us ภาคแรกมาก่อน น่าจะสามารถทำความเคยชินกับการเล่นเกม Part II ได้แทบจะทันที เพราะคล้ายกันอยู่ซัก 80% เลยทีเดียว แม้ว่าในคราวนี้เราจะเปลี่ยนจากการควบคุมลุง Joel มาเป็นสาวน้อยร่างบางอย่าง Ellie ก็ตาม แต่ 20% ที่ต่างกันนี่แหละ ที่ทำให้การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II พัฒนาขึ้นจากภาคแรก จากความสามารถหลายๆ อย่างที่เพิ่มมาของ Ellie นอกจากความสามารถต่างๆ ที่ Joel มีในภาคแรกอย่าง "โหมดการฟัง" ที่ทำให้มองเห็นศัตรูทะลุกำแพงได้ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดสำหรับ Ellie คงหนีไม่พ้นความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นจากร่างกายอันผอมบางของเธอ ซึ่งทำให้เธอสามารถหมอบคลานลงไปกับพื้นเพื่อหลบใต้สิ่งของ และความสามารถในการกระโดด ที่ทำให้เธอสามารถใช้ประโยชน์จากความต่างระดับของฉากได้ดีขึ้น ทำให้เธอมีทางเลือกมากขึ้นในการรับมือสถานการณ์ต่างๆ นั่นเอง ในบางฉากผู้เล่นอาจจะสามารถใช้วิธีหมอบคลานเพื่อพรางตัวในพงหญ้า ในขณะที่บางฉากอาจจะมีน้ำลึกให้ผู้เล่นดำหลบศัตรู (Ellie ว่ายน้ำเป็นแล้ว!) ซึ่งความอิสระในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้นของตัวละคร ยังทำให้ผู้พัฒนาสามารถออกแบบฉากต่างๆ ในมีมิติสูง-ต่ำมากขึ้น ทำให้ฉากดูมีความหลากหลายและน่าสนใจมากขึ้นด้วย แต่ความคล่องตัวที่เพิ่มขึ้นของ Ellie ก็มาพร้อมกับความฉลาดและจำนวนที่มากขึ้นของศัตรู ทั้งที่เป็นมนุษย์และผู้ติดเชื้อเช่นกัน สำหรับศัตรูที่เป็นมนุษย์ อย่างที่ผู้พัฒนาเคยเปิดเผยไปนั้น ศัตรูมนุษย์ในเกม The Last of Us Part II ทุกคนจะมีชื่อของตัวเอง และศัตรูคนอื่นๆ จะใช้ชื่อนี้ในการสื่อสารกับเพื่อนๆ ของพวกมันด้วย ซึ่งส่งผลต่อเกมเพลย์โดยตรง เพราะนั่นหมายความว่าศัตรูทุกตัวจะรู้ได้ทันทีเมื่อมีเพื่อนในทีมหายไป และรู้ด้วยว่าเพื่อนสำรวจอยู่ตรงไหนเพราะส่งสัญญาณบอกกันก่อนแล้ว โดยศัตรูจะกรูกันเข้าไปตรงนั้นทันทีเพื่อตามหาตัว Ellie ให้พบ ทำให้เราจำเป็นต้องเคลื่อนที่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ศัตรูเจอตัว ส่งผลให้การลอบเร้นทุกครั้งรู้สึกกดดันมากๆ เพราะไม่สามารถยืนหลบอยู่กับที่ได้เหมือนเกมลอบเร้นเกมอื่น ถ้าผู้เขียนต้องเปรียบเทียบ การลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II (เมื่อเจอศัตรูมนุษย์นะ) ทำให้ผู้เขียนนึกถึงการลอบเร้นในเกม Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ขึ้นมาเป็นเกมแรกเลย สำหรับศัตรูผู้ติดเชื้อ แน่นอนว่าความคล่องตัวที่ว่าก็ทำให้ Ellie มีทางเลือกในการย่องผ่านเหล่าผู้ติดเชื้อมากขึ้น และยังมีมีดพกของเธอ ที่ทำให้ Ellie สามารถลอบฆ่าผู้ติดเชื้ออย่าง Clicker ได้โดยไม่ต้องสร้างมีดสั้นเหมือน Joel ในภาคแรก แต่เกมก็ปรับสมดุลตามด้วยการเพิ่มปริมาณผู้ติดเชื้อให้มากขึ้นกว่าภาคแรกมาก และทำให้ผู้ติดเชื้อทุกชนิดดุร้ายและประสาทไวขึ้น ซึ่งทำให้ผู้เล่นยังจำเป็นต้องเล่นอย่างตั้งใจไม่ต่างจากศัตรูมนุษย์ นอกจากนี้ เกมยังไม่กลัวที่จะใส่ผู้ติดเชื้อตัวใหญ่ชนิดใหม่อย่าง "แชมเบลอร์" เข้าไปในฉากการต่อสู้ทีละหลายๆ ตัวพร้อมกัน ซึ่งต่างจากภาคแรก ที่สามารถพบเจอผู้ติดเชื้อตัวใหญ่ (โบลตเตอร์) ได้เพียงไม่กี่ตัวตลอดเกม จากทั้งหมดที่กล่าวไป ทำให้แม้ว่าการลอบเร้นในเกม The Last of Us Part II จะมีลูกเล่นที่เปิดทางเลือกใหม่ให้ผู้เล่นมากขึ้น แต่ก็แลกมาด้วยความ "ฉลาด" และปริมาณที่เพิ่มขึ้นของศัตรู ทำให้การลอบเร้นในเกมมีความท้าทายและน่าตื่นเต้นระทึกขวัญทุกครั้งไม่ว่าจะเจอกับศัตรูแบบไหนก็ตาม การต่อสู้ เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก การยิงปืนในเกม TLoU2 จะเล็งค่อนข้างยาก แถมกระสุนปืนยังมักจะมีจำกัดตามฉบับเกมแนว Post-Apocalypse ทำให้การต่อสู้ด้วยปืนควรเป็นทางเลือกสุดท้ายของผู้เล่นในกรณีส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะเปลืองกระสุนอันแสนล้ำค่าแล้ว ยังเปิดเผยที่อยู่ของตัวละครให้ศัตรู ทำให้เสี่ยงโดนรุมตายได้ง่ายๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียน การต่อสู้ตรงๆ มักจะทำให้เราเสียเลือดเนื้อและทรัพยากรณ์มาก ทางเลือกที่ดีที่สุดเมื่อโดนเจอ จึงเป็นการกำจัดศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงให้เร็วที่สุด และรีบหนีออกไปจากบริเวณนั้นเพื่อซ่อนตัว เพื่อให้สามารถกำจัดศัตรูด้วยวิธีการลอบเร้นอีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นสำหรับการต่อสู้เลย โดยหลักๆ มีอยู่สองอย่างด้วยกัน คือมีดพกของ Ellie และปุ่มหลบหลีกอันเป็นผลมาจากความคล่องแคล่วของเธอนั่นเอง ในส่วนของมีดพกนั้น ทำให้ Ellie สามารถสังหารศัตรูได้เร็วกว่า Joel ในบางกรณี เช่นการโยนขวดแก้วหรืออิฐใส่ศัตรูก่อนแล้ววิ่งเข้าไปแทงเป็นต้น โดยมีดพกดูจะมีประโยชน์ชัดเจนจริงๆ ในการต่อกรกับศัตรู Clicker โดยเฉพาะ และมีหน้าที่หลักในการให้เหตุผลว่าทำไม Ellie จึงสามารถเผชิญหน้าศัตรูทั้งหลายได้ แม้จะไม่ได้มีร่างกายใหญ่โตเหมือน Joel ในทางกลับกัน การที่ Ellie สามารบหลบการโจมตีของศัตรูได้ ทำให้เกม TLoU2 มีกลิ่นไอของเกมแอคชั่นเบาๆ โดยผู้เล่นจะสามารถกดปุ่ม L1 ในจังหวะที่พอดี เพื่อให้ Ellie โยกตัวหลบการโจมตีระยะประชิดได้ ก่อนที่จะฉวยโอกาสโจมตีเป็นคอมโบด้วยมีดพกอีกที โดยศัตรูในเกมจะสามารถกันการโจมตีของเรา และสามารถเปลี่ยนจังหวะการโจมตีเพื่อหลอกให้เราหลบผิดจังหวะได้ด้วย ทำให้การต่อสู้ให้ความรู้สึกของการกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอด ทั้งของ Ellie และของศัตรู ซึ่งก็ย้อนกลับไปเสริม "บรรยากาศ" ของเกมอีกทีเช่นกัน เอาเข้าจริง สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกชื่นชอบเกี่ยวกับการต่อสู้ในเกม คือการได้เห็นสีหน้าของ Ellie และศัตรูระหว่างต่อสู้ ซึ่งจะเปลี่ยนไปจริงๆ ตามสถานการณ์ และสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้การต่อสู้รู้สึกมีน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่บิดเบี้ยวไปด้วยความเกลียดชังของ Ellie ขณะที่เหวี่ยงขวานเข้าก้านคอของศัตรู ไปจนถึงสีหน้าตกใจของศัตรู ที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากความเจ็บปวดและความกลัว ไปสู่ความว่างเปล่า กราฟฟิคและการนำเสนอ คำว่า Immersive (พจนานุกรมไทยแปลว่า น่าดื่มด่ำ) เป็นคำที่ใช้กันบ่อยในวงการเกมทุกวันนี้ เพื่อกล่าวถึงความสามารถของเกมในการสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างเกมกับผู้เล่น ผ่านระบบการเล่นหรือองค์ประกอบด้านการนำเสนอที่ "น่าเชื่อ" ตามกฏเกณฑ์ของโลกนั้นๆ ให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังรับบทเป็นตัวละครในเกม และสามารถเข้าถึงความรู้สึกและ "ตรรกะ" เบื้องหลังการกระทำของตัวละครได้ พูดภาษาบ้านๆ ก็คือความสามารถในการทำให้ผู้เล่น "อิน" ไปกับเกมนั่นแหละ ยิ่งเทคโนโลยีด้านกราฟฟิคพัฒนาให้สมจริงมากขึ้นเท่าไหร่ การสร้างความ "อิน" ที่ว่านี้ก็จะยิ่งสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วย โดยเฉพาะในเกมที่มีเนื้อเรื่องเป็นองค์ประกอบหลัก ในแง่นั้น เกม The Last of Us Part II ถือเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่สุดชิ้นหนึ่งของการสร้างความ Immersive ผ่านทุกองค์ประกอบของเกม ทั้งในแง่ของกราฟฟิค เนื้อเรื่องและเกมเพลย์ ที่ออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมเกลียว เพื่อขับอารมณ์ความรู้สึกของการใช้ชีวิตในโลกของเกมได้อย่างชัดเจน และทำให้การกระทำและการตัดสินใจทั้งหมดของตัวละครหลัก Ellie มีน้ำหนักต่อจิตใจของคนเล่นในระดับที่น้อยเกมจะทำได้ ถ้าให้เปรียบกราฟฟิคในภาพรวมกับเกมระดับเดียวกัน (ในสายตาผู้เขียน) อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือ Death Stranding นั้น TLoU2 อาจจะใกล้เคียงกับเกมทั้งสองในแง่ของความสวยของฉาก แต่จุดที่ TLoU2 ทำได้ดีกว่าทั้งสองเกมคือรายละเอียดในด้านพื้นผิว (Texture) บนสิ่งของและใบหน้าของตัวละคร ที่ให้ความรู้สึกสมจริงยิ่งกว่าเกมที่กล่าวมาอย่างมาก ส่งผลให้ตัวละครสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกออกมาได้อย่างละเอียดอ่อนกว่าที่กล่าวมา แม้ว่าสุดท้ายแล้ว คุณภาพเรื่องหน้าตาตัวละครจะไม่ได้เท่ากันไปหมด (ตัวละครประกอบหลายตัวมีพื้นผิวหยาบกว่าอย่างเห็นได้ชัด) แต่สำหรับตัวละครหลักอย่าง Ellie แล้ว เรียกว่าแทบจะเห็นชัดไปถึงระดับ micro-expression (การแสดงออกทางสีหน้าในระดับจิตใต้สำนึกที่มักทำไปโดยไม่รู้ตัว เช่นการกัดปาก การหางตากระตุก หรือการเลิ่กตาไปมาเวลาโกหก) ทำให้ตัวละครสามารถแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าหรือภาษากายได้ราวกับหนัง นอกจากนี้ รายละเอียดทั้งหมดในเกมยังร่วมกันสร้าง "บรรยากาศ" อันหนักอึ้ง ที่ให้ความรู้สึกตึงเครียดราวกับเล่นเกม Survival Horror อยู่ตลอดเวลา ที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือเกมสามารถคงบรรยากาศที่ว่านี้ ให้อยู่กับผู้เล่นได้ทุกวินาทีของการเล่น จากการที่เกมมักจะส่งศัตรูทั้งเหล่าผู้ติดเชื้อและที่เป็นมนุษย์มาใส่ผู้เล่นในจังหวะที่ไม่คาดคิดบ่อยๆ ซึ่งทำให้การเล่นเกมไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่วินาทีเดียว แม้กระทั้งในช่วงเวลาเงียบๆ ที่เหมือนว่าจะไม่มีศัตรูอยู่ สำหรับผู้เขียน นี่ถือเป็นความสำเร็จของผู้พัฒนา ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถรับรู้ถึงความอันตรายของโลกในเกมได้ไม่ต่างจากเหล่าตัวละครที่ใช้ชีวิตอยู่ในโลกนั้นซะเองเลย ภาษาไทย อย่างที่รู้กันว่าเกม The Last of Us Part II จะสนับสนุนบทบรรยายและเมนูภาษาไทยด้วย ซึ่งจากท่่ได้ลองเล่นมา ผู้เขียนพูดได้เต็มปากว่านี่น่าจะเป็นเกมที่แปลภาษาไทยได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย แม้ว่าสุดท้ายจะยังมีการแปลผิด และมีอารมณ์ของคำพูดที่อาจจะตกหล่นไปบ้าง จากการที่คำแปลไม่มีคำหยาบ แม้ตัวละครจะพูดคำหยาบในภาษาอังกฤษเป็นต้น แต่โดยรวมๆ ก็ถือว่าสื่อความหมายของเกมได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือคำแปลไทยไม่ได้ครอบคลุมแค่เนื้อเรื่องหลัก แต่ยังรวมถึงตัวหนังสือในฉาก (เช่นป้ายชื่อร้านค้า) หรือกระทั่งจดหมายโน้ตทั้งหมดที่หาได้ในเกม ผู้เล่นที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษน่าจะสามารถเข้าถึงองค์ประกอบด้านเนื้อเรื่องทั้งหมดในเกมได้ไม่ยาก ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้เล่นชาวไทยมากๆ สรุป ในแง่ของเกมเพลย์ The Last of Us Part II เป็นตัวอย่างของเกมที่สามารถใช้ประโยชน์จากความเป็นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการเล่าเรื่องราวและสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านระบบของเกม รวมไปถึงองค์ประกอบด้านภาพ เสียง และการตกแต่งฉาก ที่ล้วนพาผู้เล่นเข้าไปอยู่ในโลกอันแสนอันตรายของเกมในฐานะ Ellie และทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนของตัวละครได้ ซึ่งก็ต้องถือว่าผู้พัฒนาประสบความสำเร็จมากๆ ในจุดนี้ แม้ว่าเกมจะมีองค์ประกอบบางอย่างที่ผู้เขียนรู้สึกว่าแปลกๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า The Last of Us Part II เป็นเกมที่สร้างมาได้อย่างลึกซึ้ง บนคอนเซปต์ที่มัดรวมองค์ประกอบทั้งหมดของเกมให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน อาจจะฟังดูเว่อร์ แต่อย่างที่คุณผู้กำกับ Neil Druckmann เคยกล่าวเอาไว้ "ไม่ว่าคุณจะรู้อะไรมา มันเทียบไม่ได้เลยกับการได้นั่งเล่นเกมกับมือจริงๆ" รออ่านความเห็นเต็มๆ เกี่ยวกับเกม รวมไปถึงบทวิจารณ์เนื้อเรื่องในรีวิวตัวเต็ม วันที่ 12 มิถุนายนนี้จ้า! สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
01 Jun 2020
ชมเกมเพลย์ใหม่จาก The Last of Us Part II กว่า 20 นาที!
ตามที่ได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ผู้พัฒนา Naughty Dog ได้ทำการแสดงเกมเพลย์ใหม่จาก The Last of Us Part II ออกมาแล้วในรายการ State of Play รอบพิเศษ ที่ออกอากาศไปเมื่อคืนนี้ (เช้าตรู่?) เวลาตี 3 ประเทศไทย ภายในรายการจะประกอบไปด้วยการบรรยายของผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann ที่อธิบายถึงองค์ประกอบต่างๆ ของเกม ตั้งแต่ที่มาที่ไปของเนื้อเรื่อง ไปจนถึงระบบเกมเพลย์ใหม่ๆ ที่ผู้เล่นจะได้พบในเกม นอกจากนี้ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของรายการ ยังมีการเปิดเผยคลิปเกมเพลย์ใหม่ความยาวกว่า 10 นาที ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนอีกด้วย สำหรับข้อมูลที่เปิดเผยในรายการ ส่วนมากเป็นข้อมูลที่เคยเปิดเผยออกมาแล้ว สามารถสรุปออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้: เนื้อเรื่องของเกมจะเกิดขึ้น 4 ปีหลังจากตอนจบของภาคแรก และผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Ellie วัย 19 ปี Ellie ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบในเมือง Jackson, Wyoming มาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ความสงบนั้นก็พังทลายลง เมื่อทั้ง Ellie และ Jackson ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ โศกนาฏกรรมดังกล่าว ทำให้ Ellie ออกเดินทางเพื่อชำระแค้นต่อกลุ่มคนที่โจมตีเธอและ Jackson เนื้อเรื่องของเกมส่วนใหญ่ๆ จะเกิดขึ้นในซากปรักหักพังของเมือง Seattle เมือง Seattle จะมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ตั้งแต่ย่านใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า ไปจนถึงย่านที่อยู่อาศัยชานเมืองที่ปกคลุมไปด้วยป่า และย่านริมทะเลที่มีสภาพอากาศแปรปรวน Ellie จะมีความคล่องแคล่วมากขึ้น ผู้เล่นจะสามารถกระโดดและปีนป่ายสิ่งของได้ และยังสามารถใช้เชือกที่หาได้ตามสภาพแวดล้อมเพื่อปีนหรือโหนตัวไปยังสถานที่ใหม่ๆ ได้ เกมจะมีอุปกรณ์และเนื้อเรื่องเสริมให้ค้นหาด้วย Ellie จะสามารถขี่ม้าเพื่อเดินทางข้ามระยะทางไกลๆ ได้ บางพื้นที่จะถูกน้ำท่วมหนัก และจะต้องใช้เรือในการสัญจรแทน เมือง Seattle ของเกมจะเป็นสนามรบระหว่างศัตรูสองฝ่าย คือพวก W.L.F. (Washington Liberation Front) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองของกองทัพในช่วงหลังการระบาดใหม่ๆ และอีกพวกคือ Seraphite (หรือ Scars) กลุ่มคลั่งไคล้ศาสนาลึกลับที่กำจัดทุกคนที่เข้ามาในเขตของพวกเขา กลุ่ม W.L.F. จะมีอาวุธหนักที่ยึดมาจากกองทัพ พร้อมกับใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อตามตัว Ellie ได้ ในขณะที่พวก Seraphite มักจะต่อสู้แบบกองโจร ด้วยการใช้ธรรมชาติเพื่อพรางตัว และใช้อาวุธไร้เสียงอย่างธนูเป็นหลัก พวกผู้ติดเชื้อในเกมจะมีจำนวนมากขึ้น และจะดุดันมากกว่าในภาคก่อน ภายในรายการ State of Play ได้พูดถึงผู้ติดเชื้อชนิดใหม่ "Shambler" ผู้ติดเชื้อร่างอ้วนอืดที่สามารถปล่อยควันกรดออกมาโจมตีศัตรูรอบตัว โดยผู้พัฒนายังแย้มว่าเกมจะมีผู้ติดเชื้อชนิดใหม่อีกมากมายที่ยังไม่เปิดเผย ผู้เล่นสามารถลงไปหมอบกับพื้นได้ และสามารถใช้หญ้าสูงเพื่อหลบซ่อนจากสายตาศัตรูได้ด้วย แต่ถ้าศัตรูเข้าใกล้เกินไปก็จะถูกเห็นได้อยู่ดี ในการต่อสู้ Ellie จะสามารถโยกตัวหลบการโจมตีระยะใกล้ได้ ซึ่งจะต้องกดหลบให้ถูกจังหวะ เช่นเดียวกับในเกมภาคแรก Ellie สามารถใช้สิ่งของอย่างขวดแก้วหรือก้อนอิฐเพื่อปาใส่ศัตรูได้ โดยศัตรูที่ถูกปาใส่จะมึนงงไปชั่วขณะ ทำให้เราสามารถวิ่งเข้าไปปลิดชีพในระยะประชิด หรือจับศัตรูมาเป็นโล่ห์กำบังได้ Ellie จะมีตัวละครเพื่อนร่วมทางที่คอยช่วยเหลือเธอในการต่อสู้ได้ ในบางครั้ง เกมจะให้เราสู้กับศัตรูที่เป็นมนุษย์และผู้ติดเชื้อพร้อมกัน ซึ่งเราสามารถทำให้ทั้งสองฝั่งต่อสู้กันเองได้ด้วย ผู้เล่นจะต้องตามหาตำราอัพเกรดในฉาก เพื่อปลดล๊อคสายการพัฒนาตัวละคร ผู้เล่นสามารถปรับแต่งความสามารถของอาวุธได้ทุกชิ้น โดยการปรับแต่งจะส่งผลต่อหน้าตาอาวุธด้วย ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่เราวสามารถสรุปได้จากไลฟ์สตรีม State of Play รอบนี้จ้า ใครสังเกติเห็นอะไรที่เราไม่เห็น อย่าลืมคอมเม้นมาบอกกันด้วยนะ แล้วรออ่านรีวิวเกม The Last of Us Part II ของเราได้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น โดยเกมจะมี PS4 Pro Limited Edition Bundle ลายพิเศษของตัวเองด้วย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
28 May 2020
The Last of Us Part II เตรียมโชว์เกมเพลย์ใหม่ใน State of Play พุธนี้!
ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่าย The Last of Us Part II แต่ก่อนจะไปถึงวันวางจำหน่ายเกม ดูเหมือนว่าวันพรุ่งนี้จะมีการไลฟ์สตรีมใน State of Play เพื่อโชว์เกมเพลย์ก่อนครับ ซึ่งการไลฟ์สตรีมครั้งนี้จะมีความยาวประมาณ 20 นาที และออกอากาศเวลา 3.00 AM ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2020 ตามเวลาบ้านเรา! ข่าวดังกล่าวถูกประกาศออกมาผ่านทาง PlayStation Blog เองเลยนอกจากนี้ ยังมีการบอกอีกด้วยว่า ภายในไลฟ์สตรีมครั้งนี้จะมีเกมเพลย์ใหม่กว่า 8 นาที ซึ่งไม่เคยโชว์ที่ไหนมาก่อนด้วย น่าเสียดายที่มีดูเหมือนว่าจะไม่มีข่าวเกี่ยวกับ PS5 ถูกอัปเดตด้วย เพราะใน State of Play ครั้งนี้จะเป็นการพูดถึง The Last of Us Part II เท่านั้นครับ The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 มิถุนายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: PlayStationBlog สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
26 May 2020
ผู้เล่นจะได้รับเงิน Refund ของเกม The Last of Us Part II เร็วๆ นี้!
นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าหนึ่งในเกมที่หลายคนกำลังรอคอยอยู่อย่าง The Last of Us Part II ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ตอนนี้ตัวเกมยังไม่มีวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการใหม่เลย และเพื่อเป็นการทำให้เหล่าผู้เล่นที่ทำการ Pre-Order ตัวเกมไปรู้สึกสบายใจมากที่สุด ทาง Sony เลยทำการคืนเงินดังกล่าวให้ครับ! การ Refund เกม The Last of Us Part II นั้น ทาง Sony จะทำการดำเนินเรื่องให้ทั้งหมด คนที่ทำการ Pre-Order ไปแล้วจะได้รับเงินคืน พร้อมกับ Email ที่แจ้งให้ทราบว่าผู้เล่นได้รับเงินจากอะไร ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะตอนนี้ตัวเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ไม่รู้ว่าจะได้เล่นเกมดังกล่าวเมื่อไหร่ การได้รับเงินคืนก่อนในตอนนี้จึงดูเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลมากครับ The Last of Us Part 2 ยังไม่มีวันวางจำหน่ายใหม่อย่างเป็นทางการในตอนนี้ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
07 Apr 2020
The Last of Us Part II เป็นเกมที่จะมีเนื้อหา Nudity และ Sexual Content ด้วย!
The Last of Us Part II กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2020 ที่จะถึงนี้ ภาคแรกของตัวเกมนั้นได้รับคะแนนรีวิวที่ดีมาก ๆ ด้วยเซ็ตติ้งของเกมที่อยู่ในยุค Post Apocalypse ทำให้ตัวเกมมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่ตัวเกมจะมี M/17+ Rating แต่เหมือนว่าภาคต่อของตัวเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายนี้ จะมีเนื้อหา M/17+ Rating ที่เป็น Nudity และ Sexual Content ด้วยครับ! หน้าเว็บไซต์ PlayStation ล่าสุดได้มีการขึ้นว่าตัวเกมจะมีเนื้อหาแบบ M/17+ Rating รวมถึงมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับ Nudity และ Sexual Content ด้วย ซึ่งจาก Trailer ตัวแรกของตัวเกมที่ถูกปล่อยออกมานั้น ก็พอจะทำให้คาดเดาได้อยู่แล้วว่า ตัวเกมน่าจะมีเนื้อหาอย่างว่า เพียงแค่วันนี้เราได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเท่านั้นครับ! The Last of Us Part II จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit : DualShockers ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
03 Feb 2020
5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020
แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโลโกของเครื่อง PlayStation 5 เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมทั้งกำหนดการว่าจะวางจำหน่ายในปลายปี 2020 แต่เครื่อง PlayStation 4 ยังคงสามารถเล่นเกมไปได้อีกหลายปี รวมถึงมีเกมต่าง ๆ ทยอยลงให้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเฉพาะเกม Exclsuive ที่ไม่สามารถหาเล่นได้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ วันนี้พวกเรา Gamefever จึงขอนำเสนอ 5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020 1. Last of Us Part II Last of Us ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ จากทีมงาน Naughty Dog ที่เน้นการเล่าเรื่องที่ถึงอารมณ์และการเล่าเรื่องที่เข้มข้นถึงใจ พร้อมทั้งกวาดรางวัลไปมากกว่า 200 รายการ ทำให้เกม Last of Us Part II กลายเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนจับตามอง ตัวเกมยังคงนำเสนอในแนวทางของภาคแรกแต่ได้มีการยกระดับทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่ดิบกว่าเดิม ความโหดร้ายของโลกในเกมและกราฟิกที่ดึงเอาศักยภาพของเครื่อง PlayStation 4 มาอย่างเต็มความสามารถทำให้เกมนี้แฟน ๆ ของ Sony พลาดไม่ได้วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้ลางานรอได้เลย 2.Final Fantasy 7 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความฮือฮาอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ปัจจุบันผ่านไป 5 ปีก็ถึงคราวที่เกมนี้จะได้ส่งมาถึงมือของแฟน ๆ เสียที เกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ได้มีการปรับปรุงระบบเกมการเล่นใหม่ ที่เป็นการผสมระหว่างความเป็น Action และ Turn Base ที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กราฟิกในเกมยังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหากอยากเล่นในปีนี้ต้องซื้อบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น สำหรับเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 3.Ghost of Tsushima แม้ว่าทีมงาน Sucker Punch Productions ยังไม่ยืนยันวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ แต่ว่าปีนี้มาแน่นอนสำหรับเกม Ghost of Tsushima ที่เล่าเรื่องราวฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นในช่วงการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - Adventurer - Stealth ที่จะให้เราสวมบทเป็น Jin Sakai ซามูไรคนสุดท้ายในเกาะ Tsushima ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการต่อต้านกับกองทัพมองโกลด้วยวิธีการแบบ Ghost 4.Predator: Hunting Grounds Predator: Hunting Grounds ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมแนว Co-op PvP ที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่อง PlayStation 4 โดยตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายมนุษย์ที่จะต้องร่วมมือกันในการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและฝ่ายของ Predator ที่ต้องสังหารมนุษย์ไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้อารมณ์ของเกมนี้จะคล้ายกับ Dead by Daylight ฉบับ Predator ซึ่งหากคุณชอบเกมแนวดังกล่าวเกมนี้ถือว่าตอบโจทย์ ตัวเกมจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่างแน่นอน 5.Nioh 2 ปิดท้ายกันด้วยเกมยากระดับปาจอยทิ้งที่สาวก PlayStation 4 ควรหามาเล่นกับเกม Nioh 2 ที่ได้นำเอาตำนานและเรื่องราวลึกลับของประเทศญี่ปุ่นมาทำใหม่ในรูปแบบของ Dark Fantasy ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับภาคใหม่ตัวเกมได้มีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ตัวละครไปจนถึงแนวทางที่เล่น โดยเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม จะเห็นได้ว่าในปีนี้เกม Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ยังคงน่าเล่นเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของทีมงานต่าง ๆ ที่สามารถทำเกมยอดเยี่ยมมากมายลงในเครื่อง Console ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีได้อย่างลื่นไหล ขอให้เกมเมอร์ทุกท่านมีความสุขในการเล่นเกมครับผม
08 Jan 2020
10 เกม PC/Console น่าเล่นประจำปี 2020
อีกไม่กี่เราก็จะเดินทางเข้าสู่ปี 2020 อย่างเป็นทางการแล้ว เรียกได้ว่าวันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วจริง ๆ หลายคนอาจจะคิดว่าปีนี้เรามีเกมต่าง ๆ ให้เล่นกันอย่างมากมายแล้ว แต่ปี 2020 มีเกมให้เราเล่นมากกว่าปีนี้อีก ที่มีแต่เกมดี ๆ มากมายรอให้เราได้ลิ้มลอง วันนี้พวกเรา Gamefever จะขอแนะนำ 10 เกมน่าเล่นประจำปี 2020 มาแนะนำเพื่อน ๆ กัน 1.Dragon Ball Z: Kakarot  –  17 มกราคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  เริ่มต้นปีใหม่สาวก Dragon Ball ก็ได้เฮกับก่อนใครเพื่อนเลยกับเกม Dragon Ball Z: Kakarot  เกมแนว Action - RPG ที่จะให้เราสวมบทเป็น Guku ในการทำภารกิจต่าง ๆ รวมถึงปกป้องโลกของเราจากเหล่าร้าย โดยเนื้อเรื่องจะอิงตามการ์ตูน Dragon Ball:Z อย่างเต็มตัว ตัวเกมยังมาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงาม ระบบการเล่นที่เร้าใจและยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย ใครที่เป็นสาวกการ์ตูนเรื่องนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง 2.Marvel’s Iron Man VR  – 28 กุมภาพันธ์ 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 (VR) Marvels ยังคงรุกตลาดเกม Console อย่างต่อเนื่อง ในรอบนี้มากับเกม Marvel’s Iron Man VR ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น โดยได้ทีมงาน Camouflaj มาเป็นส่วนหนึ่งของทีมพัฒนาเกม เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นเนื้อเรื่องที่แยกออกจากจักรวาลหลัก ที่ได้กล่าวถึงการที่ stark industries ได้ทำการปิดส่วนของการผลิตอาวุธไปหลังจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างและ Tony Stark จะต้องออกมาแก้ไขเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็น Iron Man ในการปกป้องเมือง ต่อกรกับเหล่าร้าย ทำภารกิจต่าง ๆ ผ่านแว่น VR และ PlayStation Move ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าเล่นมาก ๆ สำหรับคนที่มี PlayStation VR 3.Final Fantasy 7 Remake  – 3 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation หนึ่งในเกมที่ทำให้หุ้นของ Sony และ Square Enix  พุ่งขึ้นทันทีที่ตัวอย่างของเกมได้ออกมาและสร้างเสียงฮือฮาทั่วโลกกับเกม Final Fantasy 7 Remake หลังจากผ่านไปเกือบ ๆ 5 ปี ในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวกลับมาจาก 20 ปีที่แล้วได้อย่างสมศักดิ์ศรี ตัวเกมมาในรูปแบบของ Action - RPG ที่จัดเต็มในทุก ๆ ด้านพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามตามสไตล์ของ Square Enix และอื่น ๆ อีกมากมายจนอยากให้รอถึงวันวางจำหน่ายไม่ไหวแล้ว อ่านรีวิวเมื่อลองเล่นเกมเวอร์ชัน Demo ได้ที่นี่ 4. Watch Dogs Legion - 3 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  Watch Dogs กลับมาอีกครั้งในพร้อมกับแนวใหม่ ๆ ของซีรีส์ในเกม Watch Dogs Legion โดยตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวของกรุง London ประเทศอังกฤษที่ประชาชนถูกกดขี่และสอดแนมโดยรัฐเฝ้าระวัง กองกำลังติดอาวุธคุมพื้นที่ไปทั่วท้องถนนทำให้คุณต้องลุกขึ้นมาต่อต้านผู้มีอำนาจและรวบรวมพันธมิตรขึ้นมา โดยตัวเกมในภาคนี้ได้มีการพัฒนาระบบอะไรหลาย ๆ อย่างที่ดีขึ้น ทั้งเกมการเล่น กราฟิกและอื่น ๆ อีกมากมายถือว่าเป็นอีกหนึ่งในเกมน่าเล่นของทาง Ubisoft เลยทีเดียว 5.Nioh 2  – 13 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 ซามูไรญี่ปุ่นกับความยากที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องยอมเลิกเล่นกับ Nioh 2 ที่ในภาคนี้ตัวเกมได้มีการปรับปรุงระบบการเล่นต่าง ๆ มากมายทั้งการปรับแต่งตัวละครที่สามารถได้อิสระได้มากกว่าเดิม อาวุธที่มากกว่าเดิมและกราฟิกในเกมที่ดีกว่าเดิม ใครที่ชอบเกมแนว Darksoul ก็ไม่ควรพลาดเกมนี้ด้วยเช่นกัน 6.Animal Crossing Switch New Horizons  – 20 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม Nintendo Switch หนึ่งในเกมสุดน่ารักของปี 2020 ที่แฟน ๆ ของ Nintendo น่าจะรู้จักกันดีกับซีรีส์ Animal Crossing ที่ในภาคใหม่จะให้เราเดินทางไปยังเกาะ Tom Nook และร่วมมือกับเหล่าเพื่อน ๆ สัตว์น่ารักพันธุ์ต่าง ๆ ในการพัฒนาเกาะนี้ให้น่าอยู่ เป็นเกมที่แฟน ๆ Nintendo ยังไงก็ต้องซื้อติดเครื่องอยู่แล้ว 7.Doom Eternal  –  20 มีนาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  Doom Guy กลับมาอีกล่าเหล่าปีศาจอีกครั้งกับเกม Doom Eternal ที่คราวนี้เขาขนอาวุธและลูกเล่นใหม่ ๆ ออกมาถล่มกับเหล่าปีศาจมากกว่าเดิม โหดกว่าเดิมและเพลง Metal ที่จะทำให้คุณได้ปลดปล่อยมาอารมณ์ในการต่อกรกับเหล่าปีศาจอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ตัวเกมในภาคนี้ยังได้พัฒนาระบบต่าง ๆ มากขึ้น อย่างการที่เกมของเราอาจจะถูกบุกโดยผู้เล่นอื่นเป็นต้น ใครที่หาเกมมัน ๆ เกมนี้ห้ามพลาด 8.Cyberpunk 2077 – 16 เมษายน  2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  กลายเป็นเกมขายดีทั้ง ๆ ที่เหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะได้เล่นกับเกม Cyberpunk 2077 เกมใหม่ล่าสุดจากทางทีมงาน CD Projeck Red ที่ได้ฝากผลงานสุดเทพในเกม The Witcher 3 โดยตัวเกมจะเป็นเกมแนว FPS-RPG ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนและตัวละครที่น่าติดตาม นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย สงกรานต์ปีนี้อาจจะได้เห็นเกมเมอร์ไทยอยู่บ้านมากกว่าเล่นเกมก็เป็นได้ 9.Marvels Avengers –  15 พฤษภาคม 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 , Xbox One  เดือนพฤษภาคม 2020 ถือว่าเป็นเดือนแห่งความสุขของแฟน ๆ Marvel เพราะต้นเดือนภาพยนตร์ Black Widow ฉายกลางเดือนมีเกม Marvels Avengers ให้เล่น โดยตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องแยกออกจากจักรวาลหลักที่จะเล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์ A-Day ที่เหล่า Avengers ต้องรับมือกับความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับเหล่าร้ายที่พร้อมจะโจมตีพวกเขาเสมอ ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - RPG ที่มีกราฟิกที่สวยงามและระบบการเล่นที่น่าสนใจ เรียกได้ว่าน่าเล่นสุด ๆ ไปเลยสำหรับเกมนี้ 10.The Last of Us Part II  – 29 พฤษภาคม  2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 สุดยอดเกมบนเครื่อง PlayStation ที่สาวก Sony และเกมเมอร์ทั่วโลกรอคอยหลังจากที่ตัวเกมภาคแรกได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงาน Masterpiece ไปแล้วกับเกม The Last of Us part II  ที่เราจะได้รับบทเป็น Ellie ในเวอร์ชันที่โตขึ้นพร้อมกับสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า ตัวเกมยังคงนำเสนอในรูปแบบ Third Person ที่มีกราฟิกที่สวยงามและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นจนระดับที่ว่าห้ามผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 เล่นเกมนี้เลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าปี 2020 ยังไม่พ้นครึ่งปีก็มีเกมเทพ ๆ รอให้เราได้เล่นกันอย่างมากมายแล้ว อีกทั้ง 10 เกมนี้ยังเป็นเพียงส่วนเสี้ยวเดียวของเกมที่มีอยู่ในปีหน้า หากเพื่อน ๆ มีเกมไหนแนะนำก็บอกกันมาได้เลย
04 Dec 2019
ข่าวลือ: Ghost of Tsushima จ่อติดโรคเลื่อนตามหลัง The Last of Us 2
กลายเป็นเรื่องหวานขมไปซะแล้วสำหรับแฟนๆ ชาวไทยของเกม PlayStation Exclusive ในตำนานอย่าง The Last of Us Part 2 ที่แม้จะได้รับข่าวดีไปเมื่อเร็วๆ นี้ว่าเกมจะสนับสนุนเมนูและบทบรรยายภาษาไทย แต่ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายพอๆ กันเมื่อผู้พัฒนา Naughty Dog ออกมายืนยันแล้วว่าเกม The Last of Us Part 2 จะถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ไปเป็นช่วงกลางปีแทน ล่าสุด ดูเหมือนว่า The Last of Us Part 2 อาจจะไม่ใช่เกม Exclusive เกมเดียวของ PlayStation ที่โดนเลื่อน เมื่อนักข่าวชื่อดังจากเว็บ Kotaku คุณ Jason Schreier ผู้ขึ้นชื่อเรื่องข่าววงใน ได้ออกมาเปิดเผยว่าผลงานเกมแอคชั่นจากค่าย Sucker Punch อย่าง Ghost of Tsushima  อาจจะต้องโดนเลื่อนออกไปเช่นเดียวกัน หลังจากที่มีแผนจะวางจำหน่ายเกมในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 BTW, Ghost of Tsushima doesnt have a public release date yet, but itll also be bumped later into 2020 to account for this delay. Dont expect them to suddenly turn it into a PS5 game or anything, but it was originally planned for the first half of the year - not anymore — Jason Schreier (@jasonschreier) October 24, 2019 โดยข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยออกมาผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของคุณ Jason ที่ระบุว่าแม้ว่า Ghost of Tsushima จะยังไม่เคยประกาศช่วงเวลาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ผู้พัฒนาและ Sony เองก็มีวันวางจำหน่ายอยู่ในใจแล้วว่าจะเป็นช่วงครึ่งแรกของปี 2020 แน่นอน แต่แผนการนี้ต้องถูกเลื่อนออกไปเพราะการเลื่อนวันวางจำหน่ายของ The Last of Us Part 2 นั่นเอง ทั้งนี้ คุณ Jason กล่าวว่าการเลื่อนครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเกมทั้งสอง (Ghost of Tsushima และ The Last of Us Part 2) จะถูกดันให้กลายเป็นเกม PS5 แทน แต่แฟนๆ อาจจะต้องรอกันนานกว่าที่คาดคิดเอาไว้ก่อนที่จะได้สัมผัสเกม Exclusive ทั้งสองนี้ แหล่งข่าว: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Oct 2019
แฟนๆ Last of Us Part 2 เศร้าใจ เมื่อผู้พัฒนาประกาศว่าเกมจะไม่มีโหมด Multiplayer สุดฮิต!
แม้ว่าอาจจะไม่ใช่องค์ประกอบหลักที่คนส่วนใหญ่คาดหวังจากเกม The Last of Us Part 2 แต่โหมด Multiplayer ของเกม ที่ใช้ชื่อว่า Factions ในภาคแรกก็ถือเป็นโหมดที่มีผู้เล่นชื่นชอบค่อนข้างเยอะ ถึงขนาดที่ยังมีคนแวะเวียนเข้าไปกดอยู่จวบจนวันนี้ หลายปีหลังจากที่เกมวางจำหน่ายในเวอร์ชั่น Remastered ด้วยประการนี้เอง ทำให้แฟนๆ หลายคนต้องรู้สึกผิดหวังเมื่อผู้พัฒนา Naughty Dog ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนของเว็บ USGamer ว่า The Last of Us Part 2 จะไม่มีโหมด Factions ให้เล่นกัน An update regarding multiplayer: pic.twitter.com/CUd98LgJGC — Naughty Dog (@Naughty_Dog) September 27, 2019 ผู้พัฒนาได้ให้เหตุผลเอาไว้ในโพสต์ทางทวิตเตอร์ว่าทีมต้องตัดสินใจนำโหมด Factions ออกไปจากเกมภาค 2 เพราะข้อปรับปรุงทั้งหมดที่ทีมงานตั้งใจจะเพิ่มเข้าไปในโหมดนั้นทำให้ Factions มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะสามารถรวมมาเป็นเกมเดียวกับ The Last of Us Part 2 ได้ เพราะตัวเกมตั้งต้นก็ใหญ่มากพออยู่แล้ว ถึงขนาดที่ผู้พัฒนาออกมายอมรับว่าเกม TLOU2 ถือเป็นเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดที่ค่ายเคยสร้างเลยทีเดียว ทั้งนี้ ผู้พัฒนาได้ทิ้งท้ายเอาไว้อย่างมีความหวังว่าให้แฟนๆ รอติดตามโหมด Factions ที่ปรับปรุงใหม่ได้ในอนาคต แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเกมจะมาในรูปแบบไหน ซึ่งอาจจะสรุปได้ว่าโหมดจะกลายเป็น DLC เสริมสำหรับเกมตัวต้นที่ปล่อยให้โหลดกันทีหลัง เป็นเกมแยกกันไปเลยอีกเกม หรือกระทั่งอาจจะกลับมาอีกทีใน The Last of Us Part 3 เลยก็เป็นไปได้ อย่างน้อยๆ ผู้เล่นที่ตั้งหน้าตั้งตารอโหมด Factions ของเกมก็ยังอาจจะพอมีความหวังว่าโหมดจะกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งซักวัน คงต้องรอดูท่าทีของผู้พัฒนาในอนาคตว่าจะนำโหมดยอดนิยมกลับมาให้ผู้เล่นได้สนุกกันทางไหนกันแน่! The Last of Us Part 2 จะวางจำหน่ายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020 สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ ที่มา: USGamer ติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่:
27 Sep 2019
The Last of Us Part II รายละเอียดทั้งหมด (PlayStation 4)
Title: The Last of Us Part II Genre: Action Adventure , Survival Horror Platform: PlayStation 4 Release Date: 21 กุมภาพันธ์ 2020 Developer: Naughty Dog Director: Neil Druckmann, Anthony Newman, Kurt Margenau Designer: Emilia Schatz, Richard Cambier Writer: Neil Druckmann, Halley Gross Composer: Gustavo Santaolalla https://www.youtube.com/watch?v=btmN-bWwv0A https://www.youtube.com/watch?v=II5UsqP2JAk ประวัติการพัฒนา [caption id="attachment_29842" align="aligncenter" width="800"] รูปภาพจากเว็บไซต์ Kotaku[/caption] The Last of Us Part 2 เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2014 หลังจากที่ได้ปล่อยเกม The Last of Us เวอร์ชัน Remaster นำโดย Neil Druckmann ที่เป็นทั้งคนเขียนบทและผู้กำกับของเกมนี้ เดิมทีตัวเกมวางแผนว่าจะทำโหมด Multiplayer แต่ด้วย  Scale ของเกมที่ใหญ่มาก ทำให้ทีมงานตัดสินใจนำโหมดนี้ออกจากเกมและเน้นไปยังการสร้างโหมด Single Player ให้ออกมาดีที่สุด ตัวเกมเปิดตัวครั้งแรกในงาน PlayStation Experience ปี 2016 หลังจากนั้นจึงเริ่มมีการถ่ายทำ Motion Capture ในปี 2017 และเปิดตัวอย่าง Gameplay ในงาน E3 ปี 2018 ก่อนที่จะประกาศวันวางจำหน่ายในงาน State of Play เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยฤกษ์วันวางจำหน่ายของเกมคือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020 เนื้อเรื่อง The Last of Us Part 2 จะเป็นเนื้อเรื่องหลังจากภาคแรก 5 ปีและหลังจากเหตุการณ์ Outbreak เป็นเวลา 25 ปี เราจะได้รับบทเป็น Ellie ในวัย 19 ปีที่อาศัยอบู่ในชุมชนแห่งหนึ่งนามว่า Jackson County รัฐไวโอมิงร่วมกับ Dina, Tommy , Jessie และ Joel แต่แล้วชีวิตที่แสนสงบสุขของเธอก็จบลงอย่างรวดเร็วหลังจากการเจอกับลัทธิที่ชื่อ Seraphites ที่ได้ทำร้ายชีวิตของเธอรวมถึงผู้คนรอบตัวเธอ ทำให้เธอต้องออกไปตามล่าลัทธินี้และสังหารให้หมดสิ้น พร้อมกับต่อสู้กับความโหดร้ายและความรุนแรงของโลกใบนี้ ระบบการเล่น The Last of Us Part 2 ยังคงระบบการเล่นคล้าย ๆ กับภาคแรกแต่ได้มีการพัฒนาให้มีความฮาร์ดคอมากขึ้น โดยในภาคนี้เราจะเน้นการลอบเร้นมากกว่าการปะทะโดยตรง เนื่องจากตัวละครของเราบางมากอีกทั้งยังไม่สามารถฟื้นฟูเลือดได้ในขณะที่บาดเจ็บและพลังชีวิตจะลดลงเรื่อย ๆ  ซึ่งจะต้องทำแผลเท่านั้น นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะอัปเกรดทักษะของตัวละคร รวมถึงปรับแต่งอาวุธได้อีกด้วย ในส่วนของ AI ในเกมทางทีมงาน Naughty Dog ได้มีการปรับปรุงระบบนี้ให้ดีขึ้น โดย AI ของศัตรูดีขึ้น เช่น AI เพื่อนร่วมทีมของเราจะมีประโยชน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือการต่อสู้กับศัตรู ในส่วนของ AI ศัตรูนั้นทางทีมงานก็ได้พัฒนาให้ดีขึ้น โดยเฉพาะฝ่ายมนุษย์ที่จะมีการประสานกันมากขึ้นเช่น หากเรายิงลูกธนูใส่ศัตรูแล้วไม่ตาย เขาจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากนั้น AI ศัตรูจะเริ่มราดตระเวนรวมถึงเกรี้ยวกราดมากขึ้นอีกด้วย การวางจำหน่าย The Last of Us part II จะวางจำหน่ายอยู่ 5 แพ็คเกจดังนี้ The Last of Us Part 2 standard Edition ประมาณ 1,838.10 บาท The Last of Us Part 2 Digital Deluxe Edition ประมาณ 2,144.52 บาท The Last of Us 2 Part 2 Special Edition 2,450.96 บาท The Last of Us Part 2 Collectors Edition 5,206.68 บาท The Last of Us Part 2 Ellie Edition 7,046.51 บาท น่าเสียดายที่ในตอนนี้ (27/09/2019) ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยประกาศเปิด Pre- Order แพ็ตเก็ตเหล่านี้ แต่เกมเมอร์ก็สามารถที่จะ Pre- Order ตัวเกมแบบ Digital ผ่าน PlayStation Store ได้แล้วที่นี่ โดยทุกแพ็คเกจหากซื้อแบบ Pre - Order จะได้รับไอเทมพิเศษในเกมคือ ammo capacity upgrade และ crafting training manual ในวันที่เกมเปิดให้เล่น นอกจากนี้หาก Pre - Order ผ่าน PlayStation Store จะได้รับ Avatar รูปรอยสักของ Ellie อีกด้วย เรียกได้ว่าน่าเล่นมาก ๆ เลยสำหรับเกมนี้หลังจากที่รอมา 7 ปี สำหรับเกมเมอร์ท่านไหนที่สนใจเกม The Last of Us Part II สามารถเล่นได้ผ่านแพลตฟอร์ม PlayStation 4 เท่านั้นในฐานะของเกม Exclusive และแทบจะเป็นไม่ได้เลยที่จะลงแพลตฟอร์มอื่น
27 Sep 2019
The Last of Us Part II คือเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Naughty Dog
จากการสัมภาษณ์กับ Troy Baker ผู้ให้เสียง Joel จาก The Last of Us Part II เขาได้กล่าวเกี่ยวกับตัวเกมด้วยความตื่นเต้นว่า “สิ่งเดียวที่ผมบอกได้คือ The Last of Us Part II เป็นเกมที่ทะเยอทะยานที่สุดของ Naughty Dog ที่เคยทำมา มันมาไกลและยิ่งใหญ่กว่าที่ผมคิดว่ามันจะเป็นไปได้เสียอีก” นอกเหนือจากเรื่องนี้ ได้มีคำถามเกี่ยวกับการที่นักแสดงผู้รับบท Ellie, Ashley Johnson ได้เปรยเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายตัวเกมว่าเป็นเดือนกุมภาพันธ์ เขาตอบว่า “Naughty Dog ฉลาดพอที่จะไม่บอกพวกเราเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายตัวเกม เพราะพวกเราไม่สามารถเลื่อนวันวางจำหน่ายหรือทำอะไรบ้าๆได้ อย่างครั้งที่แล้วที่เราประกาศวันวางจำหน่าย เราก็ต้องเลื่อนและไม่อยากเลื่อนอีกรอบ” “ทุกคนล้วนรู้สึกว่าตัวเกมมันไม่สมบูรณ์ และเมื่อเราต้องออกวางจำหน่ายก็จะรู้สึกว่า พวกเรากำลังวางจำหน่ายเกมที่มันไม่เสร็จสมบูรณ์ นั่นแหละ ความบกพร่องในการทำเกมล่ะ” The Last of Us Part II ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย และวางขายบน PS4 เท่านั้น อ้างอิง: playstationlifestyle
30 Jul 2019
อดีตนักเขียนเว็บดังยืนยัน! The Last of Us Part 2 จะวางจำหน่ายปีนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแง่ของเกมสำหรับเกมคอนโซลนั้น โซนี่ยังคงได้เปรียบคู่แข่งหลักอย่าง Microsoft อยู่มากพอสมควร ด้วยเกม Exclusive ฟอร์มใหญ่ๆ ที่จ่อวางจำหน่ายอยู่อีกหลายเกม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ค่อยจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเกมเหล่านี้เลยว่าจะออกมาให้ได้เล่นกันเมื่อไหร่ โดยเฉพาะเกม The Last of Us Part 2 ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายออกมาให้ลุ้นเลยซักนิด จนหลายคนพากันคิดว่าเกมอาจจะไม่ได้วางจำหน่ายในปี 2019 เผลอๆ อาจจะไปวางจำหน่ายบน PS5 เลยด้วยซ้ำ ล่าสุด ดูเหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้ต้องรอกันนานขนาดนั้นก็ได้ เมื่ออดีตนักเขียนเว็บข่าวเกมชื่อดัง IGN คุณ Alanah Pearce ได้ออกมายืนยันต่อแฟนๆ ในทวิตเตอร์ว่าเธอได้รับแจ้งจากแหล่งข่าววงในหลายคนว่าเกมจะวางจำหน่ายในปี 2019 แล้ว (ข้อความทั้งหมดถูกลบไปแล้ว) สำหรับข้อความด้านบนนั้นเป็นคำตอบที่คุณ Alanah ตอบแฟนๆ ที่ถามเธอว่า The Last of Us Part 2 ได้รับการยืนยันวันวางจำหน่ายในปี 2019 หรือยัง โดยคุณ Alanah ตอบอย่างมั่นใจว่า ยืนยันแล้ว 100% คุณ Alanah ได้ออกมายอมรับว่าเธออาจจะเผลอเปิดเผยข้อมูลลับออกไปซะแล้วในทวิตต่อมา โดยบอกว่าเธอมักจะสับสนระหว่างข้อมูลที่ยืนยันต่อสาธารณะแล้ว และข้อมูลวงในที่แหล่งข่าวในวงการแอบบอกอย่างลับๆ ทั้งนี้ คุณ Alanah ได้ออกมาบอกให้แฟนๆ อย่าเพิ่งคาดหวังสูงจนเกินไปนัก เพราะการตัดสินใจเรื่องวันวางจำหน่ายเกมเป็นอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจนกว่าจะมีการประกาศจากผู้พัฒนาเอง แม้ว่าเธอจะได้รับข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งข่าวมากกว่าหนึ่งคนก็ตาม   ถือว่ายังคงเป็นเรื่องให้ลุ้นกันสนุกๆ อยู้ในขณะนี้ แต่ก็หวังว่าคุณ Alanah จะไม่ได้ขี้จุ๊ไปเองนะ! (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
07 Jan 2019
หลุดรายละเอียดโหมด Multiplayer เกม The Last of Us 2
แม้ว่าเกม The Last of Us จะเป็นที่รู้จักจากโหมด Campaign (เนื้อเรื่อง) อันยอดเยี่ยมของเกม แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้คาดคิดเอาไว้คือความนิยมของโหมด Multiplayer (สู้กันเอง) ของเกม ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังคงมีคนเข้าไปเล่นกันอย่างคึกคักแม้ว่าเกมจะมีอายุเกือบ 5 ปีแล้วก็ตาม ในขณะที่หลายๆ คนกำลังรอเกม The Last of Us Part 2 อยู่อย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งสิ่งที่หลายคนน่าจะสงสัยกันก็คือรายละเอียดของโหมด Multiplayer ของเกม ที่จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่เคยถูกกล่าวถึงโดยผู้พัฒนาเลย จนถึงบัดนี้ เมื่อมีคนเข้าไปพบกับรายละเอียดของโหมดในใบรับสมัครผู้พัฒนาตำแหน่ง Multiplayer Server Programmer (โปรแกรมเมอร์เซิฟเวอร์มัลติเพลย์เยอร์) ของค่าย ที่เปิดเผยรายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับโหมดเป็นครั้งแรก สำหรับประเด็นหลักๆ ที่สามารถสรุปได้จากคำประกาศดังกล่าวคือโหมด Multiplayer ของเกม The Last of Us Part 2 จะให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งหน้าตาของตัวละครตัวเองได้ และจะมีร้านค้า Online Store ในเกมที่ขายของตกแต่งเหล่านี้อีกด้วย แต่ไม่ได้ระบุว่าร้านค้าดังกล่าวจะต้องใช้เงินจริงซื้อ หรือสามารถใช้เงินในเกมได้ด้วย The Last of Us Part 2 ยังไม่มีข้อมูลวันวางจำหน่ายแต่อย่างใด ยังมีแนวโน้มว่าจะวางจำหน่ายปีหน้า (2020) ด้วยซ้ำ คงต้องรอดูกันไปอีกยาวๆ ว่าโหมด Multiplayer ของเกมภาคใหม่จะยังคงตรึงใจผู้เล่นเป็นปีๆ ได้เหมือนภาคแรกหรือไม่! (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
07 Jan 2019
ผู้รับบท Ellie ใน The Last of US Part II กล่าว !! ถึงงานหนักแต่หัวใจเต็มร้อย
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทางผู้พัฒนาได้ปล่อยภาพการถ่ายทำคัดซีนเกม The Last of US Part II ออกมาพร้อมคำอธิบายประกอบว่านี่มันเป็นฉากที่ซับซ้อนและกระฉากชากใจมากที่สุด ดูข่าวคลิ๊ก และล่าสุดทางนักแสดงที่รับบทเป็นสาวน้อย Ellie อย่างคุณ Ashley Johnson ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อฉากนี้ด้วยว่า การทำงานนี่มันหนักมาก แต่หัวใจเธอเต็มร้อย "การทำสิ่งต่างๆ ในสัปดาห์ เราถ่ายทำกันหนักมาก มีอะไรหนักหนาไปหมด ร่างกายฉันเหนื่อยมากแต่ทุกๆ ท่านหัวใจฉันเนี่ยเต็มร้อยเลย งานเสร็จแล้วได้เวลาเปิดใช้งานโหมดวันหยุด รักนะทุกๆ ท่าน" What a week. We shot some heavy, heavy stuff. My body’s tired, but man oh man, my heart is full. Work is done and vacation mode is activated. Happy Holidays. Love you, fam. ? by @grosstastic. https://t.co/OlAscmoIM0 — Ashley Johnson (@TheVulcanSalute) 22 ธันวาคม 2561 ซึ่งเกม The Last of US Part II ตอนนี้ยังไม่ได้มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่แน่นอนว่าจะลงในปี 2019 นี้ ซึ่งตัวเกมภาคแรกได้รับคำชมเป็นอย่างมากในเรื่องเนื้อเรื่องอันยอดเยี่ยม และเกมเพลย์ที่ไร้ที่ติ โดยตัวเกมลงให้กับเฉพาะเครื่อง PS4 ที่มา 
27 Dec 2018
ปาดน้ำตา !! The Last of Us 2 จะไม่เข้าร่วมโชว์ในงาน The Game Awards
น้ำตาไหลพรากกันอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อนหน้านี้ทาง CD Projekt Red ได้ประกาศออกมาว่าตัวเกม Cyberpunk 2077 จะไม่ไปเปิดตัวในงาน The Game Awards 2018 แน่นอน และล่าสุดทาง Naughty Dog เองก็ได้ออกมาประกาศเช่นกันว่าเกม The Last of Us 2 นั้นก็จะไม่ได้เข้าร่วมในงานเหมือนกัน ยืนยันจากทาง Twttier ของผู้พัฒนา "เรากำลังตั้งตาดูการเฉลิมฉลองกับปีที่มีแต่เกมเจ๋งๆ ออกมาใน The Game Awards วันพฤหัสบดีนี้ (ในไทยวันศุกร์เช้า) แต่อย่างไรก็ตามพวกเราเองไม่มีอะไรใหม่มาแชร์เกี่ยวกับเกม The Last of US 2 ในงานนี้ โดยเราทำงานอย่างหนักและรอคอยที่จะเปิดเผยเกมมากขึ้นเมื่อถึงเวลา" We’re looking forward to celebrating a year of incredible games at #TheGameAwards this Thursday, however, we won’t have anything new to share from The Last of Us Part II. We’re hard at work and looking forward to revealing more when the time is right! pic.twitter.com/6iP1AA8ncT — Naughty Dog (@Naughty_Dog) 4 ธันวาคม 2561 โดยตัวเกม The Last of US 2 เป็นเกมแนว Action Adventure ที่ลงเฉพาะเครื่อง PS4 โดยเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นสองตัวละครอย่าง Joel และ Ellie ที่จะเป็นเรื่องราว 5 ปีหลังจากภาคแรก ตัวเกมได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากๆ ในเรื่องของเนื้อเรื่องที่ดีงาม และเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ได้รับคะแนนรีวิว 10/10 จากสื่อหลายๆ สำนัก ที่มา Gamingbolt
05 Dec 2018
รวมข้อมูลใหม่เกม The Last of Us 2 จากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา!
เมื่อเร็วๆ นี้เว็บข่าว Games Radar ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้พัฒนา Naughty Dog ผู้สร้างเกม The Last of Us 2 นั่นเอง โดยเว็บได้ตีพิมพ์ข้อมูลใหม่ๆ จากปากผู้พัฒนามากมาย ทั้งเกี่ยวกับตัวเอกภาคใหม่อย่าง Ellie และการกลับมาของตาลุง Joel จากภาคแรกด้วย! Ellie ไม่ต้องการให้คนรู้ว่าเธอมีภูมิต้านทานเชื่อซอมบี้ สำหรับข้อมูลชิ้นแรกนั้น ผู้เล่นบางคนอาจจะสังเกติเห็นรอยสักบนแขนของ Ellie ที่เพิ่มมาใหม่ในภาคนี้ โดยคุณ Kurt Margenau หนึ่งในผู้กำกับเกมเผยว่า Ellie ได้ตัดสินใจสักรอยดังกล่าวเพื่อกลบร่องรอยการถูกกัดจากภาคแรก เพราะเธอต้องการจะปกปิดความจริงเกี่ยวกับภูมิต้านทานเชื้อซอมบี้ในตัวเธอ ส่วนเหตุผลที่ Ellie ต้องปกปิดนั้น คุณ Kurt ไม่ได้อธิบาย แต่ทางผู้เขียนจาก Games Radar วิเคราะห์ว่าอาจจะเป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้เหล่า Fireflies จากภาคแรกค้นหาตัวเธอและ Joel เจอ จึงต้องปกปิดความลับไม่ให้เผยแพร่ออกไป Ellie จะมีความโหดเหี้ยมมากขึ้น และมีความสร้างสรรค์ในวิธีฆ่าคนมากขึ้น จากที่เห็นวีรกรรมอันโชกเลือดของเธอมาแล้วในเทรลเลอร์ของเกม Ellie ในเกม The Last of Us 2 จะมีความโหดเหี้ยมกว่าเก่ามาก แถมยังจะมีลูกเล่นใหม่ๆ เอาไว้จัดการกับเหล่าซอมบี้และผู้รอดชีวิตไม่ประสงค์ดีอีกด้วย โดยผู้กำกับเกมอีกคนคุณ Anthony Newman กล่าวว่า Ellie ในเกมนี้คือคนที่คุณไม่อยากแหยมด้วยแน่นอน เธอเก่งกาจมาก แถมยังเรียนรู้ลูกเล่นใหม่ๆ มากมายตลอดระยะเวลาหลายปี แถม Ellie เองก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่ได้เป็นนักสู้แบบเดียวกับ Joel เธอจึงต้องเรียนรู้ที่จะใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอดมากกว่า Joel จะกลับมา และจะมีบทบาทใหญ่ในเกมอีกครั้ง หนึ่งในคำถามแรกๆ ที่น่าจะคาใจแฟนเกมภาคก่อนคือ แล้ว Joel ไปไหน โดยผู้พัฒนาทั้งสองเผยว่า Joel จะกลับมาในเกมภาคใหม่แน่นอน แต่จะกลับมาแบบไหนยังไม่เปิดเผย ถ้าสังเกติจากสื่อการตลาดที่เราปล่อยออกไป บางคนอาจจะสังเกติว่าเรากำลังพยายามปูเนื้อเรื่องคู่ขนานกันอยู่ ทีมงานของเรามีความซีเรียสกับการเปิดเผยข้อมูลเนื้อเรื่องเกมมากๆ เราคุยกันตลอดเวลาว่าจะปล่อยข้อมูลอะไรเมื่อไหร่บ้าง และข้อมูลทุกชิ้นที่เราเปิดเผยออกมาก็ผ่านการวางแผนมาแล้วมากมาย เพราะเราต้องการจะสร้างประสบการณ์บางอย่างให้ผู้เล่นที่รอเกมของเราอยู่ ส่วนคำถามที่ว่าแล้วตกลงลุง Joel อยู่ไหน อาจจะต้องรอติดตามกันต่อไป คำถามทั้งหมดที่คุณเคยมีในใจจากภาคแรกจะถูกตอบอย่างละเอียดในภาคใหม่แน่ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Ellie และ Joel ก็ยังคงเป็นแกนสำคัญของเกมอยู่เหมือนเดิม คำพูดเกี่ยวกับ เนื้อเรื่องคู่ขนาน อาจจะหมายความว่าเราจะได้เล่นเป็น Joel ในเนื้อเรื่องอีกเส้นที่เล่าพร้อมกันก็ได้ แต่ในอีกแง่หนึ่งการที่ Joel จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องก็ไม่ได้หมายความว่าลุงจะยังไม่ตายเช่นกัน Ellie กับ Joel มีเรื่องบาดหมางกันบางอย่างตอนเริ่มเกม แม้ว่าลุง Joel จะยังอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเราอาจจะไม่ได้เดินทางร่วมกับลุงซะแล้ว เมื่อผู้พัฒนาทั้งสองเปิดเผยว่าเกมจะเริ่มขึ้นในจุดที่ความสัมพันธ์ระหว่าง Ellie และ Joel กำลังถึงจุดต่ำสุด ผลลัพธ์จากการกระทำของ Joel ในภาคแรกจะถูกสำรวจอย่างละเอียดในเกมนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราเรียกเกมนี้ว่าเป็น Part 2 มากกว่าเป็นภาคแยกกันไปเลย เพราะเราไม่ได้มองว่านี่เป็นภาคต่อ แต่เป็นการเล่าเนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกโดยตรงเลย โดยเราจะได้เห็นว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างไรจากเหตุการณ์ในภาคแรก เราจะได้สำรวจสิ่งที่ Ellie ได้รับจาก Joel สิ่งที่ Ellie ปฏิเสธในตัว Joel และผลกระทบของความสัมพันธ์นั้นต่อความสัมพันธ์อื่นๆ ในชีวิตของ Ellie ด้วย การลอบเร้นในเกมเปลี่ยนไปจากภาคแรกมาก เพราะ Ellie เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ต่างจากร่างกายกำยำของลุง Joel ในภาคแรก ทำให้ Ellie สามารถรับความเสียหายได้น้อยกว่า Joel เยอะ เพื่อช่วยเสริมการลอบเร้นของเกม ผู้พัฒนาจึงได้ใส่ระบบการลอบเร้นที่สมจริงขึ้น โดยผู้เล่นจะสามารถใช้หญ้าสูงหรือพุ่มไม้ในการพรางตัวได้ และความหนาของพุ่มไม้หรือหญ้าก็จะทำให้ศัตรูมองเห็นเรายาก-ง่ายอย่างสมจริงด้วย เช่นการหลบซ่อนในพุ่มไม้หนาก็ย่อมให้ผลดีกว่าการซ่อนในกอหญ้าใบเรียวๆ แน่นอน ศัตรูจะฉลาดและอันตรายมากขึ้นเยอะ เป็นเรื่องตลกขบขันให้ล้อกันมาเนิ่นนานกับ AI ศัตรูในเกมภาคแรก ที่ค่อนข้างมีความเฟอะฟะสูงจนบางทีก็ทำให้เกิดสถานการณ์ตลกๆ ขึ้นมาได้บ่อยๆ แต่ผู้พัฒนายืนยันว่าศัตรูในภาคนี้จะร้ายกาจกว่าเดิมมาก ผู้พัฒนาได้เพิ่มชนิดของศัตรูเข้าไปมากมาย แถมยังมีสถานะผิดปกติต่างๆ อย่างในเทรลเลอร์เกมเพลย์ที่ Ellie โดนลูกธนูปักคาอยู่ในแขน โดยผู้พัฒนาเผยว่าการมีธนูปักตัวจะทำให้เราไม่สามารถตั้งสมาธิใช้ Listen Mode ได้ และจะทำให้การยิงปืนยากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ศัตรูในเกมนี้จะสามารถสื่อสารกันได้อย่างสมจริง ศัตรูจะรู้ตำแหน่งของเราก็ต่อเมื่อมีศัตรูตัวอื่นตะโกนบอกเท่านั้น แถมศัตรูยังจะมีภาษาลับไว้ส่งสัญญาณกันด้วย ทำให้เราต้องระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม โดย AI ของศัตรูจะได้รับการปรับปรุงเพื่อตามความสามารถที่เพิ่มขึ้นของผู้เล่นด้วย การต่อสู้กับศัตรูผู้ติดเชื้อจะเปลี่ยนไปเช่นกัน แม้ว่าผู้พัฒนาจะไม่ได้เผยรายละเอียดตรงจุดนี้ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีศัตรูผู้ติดเชื้อชนิดใหม่มากขึ้น แถม AI ของศัตรูก็น่าจะได้รับการปรับปรุงไม่ต่างจาก AI มนุษย์ แค่คิดก็หลอนแล้ว! ยาต้านทานเชื้อซอมบี้จะส่งผลต่อเนื้อเรื่องเกมอย่างมีนัยยะสำคัญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อถามเกี่ยวกับยาแก้เชื้อซอมบี้ในภาคแรก ผู้กำกับทั้งสองได้แต่นั่งเงียบและยิ้มให้กันเบาๆ ก่อนจะตอบว่า คุณคงต้องไปถาม Neil (Druckmann ผู้กำกับใหญ่ของเกม) เอาเองแล้วล่ะ ซึ่งทำให้น่าคิดว่ายาแก้เชื้อจะต้องมีความสพคัญต่อเนื้อเรื่องแน่นอน มากถึงขนาดที่ทำให้ผู้กำกับทั้งสองใบ้กินกันไปเลย! เกม The Last of Us Part 2 ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย
20 Nov 2018
เผยเบื้องหลังหมาป่าในภาพฉลอง Outbreak Day เกม The Last of US 2
เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ค่ายพัฒนา Naughty Dog ได้ทำการฉลองวัน Outbreak Day หรือก็คือวันที่เชื้อราซอมบี้ในเกม The Last of Us เริ่มแพร่กระจายครั้งแรกตามเนื้อเรื่องของเกม โดยนอกจากจะมีการลดราคาเกม The Last of Us และ DLC ทั้งหมดแล้ว ทางค่ายยังได้เผยภาพ Artwork ใหม่จากเกม ซึ่งเป็นภาพวาดชายวัยกลางคนที่น่าจะเป็นลุง Joel กำลังเล่นกีต้าร์อยู่ในป่าโดยที่มีหมาป่าปริศนาอยู่ข้างๆ แฟนๆ ในอินเตอร์เน็ตก็พากันคาดเดาไปมากมายว่าหมาป่าตัวนี้พยายามจะสื่อถึงอะไร โดยหลายคนเชื่อว่าอาจจะหมายถึง Ellie หรือเปล่า อิงจากวีดีโอเกมเพลย์งาน E3 2018 ที่เหล่าศัตรูพากันเรียก Ellie ว่า Wolf หรือหมาป่านั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=btmN-bWwv0A อีกกระแสหนึ่งที่มีความเป็นไปได้คือเจ้าหมาป่าตัวนี้อาจจะเป็นเพื่อนร่วมทางในเกมหรือเปล่า เพราะผู้กำกับเกมอย่างคุณ Neil Druckmann ก็เคยปล่อยภาพที่แสดงให้เห็นหมาดำตัวใหญ่ในชุด Motion Capture ออกมาเช่นกัน เผลอๆ นี่อาจจะเป็นวีดีโอเกมแรกๆ ที่ใช้การ Motion-capture สัตว์ตัวเป็นๆ ไปไว้ในเกมก็ได้นะ! #YearOfTheDog pic.twitter.com/5UpWwkDRMB — Neil Druckmann (@Neil_Druckmann) February 17, 2018 The Last of Us 2 ยังไม่มีกำหนดการณ์วางจำหน่ายใดๆ แต่คาดจะวางจำหน่ายสำหรับ PS4 โดยเฉพาะในปี 2019 นี้ (ขอบคุณข้อมูลจาก GamingBolt)
01 Oct 2018
ขิงไปเรื่อย! เมื่อ Sony บอกว่า The Last of Us คือเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์
ถ้าจะถามคน 10 คนว่าเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยผลิตมาคือเกมอะไร เชื่อว่าก็คงได้คำตอบไม่เหมือนกัน 10 คำตอบ เป็นประเด็นที่เถียงกันยังไงก็ไม่มีวันจบเลย ล่าสุด บริษัทโซนี่เองดูจะมีคำตอบในใจแล้ว โดยได้เผยคำตอบในบทความทวิตเตอร์สุดขิง: Greatest video games, ranked: 20. Honestly 19. you 18. cant 17. rank 16. them 15. because 14. each 13. is 12. amazing 11. and 10. nuanced 9. and 8. delivers 7. fun 6. and 5. challenges 4. in 3. different 2. ways 1. The Last of Us — Sony (@Sony) June 26, 2018 คงไม่มีใครเถียงว่า The Last of Us เป็นเกมที่ดีเยี่ยมมากๆ เกมหนึ่งของวงการเกมยุคปัจจุบัน แต่จะถึงขั้นเป็นเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เลยหรือ? เพื่อนๆ อ่านแล้วคิดว่าเกมที่คู่ควรกับตำแหน่งเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คือเกมอะไร คอมเมนต์เข้ามาคุยกัน!
02 Jul 2018
Naughty Dog เผย The Last of Us 2 อาจจะมีตัวละครให้เล่นมากกว่าหนึ่งตัว
แฟนเกมที่ติดตามข่าวคราวของ The Last of Us 2 น่าจะรู้กันแล้วว่าผู้เล่นจะได้รับบทเป็นน้อง Ellie เป็นหลักในเกม แต่ล่าสุด ผู้พัฒนาจาก Naughty Dog ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับเว็บ Jeuxactu ของฝรั่งเศษว่าค่ายอาจจะแสดงเกมเพลย์ของตัวละครอื่นๆ ด้วยในอนาคต! ข้อมูลในครั้งนี้ได้เปิดเผยโดยหัวหน้าฝ่ายออกแบบเกมเพลย์คุณ Emilia Schatz โดยคุณ Emilia เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าในขณะนี้ค่ายไม่พร้อมจะแสดงเกมเพลย์จากตัวละครอื่นๆ แต่อาจจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในอนาคต สำหรับตัวละครอื่นที่ไม่ใช่ Ellie นั้น เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดถึงลุง Joel เป็นอันดับแรก เพราะลุงยังไม่เคยได้โผล่ออกมาแสดงตัวให้เห็นชัดๆ เลยจนถึงบัดนี้ แม้จะเป็นตัวละครหลักจากภาคแรกก็ตาม (แต่ผู้พัฒนายืนยันว่า Joel ยังมีตัวตนอยู่ที่ไหนซักแห่ง อ่านที่นี่) แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นไปได้มากว่าอาจจะเป็นตัวละครหญิงปริศนาจากเทรลเลอร์ของเกมที่ปล่อยออกมาในงาน Paris Games Week ปีที่แล้ว ที่แฟนๆ หลายคนเชื่อว่าคือ Anna แม่ของ Ellie นั่นเอง (อ่านข้อมูลได้จากบทความเจาะลึก The Last of Us 2 ที่นี่) ทั้งนี้ ทางผู้เขียนบทและกำกับเกมอย่างคุณ Neil Druckmann ได้เคยออกมาพูดอย่างหนักแน่นว่า Ellie จะเป็นตัวละครตัวเดียวที่ผู้เล่นจะได้เล่น แต่ตัวคุณ Neil เองก็เคยพูดไว้ตอนเกมภาคแรกเช่นกันว่าผู้เล่นจะสามารถเล่นเป็น Joel ได้เท่านั้น แต่ในเกมจริงสุดท้ายก็มีช่วงที่ให้ได้เล่นเป็น Ellie เหมือนกัน จึงเป็นไปได้ว่าคุณ Neil อาจจะกำลังพยายามสับขาหลอกแฟนๆ อีกก็ได้ คงต้องรอดูกันต่อไปแหละ!
27 Jun 2018
ข้อมูลใหม่จากผู้พัฒนา The Last of Us 2
หลังจากที่เปิดตัวเดโมเกมเพลย์สร้างเสียงฮือฮาในงานแถลงข่าวของโซนี่เมื่อเร็วๆ นี้ ล่าสุดทางทีมงานผู้พัฒนาเกม The Last of Us 2 จากค่ายหมาซน Naughty Dog ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเนื้อเรื่องและระบบการเล่นในเกมภาคใหม่ในงานเสวนา E3 Coliseum สามารถสรุปรายละเอียดได้ดังนี้: เกมจะให้ความสำคัญกับการเคลื่อนที่ไปมาตามฉากมากขึ้น ผู้เล่นจะต้องใช้สิ่งของตามฉากเพื่อหลบซ่อนหรือเอาตัวรอดจากศัตรูมากกว่าภาคที่แล้ว (อย่างในเดโมที่เห็น Ellie คลานไปใต้ท้องรถ หรือกระโดดลอดช่องระหว่างชั้นวางของ) เกมจะเพิ่มปุ่มกระโดดเข้าไป ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในภาคแรก ระบบการหลบหลีกการโจมตีที่แสดงในเดโมจะมีความสำคัญมากๆ ในเกม A.I. ศัตรูจะฉลาดมากขึ้น สามารถสื่อสารกันเองได้อย่างละเอียดสมจริงมากขึ้น ถึงขนาดเรียกกันด้วยชื่อเลยทีเดียว! ผู้พัฒนาต้องการจะสื่อถึงความทุรนทุรายของ Ellie ในการดิ้นรนเอาตัวรอด การหลบซ่อน (Stealth) จึงมีความสำคัญมากในเกม การหลบซ่อนตามพุ่มไม้จะต้องคำนึงถึงความหนาและความสูงของพุ่มด้วย ไม่งั้นศัตรูอาจจะมองเห็นได้อยู่ดีถ้าเข้ามาใกล้เกินไป เกมจะยังคงดำเนินไปแบบเป็นเส้นตรงตายตัว (Linear Progression) แต่จะเพิ่มความกว้างเข้าไปในฉากต่างๆ เพื่อให้ผู้เล่นมีทางเลือกในการรับมือกับศัตรูมากขึ้น ระบบการสร้างอุปกรณ์ (Crafting) ในเกมได้ถูกพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยผู้เล่นจะสามารถสร้างกระสุนชนิดพิเศษได้หลายชนิด (เช่นธนูระเบิดที่แสดงในเดโม) เอาไว้รับมือกับสถานการณ์ต่างๆ กราฟิคของเกมได้รับการปรับปรุงอย่างมาก จากการพัฒนาของเทคโนโลยี Motion Capture ที่สามารถแสดงสีหน้าและแววตาได้สมจริงกว่าเกมอื่นๆ ของค่ายอย่าง Uncharted 4 ซะอีก ผู้พัฒนาเปรียบเทียบเนื้อเรื่องขอเกมภาคใหม่ไว้ว่าจะมีความคล้ายคลึง DLC Left Behind ของภาคแรก เหตุการณ์ในโบสถ์ในฉากจบของเดโมเกิดขึ้น 4 ปีหลังจากจบภาคแรก ในเมือง Jackson (ที่ Joel พา Ellie ไปซ่อนตอนจบเกม) Joel ยังคงมีตัวตนอยู่ที่ไหนซักแห่งใน Jackson The Last of Us 2 ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่าย แต่ถ้ามีข่าวคราวอะไรเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลเกมได้ที่เว็บ GameFever แน่นอน! ชมเดโมเกมเพลย์ได้ ที่นี่
13 Jun 2018
เจาะลึกเกม E3 2018: The Last of Us 2
วันวางจำหน่าย: ไม่มีข้อมูล Platform: PS4 เปิดตัววันแรก: 3 ธันวา 2016 (ข่าวลือมาตั้งแต่มิถุนา 2015) แนว: Third-person Action งาน E3 ของทุกปีถือเป็นอีเวนท์ที่ใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งของเกมเมอร์ตัวจริงทุกคน โดยในปีนี้อาจจะน่าสนใจเป็นพิเศษเพราะมีภาคต่อของเกมระดับเทพหลายเกมพากันมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้เราได้เห็นจะๆ กันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น The Division 2 หรือ Kingdom Hearts 3 ที่จะเปิดให้ผู้เล่นทั่วไปอย่างเราๆ ได้เห็นหน้าตากันจริงๆ ในงาน แน่นอนว่าหนึ่งในเกมภาคต่อที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับขา Playstation ตัวจริงทุกคน คือเกม The Last of Us 2 ภาคต่อของเกมในตำนานจากค่าย Naughty Dog ที่หลายๆ คนยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดของเครื่อง PS3 เลยทีเดียว (ขนาดภาค PS4 ยังมีคนเล่นเต็มเลย) ก่อนหน้าจะถึงงาน E3 ที่จะจัดขึ้นภายในไม่กี่อาทิตย์นี้แล้ว ทีมงาน GameFever จึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่มีเกี่ยวกับเกมมาไว้ในบทความนี้ให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันแบบง่ายๆ ก่อนจะไปรับฟังรายละเอียดเกมเต็มๆ ในงาน E3 ประวัติซีรี่ย์ คิดว่าเกมเมอร์หลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับเกม The Last of Us อยู่บ้างไม่มากก็น้อย เกมแนวแอคชั่นจากบั้นปลายของยุค PS3 ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้เล่นทั่วโลกด้วยคุณภาพอันน่าทึ่ง ทั้งในเรื่องของกราฟิค เนื้อเรื่อง ไปจนถึงระบบการเล่น ที่แม้จะไม่ได้หวือหวาแต่ก็ช่วยเอื้อในการสร้างบรรยากาศและอารมณ์ของเกมในระดับที่น้อยเกมจะสามารถเทียบได้ในตอนนั้น แม้ว่าเนื้อเรื่องของการเอาตัวรอดในโลกซอมบี้จะไม่ได้ใหม่อะไร แต่เกมกลับเลือกที่จะสนใจความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่เล่าออกมาได้อย่างลึกซึ้งและน่าติดตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากนี้ เกมยังมีระบบ Multiplayer ออนไลน์ที่มีเอกลักษณ์ ด้วยการนำคอนเซปของการเป็น ‘ผู้รอดชีวิต’ มาใส่ในโหมด ทำให้ผู้เล่นทุกคนมีกระสุนและทรัพยากรณ์จำกัดเหมือนกับตอนเล่นคนเดียว ทำให้ต้องระมัดระวังและใจเย็นมากกว่าเกม Multiplayer อื่นๆ ซึ่งทำให้โหมดยังคงรักษาฐานผู้เล่นไว้ได้นานมากๆ แม้กระทั่งในเวอร์ชั่น Remastered ของเกมในเครื่อง PS4 สำหรับภาคใหม่นี้ ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับเกมจริงๆ น้อยมากๆ โดยข้อมูลที่ผู้พัฒนาเคยเปิดเผยมีเพียงแค่ว่าเนื้อเรื่องของภาคใหม่นี้จะเกิดขึ้น 5 ปีหลังจากภาคแรก และจะเกี่ยวข้องกับ ‘ความเกลียดชัง’ เป็นหลัก ต่างจากภาคก่อนที่เกี่ยวกับ ‘ความรัก’ และเราจะได้รับบทเป็น Ellie เด็กสาวผู้ติดตามตัวละครผู้เล่นหรือ Joel จากภาคแรก แทนที่จะได้เล่นเป็น Joel อีกครั้ง วิเคราะห์เทรลเลอร์ เกมปล่อยเทรลเลอร์ตัวแรกช่วงปลายปี 2016 ที่งาน PSX (Playstation Experience) 2016 ความยาวประมาณ 4 นาที ซึ่งเนื้อหาในเทรลเลอร์จะเป็นการเห็น Ellie ผู้ซึ่งอายุ 19 แล้ว กำลังเล่นกีต้าร์ในบ้านที่เต็มไปด้วยศพคนตาย ซึ่งดูเหมือน Ellie จะเป็นคนฆ่าเองทั้งหมด แม้ว่าในเทรลเลอร์จะไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ก็ยังคงมีแฟนๆ มากมายที่พยายามจะปะติดปะต่อเรื่องราวของเกมจากเทรลเลอร์ เช่น จากฉากที่เห็นมือของ Ellie สั่นๆ อาจจะแปลว่าเชื้อซอมบี้ในร่างกายของเธอกำลังแพร่กระจายไปก็ได้ ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลที่ Ellie ดูจะมีความโหดเหี้ยมมากขึ้น แถมยังมีฉากที่แสดงให้เห็นว่า Ellie อาจจะโดนผู้ติดเชื้อกัดเข้าอีกครั้งตรงคอ หลังจากที่เคยโดนกัดที่แขนในเกมภาคแรก ทางเว็บ IGN เคยวิเคราะห์เพิ่มเติมเอาไว้ด้วยว่า การที่เทรลเลอร์ไม่แสดงหน้าของ Joel ให้เห็นเลย แถม Joel ยังดูจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับศพที่เกลื่อนอยู่รอบตัวของ Ellie อาจจะหมายความว่า Joel ในเทรลเลอร์อาจจะเป็นภาพหลอนที่ Ellie สร้างขึ้น และเหล่าศพที่นอนอยู่รอบๆ อาจจะเป็นสมาชิกกลุ่ม Firefly ที่ฆ่า Joel ก็เป็นได้เหมือนกัน ประมาณหนึ่งปีหลังจากที่ปล่อยเทรลเลอร์ตัวแรก เกมก็ได้เปิดตัวเทรลเลอร์ตัวที่สองที่งาน Paris Games Week ที่จัดขึ้นช่วงปลายปี 2017 ซึ่งเนื้อหาในเทรลเลอร์แสดงถึงตัวละครหญิงหน้าใหม่ 4 ตัวที่กำลังโดนจับมาทรมานโดยมนุษย์กลุ่มนึง โดยนักวิเคราะห์ชาวเน็ตทั้งหลายมองว่าเทรลเลอร์นี้อาจจะเป็นฉากย้อนหลังไปถึงตัวแม่ของ Ellie หรือ Anna ตัวละครที่มีการกล่าวถึงทั้งในเกมหลัก และใน DLC ต่างๆ ของเกมภาคแรก โดยทฤษฎีนี้ได้รับการสนับสนุนจากข้อความในทวิตเตอร์ของผู้พัฒนา Naughty Dog ที่ไม่ยอมเฉลยชื่อตัวละครตัวหนึ่ง แม้ว่าจะเฉลยชื่อของตัวละครตัวอื่นๆ ในเทรลเลอร์ไปหมดแล้ว จากภาพเห็นได้ว่าตัวละครมีชื่อที่สะกดด้วยตัวอักษรสี่ตัว (เหมื่อนชื่อ Anna) แถมตัวละครตัวนี้ยังดูเหมือนจะท้องลูกอยู่ด้วย จากที่มีตัวละครผู้หญิงตัวหัวหน้ากลุ่มมนุษย์ชี้ไปที่ท้องของเธอในตอนต้นของเทรลเลอร์ด้วย แฟนๆ ที่เล่นภาคแรกอาจจะจำได้ว่าแม่ของ Ellie คลอดเธอออกมาหลังจากที่เชื้อราซอมบี้ได้แพร่ไปทั่วแล้ว จึงคิดได้ว่าเกมอาจจะมีการเล่าย้อนไปถึงช่วงที่เชื้อเริ่มแพร่ใหม่ๆ ก่อนที่เหตุการณ์ในเกมภาคแรกจะเกิดอีกด้วย! อีกหนึ่งรายละเอียดที่น่าสนใจสำหรับผมคือการที่มีตัวละครผู้หญิงที่ดูจะเป็นพวกเดียวกันอยู่ 4 คน แถมเทรลเลอร์ยังจบด้วยฉากที่ผู้หญิงทั้งสี่เตรียมรับมือกับฝูงซอมบี้ที่กำลังถาโถมเข้ามาจากทุกทิศ ผมจึงเดาไปเองว่านี่อาจจะเป็นการโชว์ถึงโหมด co-op horde mode ในเกมหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นแค่ฉากเล่าย้อนตามเนื้อเรื่องก็ได้ คงต้องรอดูในงาน E3 2018 นี้ ในงานประชุมของโซนี่ ที่จะจัดในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ เวลา 8.00 น. สาระน่ารู้อื่นๆ: - เกมภาคแรกเคยได้รับการสร้างเป็นเวอร์ชั่นละครเวที ที่เขียนและกำกับโดยคุณ Neil Druckmann ผู้เขียนเนื้อเรื่องของเกม ซึ่งในตอนจบของละครเป็นฉากที่ Joel มอบกีต้าร์ให้ Ellie ตามที่สัญญาเอาไว้ว่าจะสอน Ellie เล่น เป็นที่มาของกีต้าร์ในเทรลเลอร์ตัวแรก - เนื้อเรื่องเกมภาคสองได้รับการร่วมมือจากคุณ Halley Gross ผู้เขียนบทซีรี่ย์เรื่อง Westworld ของช่อง HBO ด้วย - เพลงที่ Ellie ร้องในเทรลเลอร์ชื่อว่าเพลง ‘Through the Valley’ ของศิลปิน Shawn James ซึ่งเป็นเพลงที่มียอดฟังและรีวิวดีที่สุดของศิลปินคนนี้บน Spotify หลังจากที่เทรลเลอร์เกมปล่อยออกมา อ่านบทความเจาะลึกเกมอื่นๆ ได้ที่นี่
30 May 2018